วันศุกร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2553

วันนี้มีที่ว่างหรือเปล่า…

วันนี้มีที่ว่างหรือเปล่า

บางที บางเหตุการณ์บนเส้นทางชีวิตก็มักเกิดขึ้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ อย่างไม่ได้คาดฝัน แต่นั่นแหละทุกห้วงเวลาที่ผ่านเข้ามา ย่อมมีแง่มุมข้อคิดให้กับชีวิตได้เสมอ ในขณะที่แสวงบุญยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์อยู่นั้น มีช่วงเวลาหนึ่งไปตรงกับวันชาบัทหรือวันสะบาโตของชาวยิว ซึ่งตรงกับเย็นวันศุกร์ถึงเย็นวันเสาร์ เป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ พวกเขาถือตามที่หนังสือพระคัมภีร์ปฐมกาลที่กล่าวไว้ว่า พระผู้เป็นเจ้าทรงสร้างโลกแล้วเสร็จในหกวัน วันที่เจ็ดเป็นวันพักผ่อน ชาวยิวจึงถือวันเวลานี้เป็นวันนมัสการขอบพระคุณพระผู้เป็นเจ้า มีการสวดอธิษฐานให้กันและกัน และกฎข้อนี้มีอยู่ในบัญญัติสิบประการที่พระผู้เป็นเจ้าทรงให้ไว้แก่โมเสส คือ วันพระเจ้าอย่าลืมฉลองให้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ ชาวยิวถือปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัด

จากการสังเกตเห็นในตอนบ่ายๆก่อนจะสิ้นสุดวันศุกร์ ก่อนพระอาทิตย์ตกดินซึ่งก็ตกเร็วมาก ประมาณห้าโมงเย็นฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว ถนนหนทางรถราเริ่มลดลง ร้านรวงห้างร้านเริ่มปิด แต่มีคนมากมายมาจับจองโรงแรม ผู้คนเกือบทั้งเมืองเตรียมตัวสำหรับวันหยุดพัก ชาวยิวรักษาประเพณีวันชาบัทนี้มาอย่างยาวนานหลายพันปี

แต่ก็แปลก...ชาวยิวหลายคนเป็นคนที่รวยระดับโลกเหมือนกัน ทั้งๆที่พวกเขาไม่ได้ทำงานแบบไม่รู้วันเวลา ทำงานเป็นบ้าเป็นหลังตะเกียกตะกายหาเงินกันเหมือนกับคนในสังคมบ้านเรา หรือว่าแท้จริงแล้ว การจัดระบบระเบียบชีวิตที่ดีต่างหากที่จะนำไปสู่ความสำเร็จทางฐานะการเงิน ใช่หรือไม่ เราตะบี้ตะบันหาเงิน เพื่อมาใช้เป็นค่าดื่มค่ากินและค่ารักษาพยาบาล ค่าเครื่องอำนวยความสะดวกที่มีวันสะดุดบ่อยๆ เราไม่ได้หาเงินเพื่อใช้เงิน ไม่ได้ทำงานเพื่อให้มีเวลาพักผ่อนและใช้เงินเพื่อสุขภาพจิตที่ดีกว่า

เย็นวันเสาร์คณะของเราได้เดินทางมายังเมืองเยรูซาเลม เพื่อวันรุ่งขึ้นจะเดินทางไปยังบ้านเบธเลเฮมสถานที่ประสูติพระผู้ไถ่กู้ เมื่อคณะของเรามาถึงโรงแรมที่พักที่ได้จองไว้ แต่ปรากกฎว่าห้องพักยังไม่ว่าง ยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากยังมีชาวยิวอยู่ในห้องพัก ต้องรอให้พวกเขาออกไป จากนั้นพนักงานต้องทำความสะอาดก่อน พวกเราจึงจะได้เข้าพัก ชาวยิวจะไม่ทำอะไรในช่วงวันชาบัทนี้ จึงนิยมมาพักที่โรงแรม แล้วกว่าจะออกจากโรงแรม ก็ต้องหลังหกโมงเย็นของวันเสาร์ไปแล้ว คณะของเรามาถึงโรงแรมก่อนหกโมงเล็กน้อย พวกเราจึงค่อยๆได้ห้องพักทีละห้อง โชคร้ายมาตกที่ผู้เขียนพอดี ต้องนั่งรอเป็นชั่วโมงๆ กว่าจะได้ที่พัก และได้เป็นห้องสุดท้าย เหนื่อยก็เหนื่อย ก็มีหงุดหงิดบ้างตามประสา เดินไปเดินมา เพื่อกดดันพนักงานต้อนรับ แต่เมื่อย้อนหลังนึกดูแล้ว ความลำบากของวันนั้นมันเป็นเรื่องจิ๊บจ้อยมาก เมื่อเทียบกับวันที่นักบุญยอแซฟพาแม่พระมาที่เบธเลเฮมเพื่อทำสำมะโนประชากร

หญิงสาวท้องแก่ เดินทางด้วยลา รอนแรมตามเส้นทางร้อนระอุมาหลายเวลา เมื่อมาถึงที่หมายแต่หาที่พักไม่ได้ หนักหนาสาหัสเสียนี่กระไร..เรานั้นหน่ะรู้อยู่แล้วว่ามีที่พัก แต่พอต้องรอสักหน่อยก็ทำเครียด ทำเป็นหงุดหงิดจะเป็นจะตายให้ได้ หรือว่าหัวใจของเรามันไม่ว่าง จึงทำให้เราไม่เป็นสุข ...

เมื่อประเทศอิสราแอลได้เปิดประเทศให้คนทั่วไปได้มาท่องเที่ยว มาแสวงบุญ กันมากขึ้น ธุรกิจโรงแรมก็มีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ประจวบกับการที่ชาวยิวถือวันชาบัทกันอย่างเคร่งครัด ไม่ทำงาน ไม่ทำอาหาร ไม่จุดไฟ นิยมมาพักและทานอาหารกันที่โรงแรม (พนักงานโรงแรมส่วนใหญ่เป็นชาวอาหรับจึงไม่ได้หยุดเหมือนชาวยิว) นี่จึงกลายเป็นการส่งเสริมธุรกิจโรงแรมให้เจริญเติบโตขึ้น และมีจำนวนมากที่ตั้งอยู่ติดๆกัน โดยเฉพาะที่กรุงเยรูซาเลม...

เช่นกันในวันเวลานั้น ผู้คนจากที่ต่างๆก็เดินทางมุ่งหน้ามายังกรุงเยรูซาเลม เมืองเบธเลเฮมที่ห่างจากเยรูซาเลมราว 5 ไมล์ ก็ย่อมคลาคล่ำไปด้วยผู้คน ใครมาถึงก่อนก็ได้ที่พักก่อน ใครมีเงินมากก็ได้ที่ดีๆ พระนางมารีย์กับยอแซฟช่างไม้ ย่อมใช้เวลาเดินทางนานกว่าปกติ ย่อมมาถึงเป็นคนหลังๆ ที่พักย่อมหาไม่ได้ ไม่มีที่ว่างพอที่จะพักเพื่อคลอดบุตร แต่ด้วยหัวใจที่ว่างพอสำหรับพระเจ้าของท่านทั้งสอง เหตุการณ์ยิ่งใหญ่ก็ก่อกำเนิดขึ้นอย่างเงียบๆ ท่ามกลางฝูงสัตว์และผู้คนที่มีที่ว่างสำหรับพระเจ้าในค่ำคืนนั้น

ใช่หรือไม่ วันนี้ดวงใจของเราไม่มีที่ว่างสำหรับกันและกัน ปิดกั้น ไม่เปิดรับ ไม่ยอมรับผู้อื่น ใจเราล้มเปี่ยมไปด้วยความเห็นแก่ตัว พร้อมที่จะปิดลั่นกลอนใส่ผู้ที่มาขอความช่วยเหลือ ใจของเราเต็มเปี่ยมไปด้วยการกอบโกย และเกี่ยวเก็บสะสม จึงไม่มีที่ว่างพอสำหรับการบังเกิดของพระกุมารน้อย เราไม่มีวันเวลาที่จะหยุดพักเพื่อไตร่ตรอง ถากถางที่รกร้างในใจให้ว่างเปล่า เราจึงจมอยู่กับความทุกข์อย่างไม่มีที่สิ้นสุด หากเรามีเวลาว่างเราก็มีที่ว่างสำหรับผู้อื่นได้เสมอๆ

ปล่อยวางตัวตนแห่งโลกโลภเสียบ้าง ให้จิตวิญญาณได้ร่าเริงหรรษา ให้กายาได้เว้นวรรค ขยายที่ว่างในหัวใจ มองโลกอย่างสดใสแม้ในวันที่ฟ้าครึ้ม ทำไมไยต้องปิดกั้นกระชับพื้นที่ในหัวใจให้แคบ แล้วก็มานั่งอึดอัด ลำบากกายทุรายทุรนใจ จำเป็นแค่ไหนหรือที่จะเอาหัวใจไปผูกติดกับทรัพย์สิน เพราะที่ว่างวันสุดท้ายก็มีได้แค่ตัว แต่หากวันนี้เรามีที่ว่างสำหรับคนอื่น เราก็จะอยู่ในความทรงจำ ในหัวใจของคนอีกหลายคน นี่เป็นการสืบสานงานไถ่กู้ของพระกุมารน้อย แล้วเราก็ได้เกิดมาบนโลกนี้เช่นเดียวกับพระองค์เราจะไม่ทำเช่นนั้นบ้างหรือ ขอที่ว่างๆสำหรับคริสต์มาสปีนี้ด้วยนะครับ...

ไม่มีความคิดเห็น: