วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ไม่มีใครเก่งได้ทุกที่


ไม่มีใครเก่งได้ทุกที่
            ในชีวิตจริงมีสิ่งหนึ่งซึ่งพึงระวัง นั่นคือ อาการหลงตัวเอง และภาคภูมิใจในความเก่งกาจสามารถของตัวเอง ไม่มากก็น้อยเราทุกคนย่อมเคยพลัดหลงเข้าไปเมามัวกับอาการนี้ หลายคนฝืนรั้งใช้พลังความเข้มแข็งภายในที่มีคอยฉุดจึงหลุดรอดมาได้ หลายคนหลงเข้าไปวนเวียน วุ่นวาย เข้าๆออกๆกับอาการนี้ แล้วเกิดเสพติดจึงหาทางออกไม่พบ แล้วก็สมยอมพร้อมตายไปกับการอวดดีถือเก่ง มีไม่น้อยที่คล้อยตามกับคำสรรเสริญเยินยอ ยกย่องว่าเก่งกาจสามารถ มีไม่น้อยพลอยดีใจกับคนรอบข้าง คำรอบหูที่ส่งเข้ามา ชื่นชม เพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่คนเหล่านั้นปรารถนา แต่...ก็ยังมีหลายคนเพียงแค่ผิวผ่าน หาได้ขานน้อมรับตกเป็นเหยื่อ เป็นทาสของอารมณ์หลงในตัวตนไม่ แน่ล่ะ.. เราล้วนได้รับพระพร พรสวรรค์ในด้านที่แตกต่างกัน ทั้งนี้เพื่อให้เราใช้พระพรด้านพิเศษเพื่อกลมเกลียว สานสัมพันธ์ เกื้อกูล อำนวยทางให้แก่กันและกัน ให้ได้เดินไปสู่ยังจุดหมายปลายทางที่งดงาม
            ในยุคสมัยที่เราเทิดทูนคนเก่งมากกว่าคนดี จึงมีผู้คนไม่ใช่น้อย ที่ไม่ยอมน้อมรับถึงสัมพันธภาพระหว่างสิ่งมีชีวิตและสรรพสิ่งสร้าง ยึดพระเจ้าในนามของตัวเองไว้ครอบครอง หรือเลยเถิดจนไปคิดว่า ตัวเองเป็นพระเจ้าเสียเอง ที่หยั่งรู้ทุกสรรพสิ่ง นับวันยิ่งอันตรายสำหรับค่านิยมที่เก่งเกินใครเพียงผู้เดียว แต่ละคนทำตัวให้เก่ง ให้รู้ไปเสียทุกเรื่อง และมักโกรธเคืองเมื่อมีคนอื่นเสนอแนวทางที่แตกต่าง ซ้ำร้ายหลงในความอัจฉริยะของตัวเอง  โดยมิได้ฟังความรอบด้าน พยายามครอบครองโอกาสเพื่อแสดงความสามารถ ไม่มีการแบ่งปันความดีงามให้ผู้อื่นได้กระทำ ไม่เว้นระยะและให้ผู้อื่นเป็นทางเลือกในการอุทิศตัว สิ่งนี้คือภัยแห่งยุคสมัย  ภัยมืดที่มาพร้อมกับความเห็นแก่ตัวด้วยการแอบเร้นมาในรูปของความเก่งกาจ ...
            แน่นอน..ในบางที่เราอาจจะเป็นคนเก่งที่สุด แต่...ใช่หรือไม่ พอเราไปอยู่อีกที่ที่หนึ่งเราอาจจะเป็นเพียงท้ายแถว หรืออาจกลายเป็นคนที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะโลกกว้างใหญ่ใครเลยจะมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง ในขณะที่..ที่ที่เราอยู่ เราเป็นผู้นำ พอไปอยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง ในสถานการณ์หนึ่ง ในสถานที่อีกแห่งหนึ่ง เราก็กลายเป็นผู้ตามผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือและแนะนำ ในบางเวลาเราอาจจะเป็นผู้บรรยาย ผู้มอบความรู้ผู้สอนให้แก่ผู้อื่น เช่นกัน หลายครั้งเราก็กลายเป็นผู้ร่วมรับฟัง กลายเป็นผู้เรียน เป็นผู้ร่วมสัมมนา และที่สำคัญ เราต้องฉลาดพอที่จะหาตัวช่วย เพื่อเสริมความเก่งของเรา นี่แหละชีวิตจริงที่พึงเรียนรู้ ไม่มีใครฉลาดไปเสียทุกเรื่อง ใช่หรือไม่ บางเวลา คนที่เราเชิดชูว่า สุดยอด แต่กลับแพ้ภัยตัวเองด้วยการไม่ใช้ความรอบคอบในการสอบถามผู้ที่รู้ดีกว่าก็มีให้เห็น เรียกว่า มีความรู้มากแต่ด้อยปรีชาญาณ และเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดขึ้น ลองอ่านเรื่องนี้..
มีทหารที่เก่งกาจด้านการข่าวนายหนึ่ง ได้รับคำสั่งให้ส่งสาส์นไปยังหัวเมืองต่างๆ ระหว่างที่ขี่ม้าไปยังหัวเมืองหนึ่ง ก็ได้เจอคลองน้ำเข้าคลองหนึ่ง เขาต้องข้ามคลองเล็กๆนี้ถึงจะเข้าไปยังหัวเมืองนั้นได้ คลองนี้มีน้ำไหลเชี่ยวมาก ทหารส่งสาส์นเกิดความลังเลว่าจะขี่ม้าข้ามไปได้หรือไม่ เพราะตั้งแต่เป็นทหารสื่อสารมาก็ไม่เคยเลยที่จะรู้เรื่องการขี่ม้าข้ามคลอง มีแต่ขี่ม้าข้ามบ่อ..
ระหว่างนั้นเอง เขาหันไปพบเด็กน้อยคนหนึ่งกำลังนั่งตกปลาอยู่ข้างๆคลอง เขาจึงถามเจ้าหนูน้อยว่า
ม้าของข้าสามารถข้ามคลองนี้ไปได้หรือไม่.....”
เด็กน้อยคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็ตอบทหารอย่างมั่นใจว่า  
ได้แน่นอนครับท่านไม่มีปัญหา...” ได้ฟังคำตอบแล้ว ทหารส่งสาส์นเกิดความมั่นใจ จึงขี่ม้าข้ามคลองไปในทันที พอไปยังไม่ทันจะถึงกลางคลอง ม้าที่ขี่อยู่ ก็เริ่มจมน้ำและรู้ตัวว่าคลองนี้มันลึกมากเกินกว่าที่ม้าจะข้ามไปได้ เขาจึงรีบพาม้าหันกลับขึ้นฝั่งโดยทันที.....
ทหารส่งสาส์น รู้สึกโมโหเด็กน้อยเป็นอย่างมากจึงตะโกนถามเด็กน้อยว่า 
ทำไมเจ้าถึงบอกข้าว่าม้าของข้าสามารถข้ามคลองนี้ได้อย่างแน่นอนล่ะ เด็กน้อยจึงตอบว่า
ก็ข้าเห็นเป็ดมันยังว่ายข้ามไปมาทุกวันได้ ทั้งๆที่เป็ดมันขาสั้นกว่าม้าของท่านตั้งเยอะ แล้วทำไมม้าของท่านถึงข้ามไปไม่ได้ล่ะ…”   (ฮ่าฮ่า)
แน่ล่ะเราไม่รู้ไปเสียทุกเรื่อง ไม่เก่งไปเสียทุกที่ แต่เราต้องเรียนรู้ในหลายๆเรื่อง เพื่อเพิ่มความฉลาด ยุคนี้เป็นยุคที่เต็มไปด้วยคนมีความรู้มากมาย แต่คนฉลาด รอบคอบนั้นหาได้ยากยิ่ง...
แต่ละคนล้วนมีความเก่งเฉพาะด้าน และถ้าทุกคนใช้ความเก่งนั้นเพื่อสร้างสันติ ใช้ความเก่งนั้นเพื่อสานสร้างให้เกิดความดงาม ใช้อัจฉริยะเพื่อลดละความห่างเหินในความใกล้ชิดของจิตวิญญาณของแต่ละคน ใช้ความรอบรู้เพื่อช่วยในการเรียนรู้ในการอยู่ร่วมกันบนความเป็นหนึ่งเดียว ใช้พระพรพิเศษแสดงให้โลกรู้ว่านี่แหละความรักของพระเจ้าช่างยิ่งใหญ่และมหัศจรรย์ ที่สุดแล้ว...ให้พระเยซูเจ้าผู้เป็นองค์ความรัก ให้องค์พระจิตเจ้าผู้สถิตอยู่ในมโนสำนึก ให้พระบิดาเจ้าพระผู้สร้างผู้พระทัยดี ทรงเผยแสดงให้ผู้อื่นได้เห็นทางไปสู่สวรรค์ โดยอาศัยความเก่ง ความสามารถของเรา ใช่หรือไม่ความเก่งกาจสามารถมิใช่เป็นของเรา อัจฉริยะของเราเป็นเพียงทางเชื่อมให้เราได้สนิทกับพระเจ้าได้อย่างไร้ข้อกังขาและสงสัย...

ไม่มีความคิดเห็น: