วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553

เจ้าชีวิต

เจ้าชีวิต

ชีวิตของคนเรานี่ก็แปลกดี วันหนึ่งเราเคยถูกใครบางคนมาบงการให้ดำเนินชีวิตตามแบบแปลนที่เขาวางไว้ และมาวันหนึ่งเราก็อาจจะกลายเป็นนักออกแบบชั้นยอดที่สร้างแบบ วางแปลน บงการให้ผู้อื่นมามีวิถีชีวิตแบบที่เราต้องการ เดินไปบนทางที่ขีดกำหนดให้เดิน คิดไปคิดมานี่ก็เป็นความเห็นแก่ตัวบนความหวังดีนี่เอง ...

ในแต่ละวันที่พ้นผ่าน เราถูกครอบงำนำชีวิต นำกระแสให้เราก้าวตาม ในบางห้วงขณะเวลา หลงใหลได้ปลื้มยอมให้ผู้อื่นมาเป็นเจ้าชีวิต ชี้เป็นชี้ตาย บอกให้เราทำอะไรก็ทำตาม แม้กระทั่งให้ร้องเรียกหาความเป็นเสรี ตะโกนก้องถามถึงอิสระ นึกๆดูแล้วนั่นคือ เสรีและความเป็นอิสระจริงหรือ ที่ถูกคนผู้หนึ่งบอกให้ตะโกนตามที่เขาสั่ง
ในวงจรชีวิตของเราทุกคนย่อมมีความคิดเช่นนี้อยู่ในตัว คือ ปรารถนาที่จะเป็นเจ้าของชีวิตของผู้อื่น ทั้งแบบที่ไม่รู้ตัวและแบบรู้ตัว คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ปรารถนาดีที่จะให้ลูกได้เดินบนหนทางสู่ความสำเร็จในชีวิต ซึ่งเป็นหน้าที่ของความเป็นพ่อแม่ แต่ถ้าเกินความพอดี พยายามสร้างลูกตัวเองให้ไปในทางที่ตัวเองเคยพลาดหวัง หลายคนถึงขั้นบีบบังคับ ข่มขู่ หลายคนตีกรอบกำหนดเขต มีกฎมีเกณฑ์ในทุกก้าวเดินของลูกๆ ถือว่ายังไงๆก็เป็นเจ้าของชีวิตลูกตัวเอง ถ้าเป็นเช่นนี้ลูกที่ให้กำเนิดก็หมดคุณค่าตั้งแต่ที่พ่อแม่คิดแบบนี้เสียแล้ว แล้วเมื่อเติบใหญ่จะเหลืออะไรที่เป็นคุณค่าในชีวิตของเขาหรือ
คนที่เป็นครูบาอาจารย์ก็ปรารถนาดีให้ลูกศิษย์ลูกหาเติบโตขึ้นเป็นเจ้าคนนายคน ซึ่งเป็นหน้าที่ที่จะต้องสอนสั่ง อบรม เพาะต้นกล้าให้กล้าแกร่ง มีความแข็งแรงในด้านคุณธรรม และวันนี้เราเหลือคนที่มีจิตวิญญาณความเป็นครูบาอาจารย์มากน้อยแค่ไหนในสังคม มีแต่บีบบังคับให้เด็กต้องเรียนนั่นเรียนนี่ โดยที่ในชั่วโมงปกติไม่ค่อยจะสอนกัน แต่ดันไปสอนเป็นรายวิชาพิเศษ เพื่อจะได้เงินจากการสอนพิเศษนั้น หากเด็กคนไหนไม่เรียนก็จะกลายเป็นเด็กด้อยที่สุดในชั้น ถ้าครูคิดกันแบบนี้แล้วไซร้ไม่เพียงแต่เป็นเจ้าชีวิตเด็กเท่านั้น ยังเป็นเจ้าชีวิตผู้ปกครองอีกด้วย
และหากบังเอิญโชคดี วาสนาส่งได้ดิบได้ดีเป็นตามแบบที่ผู้อื่นวางไว้ ได้เป็นเจ้าคนนายคน ก็ใช้ปมด้อยเหล่านี้เป็นปมเด่น เที่ยวจับจองเป็นเจ้าของชีวิตผู้อื่นแบบไม่คิดชีวิต เป็นเจ้านายที่บ้าคลั่งในอำนาจ เป็นหัวหน้างานที่เห็นแก่ตัว เอาชั่วใส่ลูกน้องเอาเงินทองใส่กระเป๋าตัวเอง ใครไม่ยอมอยู่ภายใต้อาณัติ วิบัติก็จะมีแก่ผู้นั้น ใครกีดขวางทางรวย ขวางทางคดโกง จะถูกเตะโด่งให้ไปไกลๆ เป็นสมาชิกที่ไม่มีใครเอาด้วย เป็นคนที่โดดเดี่ยวและเหี่ยวเฉาตายไป เช่นนี้แล้วหลายคนจึงยอมเป็นทาสชีวิตให้กับคนโกงกิน และร่วมอยู่ในขบวนการนี้อย่างเบิกบาน
และแล้วเมื่อเขาหรือเธอที่ถูกบีบบังคับในที่ที่หนึ่ง วันหนึ่งเขาหรือเธอก็มาเจอกันในนามของความรัก เขาหรือเธอก็เลยปรารถนาที่จะเป็นเจ้าชีวิตของอีกคน เขาต้องเป็นอย่างที่ฉันอยากให้เป็น ต้องเป็นคนเก่ง ร่ำรวย เธอก็ต้องสวย ขาว หุ่นดี ประมาณนั้น แรกๆก็ยินยอมพร้อมใจ เพราะว่ามีรักให้กัน ผ่านวันเวลาเริ่มเรียกร้องหาเสรีภาพ ความเป็นอิสระและพื้นที่ส่วนตัว เริ่มสับสนว่ายอมให้คนอื่นเป็นเจ้าชีวิตอยู่ได้ไง !!! ฉันต้องเป็นฉันเอง ต้องเป็นตัวของตัวเอง ต้องมั่น ต้องแรง ต้องแกร่ง เธอเรียกร้องมากก็ไม่สนใจ สิ้นสุดลงด้วยการเลิกรา ถลาโบยบินจับจองหาทาสชีวิตคนใหม่ ความรักถูกแปรรูปเป็นเพียงความต้องการใครสักคนแก้เหงา แก้กรรม การปรับตัวเพื่อกันและกันไม่ค่อยเห็นการยอมรับกันและกันในครอบครัวใหม่ๆเริ่มน้อยลง
เมื่อกระแสโลกเปลี่ยนผู้คนใช้ชีวิตอยู่กับตัวเองมากขึ้น มีเครื่องมือรับใช้ความปรารถนาส่วนตัวมากขึ้น ชีวิตสะดวกสบาย จนนำไปสู่ภาวะ ต่างคนต่างเก่ง ต่างคนต่างมีดี แต่ความที่อยากเป็นเจ้าชีวิตของผู้อื่นยังไม่หมดไปจากความคิด สังคมจึงเกิดแนวทางการดำเนินชีวิตแบบใหม่ สร้างระบบสร้างอารยะแบบใหม่ ใครตามไม่ทัน คิดไม่ถึงก็ตกเป็นทาส สิ่งเหล่านี้ออกมาในรูปแบบวัตถุนิยม ออกมาในระบอบทุนนิยมเสรี ใช่หรือไม่ในขณะที่เราต่างอวดเก่ง ในอีกด้านหนึ่งเราก็มีใครบางคนเป็นเจ้าชีวิต ที่คอยกำหนดวิถีชีวิตให้เราเดินตามแบบไม่รู้ตัว ยังจะมาผยองและโอ้อวดในความเก่งกันทำไม เรายังเที่ยวไปบงการ เที่ยวไปพิพากษาผู้อื่นเรื่อยไปเช่นนี้ได้อย่างไรเล่า
การเคารพในศักดิ์ศรีของกันและกัน การยึดมั่นว่าทุกคนมีพระเจ้าอยู่ในตัวเอง และให้เกียรติกันและกัน รู้จักขอโทษเมื่อทำพลาดทำผิด รู้จักให้อภัยในความผิดพลาดของคนอื่น ใครเล่าไม่มีบาปในโลกใบนี้ หยุดยึดครอง ยึดโยง ถือครองชีวิตผู้อื่นลงบ้างเพียงเท่านี้เราก็จะไม่เป็นเจ้าชีวิตของกันและกัน ชีวิตก็เป็นอิสระในการก้าวเดินไปตามหนทางแห่งความดีที่ไร้ขีดจำกัด เรามีพระเจ้าเพียงพระองค์เดียวเท่านั้น ที่เราพร้อมจะมอบชีวิตที่ดีและงดงามถวายคืนแด่พระองค์ในวาระสุดท้ายปลายชีวี....

ไม่มีความคิดเห็น: