วันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2553

ทุกข์ถมหรือถมทุกข์

ทุกข์ถมหรือถมทุกข์

ท่ามกลางแดดที่ร้อนแรง แรงโทสะที่ร้อนลุ่ม ที่เข้าเกาะกุมผู้คนไปทั่วทั้งเมือง ท่ามกลางความหวาดวิตก หวาดระแวงและหวาดกลัวกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นปกติของบ้านเมือง ท่ามกลางสังคมที่ยังเต็มไปด้วยการแบ่งแยก แบ่งฝักฝ่าย แยกเขี้ยว คำราม และพร้อมจะตะครุบเข้าใส่ฝ่ายตรงข้าม ทำให้บรรยากาศของชีวิตความเป็นอยู่ของคนเมืองเต็มไปด้วยความทุกข์ยากลำบาก ข่าวร้อน ข่าวร้าย ข่าวด่วน ข่าวลือ คือ สิ่งเสพที่ต่างฝ่ายต่างสร้าง ต่างฝ่ายต่างช่วงชิง สิ่งสุดท้ายคืออะไร จุดจบอยู่ตรงไหน ใครรู้ช่วยตอบที....คนไทยด้วยกันเป็นเช่นนี้แล้วหรือ อากาศที่ร้อนแผดเผาผิวหรือจะสู้อาการใจร้อน ใจร้ายชนิดที่ขาดความเคารพในความเป็นอยู่ของกันและกัน ไม่เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นคนไทยด้วยกัน มีแต่การช่วงชิงความได้เปรียบกัน เพื่อขึ้นครองโน้มน้าวผู้คนด้วยคำพูดคำจาที่เสกสรรหามาสาดใส่เข้าหากัน....

ทั้งๆที่ชีวิตดำเนินอยู่บนหนทางปกติสุข เรายังเจอความทุกข์ซ้ำซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่มากมาย เรายังสร้างทุกข์มวลชนให้กันอย่างไม่หยุดหย่อนกันอยู่ทำไม แต่นั่นแหละ...อย่างที่ผู้บรรลุธรรมเคยพูดและจดจารเอาไว้ ไม่มีความสุขใดที่จะไม่เคยผ่านหนทางทุกข์ได้ ไม่มีทุกข์จะพบสุขได้เช่นไร เราผู้เดินดินกินข้าวสวยที่ไม่ได้ร่ำรวยด้วยโภคทรัพย์ แต่โชคดีที่ยังไม่ถึงกับต้องกินดินเป็นอาหาร ที่ทนทุกข์กันจะเป็นจะตายอยู่อย่างนี้ ก็เพราะความวุ่นวายที่มีไม่รู้จักพอ อิ่มไม่เป็น เต้นกันไม่เลิก เลยต้องหาแล้วหาอีก พอเกิดช่องว่างนิดหน่อยก็พลอยคิดว่าเป็นหลุมใหญ่เบ้อเล่อเท่อ แล้วก็ตีอกชกตัวว่าทำไมถึงต้องเป็นเรา

เราวุ่นวายสุดท้ายก็ตายคือกันใช่หรือเปล่า ในวันเวลาจริงแห่งชีวิตเราก็มักหลงลืมสัจจะอันนี้ พอตกหลุมทุกข์ก็ถูกทุกข์ถมจมหาย โศกเศร้าไม่เลิกรา ไม่ยอมยืนหยัดลุกขึ้นเหยียบกองทุกข์เพื่อตะกายสู่ความสุข หลายคนคงปล่อยให้ทุกข์ทับถมจับลับหายไปอย่างน่าเสียดาย ไม่ใช้พระพรอันประเสริฐ ไม่ใช้สติปัญญาที่ถูกใส่ร่างอย่างชาญฉลาด

มีชาวนาคนหนึ่งเลี้ยงลาแก่ ไว้ตัวหนึ่ง อยู่มาวันหนึ่ง ชาวนาได้พาลาแก่ตัวนั้นออกไปข้างนอก ด้วยความโง่ของลาแก่ มันเดินซุ่มซ่าม โซเซ ทำให้มันเดินตกลงในบ่อร้าง มันร้องครวญครางอยู่เป็นเวลานานสองนาน ผ่านไปหลายเพลา ชาวนาก็ไม่รู้ว่าจะช่วยมันอย่างไรดี และเจ้าลาก็แก่มากเหลือเกิน ที่สำคัญอีกอย่างคือบ่อร้างนี้ ถึงอย่างไรก็ต้องกลบอยู่แล้ว คิดใคร่ครวญแล้วไม่คุ้มที่จะช่วยเจ้าลาตัวนั้น ถมบ่อฝังลาแก่ตัวนี้ไปเลยดีกว่า

คิดได้ดังนั้นชาวนา จึงไปขอแรงชาวบ้าน มาช่วยกันกลบบ่อร้าง ทุกคนใช้พลั่ว ตักดิน สาดลงไปในบ่อ ครั้งแรก เมื่อดินตกลงไปในบ่อ เจ้าลาเริ่มรู้ชะตากรรมของตัวเอง ทำให้มันร้องโหยหวน ทันที เพื่อขอความเมตตาสงสารลาตาดำๆ

สักพักหนึ่งทุกคนต่างแปลกใจ เมื่อเสียงลานั้นเงียบหายไป ทุกคนจึงมองลงไปในบ่อ ก็พบกับความประหลาดใจ เพราะว่าทุกครั้งที่ตักดินใส่ลงไปในบ่อ ลาตัวนั้นมันก็จะสะบัดดิน ออกจากหลังของมัน และก้าวขึ้นมาเหยียบบนกองดินเหล่านั้น และในที่สุดมันก็สามารถหลุดพ้นจากบ่อนั้นได้...(และมันจะกลับไปอยู่กับชาวนาผู้นั้นหรือไม่ ตกลงลาโง่หรือชาวนานั้นโง่ ใครฉลาดน้อยกว่ากัน)

ใช่หรือไม่ ทุกชีวิตย่อมมีอุปสรรค ย่อมมีทุกข์ หากไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคและไม่ก้มหัวให้กับความทุกข์ยากที่ถาโถมเข้ามา ที่เปรียบเสมือนดินที่สาดโถมเข้ามายังลาตัวนั้น ก็จะไม่ถูกอุปสรรคและความทุกข์เหล่านั้นถมทับ จงอย่าท้อถอย และอย่ายอมแพ้ และจงแก้ไขมัน แก้ไขสถานการณ์นั้น ๆ ให้ดีที่สุด เพื่อที่เราจะได้เหยียบมัน เพื่อที่จะได้ก้าวสูงขึ้นเรื่อยๆ และให้คิดว่า ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ทางแก้ไข แต่ใจเท่านั้นที่พร้อมจะแก้ไขหรือเปล่า..

และเราจะยอมเป็นลาที่โง่หรือชาวนาที่คิดไม่เป็นผู้นั้นหรือ ความสุขยิ่งอย่างหนึ่งของเรา อยู่ตรงที่เราข้ามผ่านความทุกข์มาได้ ในวินาทีนั้นคือสุดยอดแห่งความสุข ไม่เคยมีใครในโลกเล็กๆใบนี้ที่ไม่พบกับอุปสรรคและความทุกข์ยากในชีวิต ไม่เคยมีผู้บรรลุธรรมผู้ใดไม่เคยผ่านทุกข์แสนสาหัส มองอีกด้านหนึ่งการมีทุกข์ในหนทางชีวิตก็เป็นบททดสอบความกล้าแกร่งแห่งจิตวิญญาณ คิดผิด เรียนรู้ และแก้ไขเรื่องราวต่าง ๆ ก็จะทำให้ชีวิตมีความหมายมากยิ่งขึ้น

สันติสุขจงสถิตกับท่านทั้งหลายเถิด เป็นคำตรัสของพระเยซูเจ้าในห้องชั้นบน ในเวลาที่พระองค์เสด็จกลับมา เพื่อให้สานุศิษย์ผู้กำลังทุกข์ทนพบกับความยากลำบาก ในภาวะที่พวกเขากำลังขาดผู้นำ ผู้นำที่พวกเขาเคยละทิ้งให้ถูกทรมานบนกางเขน แต่แล้วจากความตายสู่แสงสว่าง พระองค์ได้ประทานพระจิตเจ้า เป็นดังดินที่ถมทับบนหลุมกว้าง เพื่อให้พวกท่านเหล่านั้นได้หยัดยืน ลุกขึ้นต่อสู้กันอีกครั้งด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสันติสุขและความกล้าหาญ จากวันนั้นถึงวันนี้ความรักของพระคริสตเจ้าแผ่ไปทั่วโลกหล้า แล้วเราในวันนี้ที่ต่างก็ทุกข์ระทมกับวันเวลา กับสถานการณ์ เราจะก้าวผ่านไปพบแสงสว่างได้อย่างไร เราจะถูกดินทับกลบหน้าโดยไม่ยอมลุกยืนกันอีกครั้งล่ะหรือ ขอให้สันติสุขจงมีแก่ท่านและนำสันติสุขนี้แผ่ไปยังทุกผู้คนที่ทุกข์เข็ญ เพื่อสันติสุขของประเทศไทยของเราจะได้กลับมาอีกครั้งและเป็นนิรันดร์ตลอดไป...

ไม่มีความคิดเห็น: