วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2553

เขาเศร้าเราโศก วิปโยคโลก

เขาเศร้าเราโศก วิปโยคโลก

หนึ่งสัปดาห์กว่าๆผ่านไปกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศเฮติ จากตัวเลขของผู้เสียชีวิตในวันแรกๆรายงานว่าเป็นร้อย ขยับเป็นหลักพัน หลักหมื่น ในขณะนี้เป็นแสนสองแสน บางกระแสข่าวรายงานว่าอาจจะถึงห้าแสนคน ครั้งแรกที่ได้ยินข่าวก็แค่รู้สึกตกใจ ต่อมาได้ทราบข่าวว่ามีพระสังฆราช พระสงฆ์ สามเณร หลายคนต้องสูญเสียชีวิต หลายร่างยังสูญหาย ยิ่งเมื่อได้รับข่าวว่า ดร.ซิลดา อาร์น นิวมาน ผู้ทำงานเพื่อเด็กกำพร้าในแถบประเทศยากจน และเธอกำลังมาทำงานอยู่ในเฮติและได้เสียชีวิตลงในเหตุการณ์ครั้งนี้ ดร.ซิลดา ได้มาเป็นผู้บรรยายหลักเรื่องสิทธิเด็ก ในงานประชุมสื่อมวลชนคาทอลิกโลก ที่จัดขึ้นในประเทศไทยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ก็ยิ่งรู้สึกว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ใกล้ตัวเราเหลือเกิน

และเมื่อเห็นข่าวการแย่งชิงอาหาร แย่งน้ำกันกิน จนถึงขั้นมีการก่อจลาจล จี้ปล้นกันอลหม่านเมือง เกิดความเศร้าใจระคนสงสารจับใจ คนที่กำลังอดตายย่อมทำทุกอย่างเพื่อให้ชีวิตตัวเองรอด ยิ่งหดหู่ที่ได้เห็นซากปรักหักพังของเมือง ของอาคารที่เคยสวยงามและแข็งแรง บัดนี้เป็นเพียงเศษซากก้อนอิฐ ก้อนหิน ที่กินไม่ได้ ใช่หรือไม่ นี่มันคือทุกข์ร่วมกันของมนุษย์โลก ที่เคยกล้าอวดเก่งกับธรรมชาติ เมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็จงตระหนักร่วมกันเถิดว่า ยังไงๆมนุษย์ราก็ไม่อาจจะเอาชนะธรรมชาติได้ ไม่สามารถหยั่งรู้ถึงสิ่งสร้างมหัศจรรย์ของพระเจ้าได้ การคิดกำแหงที่จะข่มขืนธรรมชาติ บังคับฤดูกาล กดดันฟ้าฝน มันมิอาจจะเป็นไปได้ ธรรมชาติย่อมมีวงจรของมัน หากว่าธรรมชาติคือพระเจ้า เราหรือจะชนะและอยู่เหนือพระองค์ได้

แต่พระเจ้าไม่เคยโหดร้าย การโบยตีมนุษย์บ้าง เพื่อให้ได้กลับเนื้อ กลับตัว มาครุ่นคิด ไตร่ตรอง ปรองดองกัน เป็นบทเรียนครั้งสำคัญอย่างยิ่งบทหนึ่งที่ต้องจดจำกันไว้

ทุกครั้งที่โลกเกิดเหตุร้าย เรามนุษย์ทุกคนก็กลับสู่ความเป็นสิ่งสร้างที่ประเสริฐ กลับมามีจิตใจเมตตา จิตใจที่งดงามร่วมกัน ความเอื้อเฟื้อแผ่ไปทั่วทุกหนแห่ง สิ่งที่เคยแสวงหาและเก็บงำเอาไว้คนเดียว เก็บโกยใส่ไว้ในที่ที่เดียว ก็ต้องถูกนำออกมาแบ่งปันกันกิน แบ่งปันกันใช้ เพื่อเยียวยาความทุกข์โศก ความโหดร้ายที่เกิดขึ้น เงินทองที่หากันมาไว้กับตัวมากมายนั่น ลองคิดดูหากแบ่งปันออกไป บริจาคออกมา รักษาคน รักษาโลก รักษาน้ำใจให้คงอยู่ต่อไป มันคุ้มค่ามหาศาล...

เห็นเขาเศร้า เราก็โศก โลกเป็นเช่นนี้เกี่ยวยึดโยงร่วมกัน ฉันเธอ ใช่อื่นไกลอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน ต่างกันเพียงช่วงของเวลา จะมีมนุษย์คนไหนเล่าใจร้ายที่เห็นเพื่อนมนุษย์ด้วยกันหิวโซ กัดก้อนดินกิน จะมีใครเล่าเห็นน้ำตาที่หลั่งไหลและใจจะเริงร่า เราสุขเขาเศร้า เราจะมีหน้าไปบอกรักและเชื่อในพระเจ้าได้อย่างไร

หลายคนก็ตั้งคำถามว่า ทำไมแผ่นดินไหวมันถึงร้ายแรงยิ่งนัก ลุงคนขับแท็กซี่คนหนึ่งให้คำตอบที่เข้าใจง่าย และก็น่าจะเป็นไปได้ นั่นคือ เราสูบน้ำมัน ขุดแร่ธาตุ สูบทองคำ และทรัพยากรใต้ดินมาใช้กันมากเกินไป ใต้พื้นดินจึงเกิดช่องว่างมากมาย โลกเคลื่อนไปในอวกาศ มีบ้างที่ต้องถูกแรงกระแทก แผ่นดินก็เลยเคลื่อนตัว เมื่อใต้พิภพกลวงโบ๋ ผิวโลกก็ยุบตัวอย่างรุนแรง หนำซ้ำเรายังสร้างตึก สร้างอาคารใหญ่โต ความหนักหน่วงย่อมมีตามมา

เมื่อพูดถึงตึกรามบ้านช่อง วันนี้ยุคนี้มีแต่แข่งกันสร้างให้สูงให้ใหญ่ กดทับผิวโลกลงไปเรื่อยๆ ทรัพยากรที่ถูกขุดขึ้นมาก็นำมาทับถม จากนี้ไปเราก็คงเห็นแผ่นดินยุบ แผ่นดินไหวกันมากขึ้น แล้วเราจะอยู่ยังไง ยิ่งสูงยิ่งน่ากลัว ยิ่งสูงยิ่งอันตราย แต่ก็ยังมิวายมีคนคิดสร้างเมืองให้มันยิ่งใหญ่กันต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง วันหนึ่งสิ่งเหล่านี้จะล่วงหล่นลงสู่คืนกลับผิวโลก เราถึงจะตระหนักกันได้ว่า ชีวิตเราเอาเข้าจริงมีเพียงน้ำกิน มีอาหารให้กินทุกมื้อก็เพียงพอแล้ว ซากตึก ซากอาคารกินไม่ได้ ในวันที่ทุกสิ่งราบบนผิวโลก วันนั้นแหละที่เราจะรู้ความจริงว่า สิ่งที่สะสมนั้นไร้ค่า ข้าวปลาอาหารต่างหากคือของแท้และจำเป็นที่สุด สังคมโลกสร้างระบบเก็บเงินเก็บทอง จะมีสักกี่ประเทศที่คิดค้นระบบเก็บอาหารและน้ำไว้ใช้ยามจำเป็น

เขาเศร้าเราโศก เขาเดือดร้อน เราช่วยเหลือ ทุกที่กำลังเร่งระดมความช่วยเหลือ โดยเฉพาะเรื่องอาหารและน้ำดื่มเข้าไปในประเทศเฮติ และต้องเข้าไปจัดระบบระเบียบสังคมกันใหม่ วัดเซนต์หลุยส์ของเราก็เช่นกัน พี่น้องหลายคน โทรมาแจ้ง หลายคนกลับบ้านไปนำเงินก้อนมาบริจาค น้ำใจของคริสตชนไทย ไม่เคยห่างหายไป เพราะว่าเราต่างรู้ว่ามนุษย์ทุกคนคือพระคริสตเจ้าองค์หนึ่ง และพระองค์ทรงสอนเราไว้ว่า เมื่อเราเดือดร้อนท่านช่วยเหลือเรา เราไม่มีเสื้อผ้าท่านให้เรานุ่งห่ม เรากระหายท่านให้เราดื่ม เราหิวท่านให้เรากิน ท่านทำกับคนเหล่านี้ ท่านกำลังทำกับเรามธ.25:35-36 สิ่งนี้จะคงอยู่ในหัวใจของเราทุกคน แม้แผ่นดินจะไหวสักกี่ครั้งกี่ที่แต่อุดมการณ์ของเราเช่นนี้คงไม่หวั่นไหวห่างหายไปจากชีวิตคริสตชน.....

ไม่มีความคิดเห็น: