ใจคนเรา
>>> ในสังคมกว้างใหญ่หากใจเราแคบ
ย่อมพบแต่ความขมขื่น <<<
วันหนึ่งเรียกแท็กซี่กลับบ้าน
พอนั่งไปได้สักพักก็ติดไฟแดง จังหวะนั้นเองได้ยินเสียงรถขอทางของรถพยาบาลดังขึ้น รถทุกคันก็ช่วยกันขยับชิดซ้ายขวา เปิดให้มีทางที่กว้างขึ้น
เราก็หวังในใจว่ารถคันที่นั่งจะขยับตาม ใช่แล้วขยับ แต่...ขยับตัดหน้ารถพยาบล แล้วก็วิ่งนำอย่างรวด เราก็ได้แต่อ้าว … หมดคำจะพูด ใจบางคนก็คับแคบเห็นแก่ตัว เขาคิดอะไรอยู่ถึงทำแบบนี้ นั่นแหละเป็นบทเรียนว่า เราจะต้องไม่ทำแบบนี้ เพราะทำไปมันไม่พบความสุขใจเอาเสียเลย
คุรุชาวอินเดียท่านหนึ่ง มีลูกศิษย์ที่มักเอาแต่พร่ำบ่นอยู่คนหนึ่ง วันหนึ่งท่านก็ได้สั่งให้ลูกศิษย์ไปซื้อเกลือมาจากตลาด เมื่อได้เกลือกลับมา ท่านจึงได้สั่งให้เขาหยิบเกลือหนึ่งกำมือใส่ลงไปในแก้วน้ำ จากนั้นก็ให้เขาดื่ม “รสชาติเป็นอย่างไร?” คุรุถาม “เค็มจนขมขอรับ” พูดเสร็จก็บ้วนน้ำเกลืออกจากปากทันที
คุรุก็ได้สั่งให้เขานำเอาเกลือที่เหลือเทลงไปในบึงน้ำ
สั่งให้เขาตักน้ำในบึงมาชิม “รสชาติเป็นอย่างไร?” คุรุถาม “รสชาติดีขอรับ” เขาตอบ “เจ้าได้รสเค็มของเกลือหรือไม่?” คุรุถาม “ไม่มีเลยขอรับ” ลูกศิษย์หนุ่มตอบอาจารย์
“ความทุกข์ในชีวิตคนเราเปรียบเสมือนเกลือถุงนี้
การรับรู้รสของเกลือนั้นอยู่ที่ภาชนะที่รองรับ หากเจ้าพบเจอกับความทุกข์
แล้วเอาแต่บ่น ก็ไม่ต่างอะไรจากการใส่เกลือลงไปในแก้วใบเล็ก
เจ้าจึงรู้สึกทุกข์แสนสาหัส หากเจ้าเปิดใจให้กว้าง เป็นภาชนะใบใหญ่ แม้จะใส่เกลือมากมายลงไป
เจ้าก็ไม่ทุกข์กับสิ่งที่เจอ เพราะภาชนะนั้นมันกว้าง” คุรุสบโอกาสชี้แนะลูกศิษย์ (นุสนธิ์บุคส์)
ใจคนเราเหมือนภาชนะ
ใส่ความสุขไว้มาก ก็มีพื้นที่เหลือให้ความกลัดกลุ้มน้อยลง ใส่ความเรียบง่ายไว้มาก
ก็มีพื้นที่เหลือให้ความซับซ้อนน้อยลง ใส่ความพอเพียงไว้มาก
ก็มีพื้นที่เหลือให้ความทุกข์น้อยลงใส่ความเข้าใจไว้มาก
ก็มีพื้นที่เหลือให้ความขัดแย้งน้อยลง ใส่ความอภัยไว้มาก
ก็มีพื้นที่เหลือให้ความแค้นเคืองน้อยลง ใจเราจะเป็นแบบไหนเล่า.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น