วิถีสาธารณะ
>>>
ไฟฟ้าดับ น้ำไม่ไหล ไม่ว้าวุ่นเท่าระบบสื่อสารสมัยใหม่ล่ม <<<
เมื่อค่ำคืนวันอังคารที่ผ่านมา
กำลังเช็คความเคลื่อนไหวของเพจวัดเซนต์หลุยส์ ในฐานะผู้ดูแลระบบ
ยังไม่ทันจะเสร็จสิ้นภารกิจ เฟสบุ๊คก็เด้งออกจากระบบ แจ้งว่าหมดอายุ
พยายามเข้าระบบใหม่แต่ก็เข้าไม่ได้ ทำอยู่หลายครั้งจึงรีบเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อแก้ไข
เพราะทำง่ายกว่าผ่านทางมือถือ เกรงว่าเดี๋ยวเช้ามาจะออนไลน์มิสซาเช้าไม่ได้
สักพักก็ได้รับแจ้งว่าระบบล่มทั้งโลก ว้าวุ่นกันเลยทีเดียว
เช้ามาทุกอย่างก็คืนสู่สภาพปกติ
ในสมัยก่อนที่ยังไม่มีการสื่อสารแบบนี้
ค่ำคืนเราทำอะไรกันบ้าง เหมือนกับนั่งเครื่องย้อนเวลารำลึก เมื่อหลายสิบปีก่อน
ทุกค่ำคืนคนในระแวดบ้านจะมาคุย มาเล่านั่นเล่านี่ เรื่องราวตื่นเต้นบ้าง
ข่าวคราวของคนอื่นบ้าง คุยกันสนุกสนาน บางครั้งผู้ใหญ่ก็จะแกล้งเล่าเรื่องผีสางนางไม้ให้เด็ก
ๆ กลัว ครั้นเมื่อเวลาผ่านไปมีทีวีขาวดำ
บ้านใครที่ซื้อไว้ก็จะกลายเป็นศูนย์กลางชุมชน มาเฝ้าดูข่าว ดูละคร พอวันเวลาผ่านไปแต่ละบ้านเริ่มมีทีวีสีเป็นของตัวเองบ้านใครบ้านมัน
จากชุมชนกลายเป็นเหลือเฉพาะคนในครอบครัวที่มาเสพความบันเทิงร่วมกัน
จวบจนเมื่อระบบสื่อสารสมัยใหม่เข้ามา ทีวีก็หมดความหมาย ต่างคนต่างมีต่างดูต่างเสพในสิ่งที่ตัวเองชอบและก็ติดมันจนโงหัวไม่ขึ้น
ออกท่องวิถีสาธารณะในโลกออนไลน์ โลกจริงเพียงแค่อยู่อาศัยหายใจร่วมกันในบ้าน
ในห้องเท่านั้น
วิถีชีวิตชุมชนแบบเก่าถูกแทนที่ด้วยสังคมชุมชนออนไลน์ จากชาวบ้านก็กลายเป็นชาวเน็ต จากคนเสพสื่อก็กลายเป็นคนส่งสื่อให้คนอื่นเสพบ้าง วิถีชีวิตดูจะกว้างขึ้น แต่ความลึกในสายสัมพันธ์กลับตื้นเขินและแคบลง มีการสื่อสารพูดคุยกันน้อยลง การเล่าเรื่องราวอย่างสนุกสนานหายไป มีแต่เรื่องของคนดัง มีแต่เรื่องข่าวซุบซิบนินทาสาธารณะ และการสอดรู้สอดเห็น คำวิจารณ์การก่นด่าเต็มอากาศ การจะช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยากก็เกิดการระแวงว่าจะถูกหลอก ถูกโกง เกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจกัน เที่ยวเสพส่องชีวิตคนอื่นไม่มีเวลาไตร่ตรองส่องส่ายชีวิตภายในตัวเอง ข่าวร้ายรายวัน หนึ่งวันพันเรื่องให้ต้องวุ่นให้ต้องตามกระแสกันอย่างไม่หยุดหย่อน วิถีสาธารณะดูแล้วช่างเหน็ดเหนื่อย หากแต่เราหันมาทำสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อผู้อื่นกันบ้างก็น่าจะดีงามกว่าวิถีชีวิตส่วนตัวที่แอบแฝงเอาเปรียบสาธารณะชน ในวันระบบล่ม เราจึงได้มีเวลาคุยกับตัวเองบ้าง ไตร่ตรองชีวิตจิตก่อนหลับตานอนบ้างก็ดีเหมือนกัน ....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น