วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2555

ใบไม้แห้งบนพื้นหญ้าเขียว


ใบไม้แห้งบนพื้นหญ้าเขียว
อากาศช่วงยามเดือนเมษายนเช่นนี้ มักจะร้อนแรงมากๆ ถึงแม้ว่าจะนั่งอยู่ในรถที่มีแอร์เย็นฉ่ำก็เถอะ ครั้นพอลงจากรถ ไอร้อนจะพากันปะทะผิวหน้าผิวกายอย่างไม่บันยะบันยัง มีบ้างบางช่วงบางเวลาต้องอาศัยรถเมล์ รถมอเตอร์ไซต์รับจ้าง    ความร้อนที่แรงเหลือแผ่ซ่านผิวแขนผิวหน้าถึงกับแสบๆคันๆปะปนกับเหงื่อที่ไหลย้อย บางเวลาก็ต้องหาความเย็นจากรถแท็กซี่ ครั้งหนึ่งได้เจอคุณคนขับที่ทำให้ความร้อนภายนอกกลายเป็นความเย็น จากการได้พูดคุยแบบมองโลกในแง่ดีสุดๆ คุณพี่ท่านนั้นบอกว่า เขานั้นสบายหน่อยที่ได้ทำงานในห้องแอร์ ผิวพรรณเลยขาวเนียน แล้วก็หัวเราะชอบใจ “ขาวปี๋ซิไม่ว่า 5555” คนอารมณ์ดีแบบนี้ต่อให้อากาศจะร้อนจะหนาวอย่างไร ก็มีมุมมองต่อโลกแบบสวยงามได้เสมอ
มีโอกาสได้ไปออกกำลังยามเย็นบ้างในสวนสาธารณะใต้สะพานแขวน แต่กว่าแดดจะร่มจริงๆก็ต้องเลยหกโมงเย็นไปแล้ว ในขณะที่กำลังเดินยืดเส้นยืดสายก่อนออกวิ่ง ใบไม้แห้งใบหนึ่งร่วงหล่นลงมาบนพื้นหญ้าที่เขียวขจี สีของใบไม้ที่ไหม้แดดตัดกับพื้นหญ้าสีเขียวที่มีผู้ดูแลให้น้ำเช้าเย็น ทำให้นึกภาพของชีวิตคนเราได้เป็นอย่างดี ใช่หรือไม่... บางช่วงชีวิตเราก็เป็นเช่นหญ้าเขียวมีผู้ดูแล ทะนุถนอม เอาใจใส่เลี้ยงดู คอยตัดเล็มตบแต่งให้สวยสดงดงามเสมอ นั่นคงเป็นชีวิตของวัยเด็ก ช่วงวัยรุ่น วัยที่มีผู้ดูแลเพื่อให้วัยนี้เป็นวัยที่งดงามควรคู่กับสังคม แต่เด็กๆวัยรุ่นก็มักจะมองข้ามผ่านความหวังดี ความใส่ใจของผู้สูงวัยกว่า อยากจะครอบครองอิสระ อยากจะมีพื้นที่ถือครองของตัวเอง ไม่เข้าใจถึงความห่วงหาอาทร แต่คิดว่าเป็นการลิดลอนสิทธิ์ไปเสียอีก มีบ้างที่ผู้ดูแลบางคนปรนเปรอเลี้ยงดูจนเกินงาม ให้น้ำให้ปุ๋ยจนเกินควร หญ้าแทนที่จะเขียวสดใสก็ต้องเหี่ยวเฉาก่อนวัย
ส่วนใบไม้ที่ร่วงหล่นจากต้นสูง ก็คงไม่ต่างกับชีวิตคนเรา เมื่อถึงวัยถึงเวลาก็ลาลับจากโลก แต่สิ่งที่จะคงอยู่นั้นคงเป็นความดีงาม แสงสว่างที่เปล่งประกายฝากทอแสงไว้ให้กับโลก มากน้อยแตกต่างกันตามแต่วิถีชีวิตของแต่ละบุคคลที่ได้เดินไปตามทางที่ตัวตนเป็นผู้กำหนด จะเดินไปในแนวทางแห่งพลังรัก พลังศรัทธาในความเชื่อ หรือจะเลือกเดินไปตามแนวที่คิดเองเออเองอวยเอง แต่สุดท้ายก็ต้องมีวันที่แห้งเหี่ยวล่วงหล่นตามกาลเวลา หรือมีบ้างบางคนเป็นใบไม้ไหม้แดด แก่แดด เลยต้องลาลับร่วงหล่นก่อนกาลเวลา 
และถ้าคนสองวัยได้อยู่ร่วมกัน ในที่เดียวกันได้อย่างกลมกลืน มีความเมตตาต่อกัน มีสายใยรักให้กัน รู้จักอภัยและเห็นค่ากัน นี่จึงเป็นจุดยึดโยงของความเป็นครอบครัวที่ควรคู่กับสังคม หากครอบครัวใดไร้รัก ครอบครัวนั้นย่อมไม่พบกับสันติสุข จิตใจของคนในครอบครัวก็จะมีแต่ความคับแคบ แค้นเคือง ใครจะเป็นจะตายไม่สน แยกบ้านกันอยู่ แยกที่กันกิน ยามทุกข์จะหันหน้าปรึกษากันก็ไม่สนิทใจ คนสองวัยใจสองทางหมางเมินเหินห่างกันไกล ไม่นานต้นไม้ใหญ่ใบก็หล่นร่วงหมดต้นและยืนต้นตาย ร่มเงาให้หญ้าก็ไม่มี แดดร้อนแรงมีพลังเร่งเผาไหม้ คนดูแลไม่สนใจไม่นานก็ตายตามกันไป สายสัมพันธ์แห่งความห่วงใยเป็นดังห่วงโซ่อาหารตามธรรมชาติ ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งย่อมส่งผลถึงอีกสิ่งหนึ่งตามมา
มีบทความบทหนึ่งเป็นจดหมายของพ่อแม่ได้เขียนถึงลูกไว้ว่า
ลูกรัก, เมื่อพ่อกับแม่เริ่มแก่ตัว เราหวังว่าลูกจะอดทนเราทั้งสองได้บ้าง บางคราวที่เราทำจานทำแก้วแตก หรือทำแกงหกบนโต๊ะ เพราะสายตาไม่ดี ลูกคงไม่ตวาดใส่เรานะลูก คนแก่มักจะอ่อนไหว ถูกตวาดเมื่อใดก็จะน้อยใจมากๆ เลย ลูกรู้ไหม….
เมื่อใดที่หูเราดับ เราจะไม่ได้ยินลูกเลย...ขอลูกอย่าตะคอกถามเราว่า หูหนวกหรือไงโปรดพูดช้าๆ อีกครั้ง หรือจะเขียนให้เราอ่านก็ได้นะ
ลูกรัก,  พ่อกับแม่เสียใจที่แก่ตัวแล้วอย่างนี้  เมื่อแม่เขาลุกไม่ขึ้นเพราะเข่าไม่ดี เราก็หวังว่าลูกจะช่วยพยุงให้แม่ลุกขึ้นได้ เหมือนกับที่เราเคยช่วยพยุงลูกเมื่อเริ่มหัดเดินนั่นแหละลูกเอ๋ย  
เราหวังว่าลูกจะทนฟังเราได้ เมื่อเราเริ่มพูดซ้ำซาก ขอลูกอย่าทำให้เราเป็นตัวตลก หรือกลัดกลุ้มที่จะฟังเราเลย ลูกจำได้ไหม เมื่อยังเล็ก ลูกเฝ้าพร่ำวอนกับพ่อว่าอยากได้ลูกโป่งใบนั้น ลูกพูดแล้วพูดอีกจนแม่ต้องซื้อให้ในที่สุด….
ลูกเอ๋ย...ถ้าลูกเริ่มแก่ตัว ลูกจะมีเวลาว่างเหลือเฟือเลย เราหวังว่าลูกจะคุยกับเราบ้างแค่ไม่กี่นาทีก็พอแล้ว เพราะพ่อกับแม่ต้องเหงาอยู่กับตัวเองตลอดเวลาและไม่รู้จะคุยกับใครเลย เรารู้ดีว่าลูกต้องยุ่งกับธุรกิจการงาน แต่ก็ขอเวลาคุยกับเราสักนิดเถอะ ลูกเอ๋ย แม้เรื่องของเราจะไม่น่าสนใจเลยก็ตาม ลูกจำตอนเด็กๆ ได้ไหมว่า ลูกมีเรื่องเล่าให้พ่อแม่ฟังมากมายเหลือเกิน แล้วเราก็เออๆ ออๆ รับฟังลูก ทำท่าเป็นสนใจและรู้เรื่องดีทุกครั้งไป
ลูกเอ๋ย...เมื่อวาระสุดท้ายคืบคลานมาหาพ่อกับแม่  พ่อกับแม่หวังว่าลูกจะจับมือเราไว้ ให้เราเข้มแข็งและไม่หวั่นวิตกต่ออนาคตที่ไม่รู้ว่ามีอยู่หรือไม่ ในที่สุดแล้ว...เมื่อเราได้ไปเฝ้าพระผู้สร้าง พ่อกับแม่จะพร่ำกระซิบท่านที่ข้างหู ถึงความดีงามของลูกที่รู้จักรักและกตัญญูต่อพ่อแม่
ลูกรัก...พ่อกับแม่ขอขอบใจทุกอย่าง ในความรักและเอาใจใส่ที่ให้กับเรา    
รักลูกมาก
(จากเรื่องที่ส่งต่อกันมาทางอินเทอร์เน็ต)
http://astore.amazon.com/konkhangwat04-20

ไม่มีความคิดเห็น: