วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553

รายจ่ายของชีวิต

รายจ่ายของชีวิต

ในชีวิตของเราบางครั้งบางหนก็มักเจอเรื่องที่เกินคาดอยู่เสมอๆ หนึ่งในเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาสดๆร้อนๆก็คือเรื่องฟุตบอลโลก ที่คิดว่าอย่างไงๆก็คงจะได้รับชมอย่างเต็มอิ่ม เท่าที่เรี่ยวแรงจะพอไหว เนื่องด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย การรับชมรายการโทรทัศน์ของสังคมไทยก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นแผงรับสัญญาณโทรทัศน์ตามตึกรามบ้านช่องเต็มไปหมด บางที่บางแห่งก็ดูรกรุงรัง แต่วันนี้บนดาดฟ้าหลังคาเรือน กลับเต็มไปด้วยจานสีต่างๆมากมาย จานที่ไม่ได้เอาไว้ใส่ข้าว แต่เป็นจานเพื่อรับสัญญาณดาวเทียม ที่สามารถรับรายการโทรทัศน์ได้จากทั่วโลก เช่นนี้แล้วการรับชมฟุตบอลโลกที่สี่ปีจะมีครั้ง คงเป็นความสุขหรรษาของคนคอกีฬา แต่แล้วเหมือนฟ้าผ่ากลางจานดาวเทียม เมื่อจู่ๆก็มีประกาศว่าจะมีการล็อกสัญญาณดาวเทียมในช่องที่มีการถ่ายทอดฟุตบอล เพราะติดเรื่องลิขสิทธิ์ถ่ายทอด ความสุขหรรษา ถูกปัญหาเรื่องธุรกิจเทคโอเวอร์ การรับชมต้องกลับสู่สามัญด้วยการหาหนวดกุ้งบ้าง ดัดแปลงเสารับสัญญาณจากไม้แขวนเสื้อ จากช้อนซ้อมบ้าง เพื่อให้ได้รับชม แม้บางช่องบางคู่จะดูได้ จาก 22 คนทั้งสองข้าง กลายเป็น 44 คน เพราะคลื่นแทรกซ้อน

ฟุตบอลโลก2010 ครั้งนี้เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งที่ 19 เป็นรายการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ที่หยุดมวลมนุษยโลกครึ่งค่อนโลกให้เฝ้าดูเฝ้าชมคนเตะลูกกลมๆ เป็นความสุขรวมหมู่ของเราชาวโลก นี่เป็นการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรกที่ชาติจากทวีปแอฟริกาเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน

กลับมาพูดถึงคนไทยที่ได้รับเอาวัฒนธรรมต่างชาติต่างถิ่น ผ่านทางการสื่อสารที่เข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ใช่หรือเปล่า เราก็ยังมีวัฒนธรรมไทยที่ฝังอยู่ในสายเลือดคือ สังคมไทยที่อาศัยอยู่ในระบบอุปถัมภ์มาอย่างช้านาน และเมื่อเราเดินทางไหลเข้าสู่ทุนนิยม บางครั้ง บางเรื่อง เราก็ปรับตัวกันไม่ได้ ในหลายประเทศการรับชมรายการโทรทัศน์ผู้ชมก็ต้องจ่ายค่าดูค่าชม เพื่อเป็นทุนรอนให้ผู้ผลิต โดยไม่ต้องไปอาศัยระบบโฆษณาเกินจริง ระบบโทรทัศน์บ้านเราเป็นฟรีทีวีที่ทำกำไรจากการขายโฆษณาสินค้า ที่เก็บราคาเกินจริงหลายเท่าตัว เพื่อเอาผลต่างไปจ่ายให้ผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ ดูเหมือนผู้ชมจะดูฟรีๆ ที่ไหนได้เรากลับต้องจ่ายแพงเวลาซื้อสินค้า ฟุตบอลโลกครั้งนี้จึงกลายเป็นเกมแห่งธุรกิจที่คนไทยต้องเรียนรู้ที่จะจ่ายค่าความบันเทิงกันบ้าง.....

ชีวิตเราในแต่ละชั่วโมง แต่ละวัน ก็คือ รายจ่าย เพื่อแลกกับการได้เห็นคุณค่า เพื่อแลกกับการได้มาของจิตวิญญาณที่สูงส่ง...ชีวิตมนุษย์ในแต่ละชีวิต ไม่ว่ารวยหรือจน โง่หรือฉลาด ดีหรือชั่ว ต่างเป็นสิ่งที่พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานมาให้ด้วยกันทั้งนั้น การใช้จ่ายชีวิต เพื่อสู่ความสมบูรณ์ก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้จ่ายอย่างไร!!!! บางราย บางคน ก็ทำให้คุณค่าแห่งความเป็นมนุษย์ของตัวเองสูญหาย หมดเกลี้ยงไป เนื่องจากความพยายามที่จะจ่ายออกไปเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ทรัพย์สมบัติ ชนิดที่ไม่สนใจว่าอะไรคือนรก อะไรคือสวรรค์...ชีวิตทุกชีวิตล้วนแล้วแต่มีคุณค่าด้วยกันทั้งสิ้น แต่ด้วยอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยความโลภและตัณหา ที่มักชอบวัดความแตกต่างด้วยความรวย ความจน จึงทำให้ชีวิตบางชีวิตกลับเป็นอะไรที่ไร้คุณค่า

การจ่ายรายทางชีวิตของเรา บางครั้งก็เพื่อที่จะแก้ไขปัญหา บางครั้งก็เพื่อซื้อเก็บไว้เป็นบทเรียน เป็นความทรงจำ ชีวิตของคนเราล้วนมีปัญหาเกิดขึ้นและต้องเรียนรู้ที่จะแก้ไขเรื่องที่ค้างคาใจอยู่ตลอดเวลา อาจเป็นปัญหาที่เล็กน้อย กระทั่งเป็นปัญหาที่ใหญ่ขึ้น แต่ถ้าเรารู้จักและเข้าใจการดำเนินชีวิต ยอมลดความเห็นแก่ตัวลงบ้าง ยอมที่จะนิ่งกันบ้าง ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายรายทางของชีวิต เพื่อเราจะได้ใกล้ชิดความสันติสุข แล้วปัญหาที่มีอยู่ย่อมมีทางคลี่คลายลงได้ ความสุขก็จะบังเกิด

ความสุขที่อยู่ใกล้ๆ ถือว่าเป็นความสุขที่เรียบง่ายแต่งดงามในความทรงจำของการได้มีชีวิตอยู่ แต่เราก็มักจะมองข้ามไป และเที่ยวไขว่คว้าหาความสุขจากรายจ่ายของชีวิตที่เกินตัว จ่ายกระทั่งวิญญาณหลงผิด รายจ่ายหนึ่งซึ่งเราควรที่จะลองทำดูนั่นคือ การปรับทัศนคติของชีวิต รู้จักปรับความเห็นในมุมที่เป็นบวก เรายอมรู้จักที่จะคัดเลือกสิ่งดีให้กับตัวเอง เป็นรายจ่ายที่คุ้มเกินคุ้ม

ชีวิตย่อมมีรายจ่ายเสมอ ดูฟุตบอลโลก บางครั้งบางทีมที่รัก ทีมที่เชียร์ ต้องพ่ายแพ้ ก็รู้สึกผิดหวังก็ถือว่าเป็นรายจ่ายหนึ่งของชีวิต เพื่อให้เราได้บทเรียนว่า การพ่ายแพ้ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำให้ชีวิตรู้สึกแย่เสมอไป เพราะหากเคยได้รับแต่ชัยชนะเพียงอย่างเดียว เราย่อมไม่สามารถรับรู้ความรู้สึกอีกด้านหนึ่งของความผิดหวัง ใช่หรือเปล่า... เมื่อความผิดหวังเข้ามาเยี่ยมเยือน ย่อมทำให้เราทุกข์ระทมจากภาวะที่พ่ายแพ้นั้น แต่หากเราเรียนรู้ที่จะแพ้บ้างในบางโอกาสที่เหมาะสม เพื่อยอมรับที่จะแก้ไขสิ่งที่บกพร่องให้ดีขึ้น เมื่อชัยชนะใหม่มาครอบครอง เราย่อมรู้จักรสชาติชองความสมหวังอย่างอิ่มเอมและนี่แหละรายจ่ายของชีวิตเพื่อชีวิตที่ดีกว่า.....

ไม่มีความคิดเห็น: