วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ข่าวดีไม่สิ้นหนทาง


ข่าวดีไม่สิ้นหนทาง
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา บนพื้นพิภพมีเหตุการณ์ที่ทำให้หมู่มวลมนุษย์มุ่งสนใจเป็นพิเศษอยู่ด้วยกันหลายต่อหลายเหตุการณ์  ...  พระราชพิธีเสกสมรสระหว่างเจ้าชายวิลเลียม และ เคต มิดเดิลตัน จัดขึ้นที่มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา มีฝูงชนกว่าล้านคนที่ไปร่วมงานและมีผู้ชมผ่านหน้าจอทีวีทั่วโลกอีก 2,000 ล้านคน ทุกสายตาเฝ้าติดตามความสง่างามตามแบบราชประเพณีแต่เก่าก่อน สื่อในประเทศไทยแทบทุกช่อง ต่างก็ถ่ายทอดรายงานกันสดๆ และช่วงชิงคนดูด้วยการให้ผู้รู้มาแสดงทัศนะและความรอบรู้ในศาสนพิธี ผิดบ้างถูกบ้าง รู้บ้างไม่รู้บ้างก็ว่ากันไป
แต่...โชคดีที่ทางช่องโมเดิร์นไนน์ ได้เชิญอาจารย์ชัยณรงค์ มนเทียรวิเชียรฉาย ผู้คุ้นเคยประเทศอังกฤษในฐานะผู้ที่เคยเป็นผู้ประกาศข่าวให้กับ BBC สถานีโทรทัศน์ของประเทศอังกฤษ และเป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจในพิธีศีลสมรสเป็นอย่างดี เพราะท่านเป็นคริสตชนที่ศรัทธาและเป็นกำลังหลักให้พระศาสนจักรไทยมาอย่างยาวนานเช่นกัน ท่านจึงบรรยายบรรยากาศความหมายของพิธีกรรมในวันนั้นได้อย่างถูกต้อง น่าฟัง โดยเฉพาะคำสัญญาของศีลแต่งงาน บางช่องก็ยังแปลความตามศัพท์โดยไม่เข้าใจความหมายที่ลึกซึ้ง และแทนที่จะให้ความสำคัญกับการปฏิญาณรัก บางคนกลับไปให้ความสำคัญของการที่รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชวงศ์อังกฤษ ทรงจุมพิตพระชายา ระหว่างเสด็จออก ณ ระเบียงมุขของพระราชวังบักกิงแฮม
และเพียงชั่วข้ามคืนข่าวนี้ก็หมดความหมายไปเมื่อมีข่าวที่ดุเด็ดกว่า เมื่ออุซามะห์ บิน ลาดิน แกนนำเครือข่ายอัลกออิดะห์ตายแล้ว!!! ต่อมาประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา ประเทศผู้ยิ่งใหญ่เบอร์หนึ่งของโลก แถลงข่าวว่า อุซามะห์ บิน ลาดิน แกนนำเครือข่ายอัลกออิดะห์ เสียชีวิตแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ในการต่อสู้กับกองกำลังของสหรัฐฯ ในประเทศปากีสถาน โดยพบศพของเขาแล้ว นับเป็นเวลาร่วม 10 ปีหลังการโจมตีวินาศกรรมเมื่อ 11 กันยายน ปี 2001 ที่บิน ลาเดนเป็นคนบงการแล้วเขาก็รอดพ้นจากการไล่ล่า ความแค้นสิบปีก็ไม่สาย นี่หนทางที่มนุษย์เลือกใช้กระนั้นหรือ!!!!! ข่าวนี้สร้างความปีติแก่ครอบครัวที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักในเหตุการณ์ครั้งนั้น แต่ดูเหมือนว่าข่าวนี้ก็จะสร้างความหวาดระแวงให้กับคนทั่วโลก เพราะการแก้แค้นด้วยการแก้แค้นมิอาจจะนำมาซึ่งสันติภาพได้ เช่นเคยข่าวนี้จะถูกฉายซ้ำไปมา แล้วก็ทำเนียนเพิ่มแต่งด้วยองค์ความรู้ในศาสตร์ทุกๆด้านโดยผู้สันทัดกรณีประจำตู้จอ ที่จะออกมาจ้อตามระเบียบสื่อมวลชนประเทศไทย...
แต่ในระหว่างสองเหตุการณ์นี้มีสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่า เป็นข่าวดีที่แทรกระหว่างกลาง นั่นคือพิธีสถาปนาสมเด็จพระสันตะปาปา ยอห์น ปอล ที่ 2 เป็นบุญราศี หน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร กรุงโรม ท่ามกลางผู้ไปร่วมพิธีประมาณสองล้านคน ภาพมุมสูงทำให้เห็นว่าในถนนที่มุ่งสู่วาติกันเต็มไปด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศ แต่...สิ่งที่น่าใจหายคือ สื่อในประเทศไทยไม่ได้นำเสนอข่าวนี้เลย มีเพียงไม่กี่สำนักข่าวที่นำเสนอข่าวนี้ และก็นำเสนอแค่สรุปเหตุการณ์เพียงเท่านั้น หรือนี่เป็นเพราะเราเป็นคนกลุ่มน้อยในประเทศนี้ หรือเพราะสื่อคิดว่าข่าวนี้ เหตุการณ์นี้ขายไม่ได้ หรือเพราะอะไร.....
แต่เนื่องเพราะว่าข่าวดีไม่มีวันที่สิ้นหนทางในการเผยแพร่ ประจวบเหมาะกับวันนี้เรามีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เพียงปลายนิ้วสัมผัสก็สามารถเชื่อมโยงจากทุกมุมโลกมาไว้ที่หน้าจอ ตรงนี้ในโลกไซเบอร์จึงมีบทบาทอย่างสูงยิ่งที่ทำให้คริสตชนไทยได้มีโอกาสได้ร่วมบรรยากาศแห่งความยิ่งใหญ่ของบุญราศี ยอห์น ปอล ที่ 2 และที่สำคัญ คนที่ใช้เครื่องมือเหล่านี้เป็นคนรุ่นใหม่ ที่อุทิศตน อุทิศเวลา เพื่อเป็นคนส่งสารสู่ผู้อื่น เป็นดังเทวดาที่ถือสารสู่หน้าจอ นำข่าวดีไปจรรโลมจิตใจ เพื่อยืนหยัดความเป็นคริสตชนได้อย่างมั่นคง และสิ่งนี้ได้ถูกบันทึกไว้บนหน้า page ของ facebook/popereport ที่มีผู้เข้าไปชมการถ่ายทอดสดถึงสี่พันคน รวมทั้งช่องทางอื่นๆอีก 3-4 ช่องทาง ก็มีผู้รับชมเป็นพันๆคนเช่นกัน และสิ่งที่จะลืมเสียมิได้ วัดเซนต์หลุยส์ของเราผ่านทาง คุณพ่อศักดิ์ชัย ทรัพย์อัประมัย เจ้าอาวาส และครอบครัวเอี่ยมศรี ที่ได้มีส่วนให้การสนับสนุนการถ่ายทอดครั้งนี้ นี่เป็นการมองเห็นช่องทางการสื่อสารความเชื่อผ่านสื่อสมัยใหม่ที่กำลังมีอิทธิพลอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน เป็นอีกหนทางหนึ่งในการประกาศข่าวดีอย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงผู้คนอย่างง่ายดาย
เมื่อมองดูเหตุการณ์ที่ผ่านมา เราจะเห็นว่าพระเจ้ามีทางให้เราเลือกที่จะใช้นำข่าวดีออกไปให้ผู้คนที่มีหัวใจศรัทธา ให้คนที่ยังไม่เข้าใจในพระธรรมคำสอนของพระเยซูเจ้า ให้กับคนที่ยังแสวงหาความจริงไม่พบ เพียงแต่ว่าวันนี้เรากล้าพอไหม ที่จะออกไปยืนบนหนทางนี้ เรารู้จักที่จะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ให้เป็นประโยชน์อย่างไร? หากว่าอยุธยาไม่เคยสิ้นคนดี ข่าวดีก็ไม่มีวันสิ้นหนทางในการเผยแพร่ และหากว่าเรายึดมั่น มุ่งมั่นในสิ่งที่ทำ โดยมีมโนสำนึกเสมอว่านี่คือความดีงาม ก็จงทำ ทุกสิ่งเพื่อพระองค์ คือคำที่บุญราศี ยอห์น ปอล ที่ 2 ยึดมั่นมาโดยตลอดพระชนม์ชีพ ภารกิจที่พระองค์กระทำได้พิสูจน์แล้วว่ามิได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อพระแม่เจ้า เพื่อพระเจ้า แล้ววันนี้เราทำอะไรเพื่อพระองค์บ้าง ทำอะไรบ้างเพื่อประกาศข่าวดีที่ไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง....
****วาติกันแถลงเรื่องการเสียชีวิตของ อุซามะห์ บิน ลาดิน ว่า การที่คนๆหนึ่งเสียชีวิต คริสตชนไม่ควรดีใจ แต่เราต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบของตนเอง ในการอุทิศตนให้กับการแสวงหาสันติภาพและยุติความรุนแรงทุกชนิด นอกจากนี้ วาติกันยังขอร้องคริสตังทุกคน อย่าฉลองความตายของ อุซามะห์ บิน ลาดิน  เพราะมันจะเพิ่มความเกลียดชังไปทั่วโลก

ไม่มีความคิดเห็น: