พาณิชย์สุข
หากวันนี้เราต้องออกเดินทางไปต่างถิ่น ไปยังสถานที่อื่นโดยไม่มีเงินทองติดตัวไปเลย เราจะกล้าไหม??? เป็นคำถามที่ผุดขึ้นมาในใจ เมื่อตอนที่รู้สึกอยากจะเปลี่ยนสถานที่อยู่ สถานที่พักสักระยะหนึ่ง เพื่อหลีกหนีความวุ่นวายสับสนบนหนทางชีวิต แต่เอาเข้าจริง ก็เกิดความรู้สึกหวาดกลัว และไม่กล้าพอที่จะก้าวขาออกไปเผชิญชีวิตในสภาพที่ไร้เงินทองติดตัว.. ทำไมไม่กล้า ทำไมจึงกลัว ก็แน่ละ ยุคสมัยที่เงินนำหน้า ยุคสมัยที่ไม่ค่อยหลงเหลือความไว้วางใจต่อกัน ยุคสมัยที่ทุกสิ่งอันพลันกลายเป็นทุน เป็นธุรกิจไปเสียทั้งหมดเช่นนี้ ทำให้ทุกความคิด ทุกขั้นตอนของชีวิตต้องผูกโยงกับมัน แล้วเราผู้ที่วนเวียนอยู่กับกระแสแห่งทุนนิยม มีหรือที่จะกล้าก้าวเดินออกไปโดยไร้เงินทอง อย่างน้อยก็เพื่อความอุ่นใจ ใช่... เงินอาจจะซื้อทุกอย่างไม่ได้ แต่ร้อยทั้งร้อยก็ขอมีเงินติดตัวไว้บ้างด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน แต่เนื้อหาก็คือ เราไม่มีความมั่นใจหลงเหลืออยู่เลยกับความมีน้ำใจ เมตตาอาทรต่อกันของคนในวันนี้ นี่เป็นความจริงที่สิงอยู่ในใจทุกคน
ใช่หรือไม่ วันนี้เราต่างดำเนินชีวิตเพื่อพิชิตก้อนเงิน กองทองกันทั้งนั้น มิตรภาพยังผันเปลี่ยนเป็นธุรกิจ ความรักยังกลายเป็นกลเกมทางการตลาดได้ และความสุขตามมาตรฐานแห่งยุคสมัย คือ การได้มีเงินทองให้มากๆ ทำการค้าการขายเพื่อมีผลกำไรให้เยอะๆ การพุดคุยแลกเปลี่ยนทัศนะคติของชีวิตต่อกันก็ลดน้อยลง กลายเป็นการพูดคุยเพื่อชักจูงสู่การลงทุน เนื้อหาการสนทนาไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบที่เคยมีก็เปลี่ยนเป็นการบรรยายให้เห็นดีเห็นงามและคล้อยตามในระบบวงจรธุรกิจที่ทำเงิน และยอดขายที่เป็นล่ำเป็นสันในแต่ละเดือน โดยใช้ความสุขความสบายเป็นข้ออ้าง
และจริงหรือที่เงินบันดาลสุข เราก็รู้ทั้งรู้ว่ามันไม่จริง แต่เราก็ไม่เคยเชื่อในสัจจะข้อนี้กันเลย โลกก็มีตัวอย่างผ่านมามากมาย แต่ทุกคนกลับไม่เคยนำพามาเป็นบทเรียน อยากจะมีประสบการณ์แห่งการร่ำรวยด้วยกันทุกคน รายล่าสุด นักร้องชื่อดัง ราชาเพลงป๊อป ผู้นำแห่งวงการเพลงและการแสดง ไมเคิล แจ็คสัน ผู้ที่ได้ลาโลกไปพร้อมกับเรื่องราวที่แสนสับสน และเรื่องราวที่ทิ้งค้างคาเป็นบทเรียน
ไมเคล แจ็คสัน เกิดมาเพื่อเป็นผู้มอบความสุขให้แก่คนทั้งโลก แต่เขากลับไม่เคยพบความสุขเลยสักครั้ง ตั้งแต่วัยเด็กเขาถูกปั้นแต่งให้เดินบนเส้นทางบันเทิง จนมีชื่อเสียงโด่งดัง กลายเป็นวีรบุรุษของคนอีกหลายล้าน ด้วยกลการตลาดที่ชูเขาให้เป็นสินค้าชั้นยอด จากพรสวรรค์ การร้อง การเต้น การแสดงที่แสนมหัศจรรย์ ก็ถูกเปลี่ยนแปลงให้กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของโลกยุคใหม่ โลกบันเทิงจอมปลอม ทุกสิ่งในชีวิตเขาถูกเขียนบทให้เสร็จสรรพ เพราะสิ่งเหล่านี้กลายเป็นแหล่งทำเงินมหาศาลให้กับตัวไมเคิลและผู้ที่เกี่ยวข้อง ทำให้วิถีชีวิตของเขาไม่เหมือนกับผู้คนธรรมดา ถูกสร้างถูกปรุงแต่งให้กลายเป็นศาสดาแห่งความบันเทิงที่ต้องมีอะไรแตกต่างจากชาวบ้าน ทุกอย่างถูกทุ่มทุน ไมเคิล แจ็คสัน กลายเป็นคนนำวัฒนธรรมใหม่ๆเข้ามาสู่สังคมโลก โดยเฉพาะการตลาดชั้นเยี่ยมที่ไม่เคยเห็นเขาหายไปจากหน้าจอเลยตลาดหลายสิบปีที่ผ่านมา
เงินทองมหาศาลจากการขายเสียง ขายความบันเทิง หลั่งไหลเข้ามาอย่างง่ายดาย เงินจำนวนนั้นถูกใช้ไปเพื่อสร้างสะดวกสบายให้กับไมเคิลจนเกินงาม แต่สิ่งเหล่านั้นก็มิอาจสร้างความสุขให้เขาได้เลย กลายเป็นความหวาดกลัว กลายเป็นความระแวง และจากที่ไม่เคยมี พอมีมากจนล้นเหลือก็มิอาจจะจัดการทรัพย์สินเงินทองได้ ถูกใช้ไปอย่างสะเปะสะปะ แท้จริงใครจะรู้ได้ว่าความสุขของไมเคิ้ล แจ็คสัน อยู่ที่การแสดง การเต้น การร้องเพลง เพื่อให้คนอื่นมีความสุข นั่นคือความสุขสุดยอดของเขาต่างหาก วันนี้เขาจากไปโดยทิ้งความทรงจำที่งดงามและบทเรียนอันล้ำค่าแก่โลก ความสุขจากการพาณิชย์และการค้าขายแลกเปลี่ยนหาใช่ความสุขที่เที่ยงแท้ไม่ ความสุขที่แท้จริงคือการพออยู่ พอดี ของชีวิต รู้เป็นรู้อยู่รู้ใช้ ความสุขเพื่อตัวเองก็เป็นความสุขที่ไม่ยั่งยืน
โลกแห่งทุนนิยมกำลังเข้าครอบงำสังคมจนมองไม่เห็นทางออก โลกที่เต็มไปด้วยการค้าการขาย ทุกคนกลายเป็นนักขาย นักการตลาด ต่างคนต่างมุ่งหวังกำไรจากกันและกัน โดยหลงลืมความสัมพันธ์ หลงลืมความเอื้ออาทรต่อกัน จากการให้กันและกันกลายเป็นกอบโกยจากกันและกัน ใช่หรือไม่ ยิ่งเรามีเงินทองและทรัพย์สมบัติติดตัวมากขึ้นเท่าไหร่ เราจะมีเวลาที่จะตรวจสอบชีวิตน้อยลง ไม่มีช่องว่างพอที่จะมองเห็นคนรอบข้าง เงินทองสามารถซื้อทุกอย่างได้ก็จริง แต่ก็มีบางสิ่งที่มิอาจจะใช้เงินทองแลกเปลี่ยนได้ นั่นคือความรัก และหากว่าวันนี้ทุกคนพยายามที่จะแปรรูปความสุขให้อยู่ในการตลาด แปรรูปความสมบูรณ์ของชีวิตอยู่บนกองทุน สังคมที่ไร้สุข สังคมที่เต็มไปด้วยความกลัวและความหวาดระแวงก็กำลังก่อตัวขึ้นอย่างเงียบๆอาจจะเป็นภัยร้ายเสียยิ่งกว่าไข้หวัดใหญ่ 2009 ที่กำลังระบาดอยู่ก็ได้ ....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น