วันเสาร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2567

สุขของกันและกัน

 

สุขของกันและกัน

>>> อย่าให้ความสุขของเราเป็นดาบไปทำร้ายคนรอบตัวเรา <<<

เราวัดความสุขกันจากอะไร? เราวัดจากการทำให้ตัวเรามีความสุข ใช่หรือไม่ อันนี้ก็ไม่แน่เสมอไป เพราะบางเวลา “สุขเราแต่กลายเป็นทุกข์ชาวบ้านก็มี” วัดจากสิ่งภายนอกหรือ? คนที่สวยคนที่หล่อไม่แน่เสมอไปว่าครอบครัวจะมีความสุขุม คนที่ครอบครัวมีความสุขไม่เสมอไปว่า จะมีการงานที่ดีมีความมั่นคง คนที่การงานดีมั่นคงไม่เสมอไปว่า จะมีความสุขและมีอิสระ ในการดำเนินชีวิตของเรานั้นมีทั้งด้านทุกข์และด้านสุข แต่จะให้สุขที่แท้จริงได้นั้น ต้องเป็นการปันสุขให้คนอื่นด้วย โดยที่ไม่หวังแต่ตัวเราเองฝ่ายเดียว

ในห้องเรียนคุณครูคนหนึ่งต้องการสอนเรื่องการแบ่งปันความสุขภายในห้อง วันหนึ่งคุณครูจึงแจกลูกโป่งแล้วให้ทุกคนเป่าลูกโป่งของตัวเองให้สวยงามตามใจชอบ พร้อมทั้งเขียนชื่อของต้องเองไว้บนลูกโป่งใบนั้น จากนั้นก็ปล่อยลูกโป่งลอยละล่องอยู่เต็มห้อง แล้วให้ทุกคนออกมายืนรอหน้าห้อง จนเมื่อคุณครูให้สัญญาณ ให้ทุกคนเข้าห้องหาลูกโป่งที่มีชื่อของตัวเอง ผ่านไป 15 นาที ทุกคนจึงหาได้ครบ


คุณครูบอกว่าเราใช้เวลานานเกินไป จากนั้นก็ให้ทุกคนปล่อยลูกโป่งไว้ในห้องเหมือนเดิม แล้วทุกคนก็ออกมารอหน้าห้อง ครั้งนี้คุณครูบอกว่า “ให้เราเข้าไปเจอลูกโป่งชื่อใครก็ได้หยิบแล้วนำไปให้คนนั้นทันที”ในครั้งนี้ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีทุกคนได้รับลูกโป่งของตัวเองหมดทั้งห้อง

คุณครูสรุปกิจกรรมให้เด็กนักเรียนฟังว่า “ลูกโป่งก็เหมือนความสุข หากเรามัวแต่หาแต่ของตัวเองก็ต้องใช้เวลานานกว่าจะพบเจอ แต่หากเรารู้จักที่จะปันสุขให้คนอื่นก่อน เราก็จะได้รับความสุขกลับมาอย่างรวดเร็ว และความสุขนั้นก็จะอยู่กับเรานานขึ้นด้วย”

ในโลกยุคปัจจุบันเราเห็นความสุขเต็มไปหมด เพราะต่างคนต่างอวดความสุขของตัวเองออกหน้าสื่อโซเชี่ยล แต่จะสุขหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องยากที่จะบอกได้เพราะโลกออนไลน์จะมีความจริงอยู่สักเท่าไหร่กันเชียว ส่วนมากเป็นการสร้างสุขสร้างเรื่องราวเพื่อนำมาโชว์มาโอ้อวดกันก็เท่านั้นเอง ใช่หรือไม่ เราต่างมีความสุขเพื่อตัวเอง โดยมักจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไม่มีในครอบครอง เพราะอยากได้แต่ไม่อาจได้ จึงคิดว่าสิ่งนั้นต้องล้ำค่าเป็นแน่ แต่ครั้นพอได้ครอบครองจริง ๆ อาจไม่รู้สึกถึงความล้ำค่านั้นอีกต่อไป เที่ยวออกเสาะหาสิ่งล้ำค่าอันใหม่ต่อไป เพื่อนำมาอวดผู้คนอยู่ร่ำไป ต้องใช้เวลาสิ้นเปลืองไปเรื่อย ๆ และมันก็ไม่ได้ดีไปกว่าในสิ่งที่มีอยู่ในขณะนี้เลย

บ่อยครั้งแค่พอใจก็ได้ความสุขแล้ว ที่เราเป็นทุกข์ก็เพราะใส่ใจมากเกินไป อันนั้นจะไขว่คว้า อันนี้ก็จ้องจะหา อันนั้นก็จะควบคุม อันนี้ก็จะเก็บ มองหาแต่เอาเข้าตัวเอง ยึดครองเพื่อเสพสุขส่วนตัว ชีวิตคนเราไม่มีใครสมหวังในทุกสิ่ง เพราะมีได้ก็ต้องมีเสีย มีพบก็ต้องมีจาก มีรักก็ต้องมีเลิก ไม่มีสิ่งใดจะราบรื่นไปตลอด เรามักหลงเชื่อว่า “ยังมีเวลาอีกมาก” แต่บางเวลาก็พลาดไป เรามักจะกังวลว่าครั้งต่อไปจะทำยังไง? วันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร? แต่...ครั้งต่อไปและวันข้างหน้าจะยังมีลมหายใจอยู่หรือเปล่า เราไม่สามารถจะรู้ได้ ฉะนั้น วันนี้ เวลานี้ ตอนนี้อะไรปันได้ก็ปัน ก็แบ่งออกมาเพื่อให้คนรอบข้างมีความสุข มีรอยยิ้ม อย่าเก็บความสุขไว้เพื่อตัวเอง อิ่มสุขเพียงตัวคนเดียวก็จะสำลักสุขจนกลายเป็นทุกข์ได้ ความสุขนั้น คือ การสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับตัวเราเอง และแบ่งปันกับคนอื่น โดยเฉพาะคนใกล้ตัวเราวันนี้เขามีความสุขเวลาได้อยู่กับเราหรือเปล่า.....

ไม่มีความคิดเห็น: