กว่าจะเป็นเช่นวันนี้
>>> สิ่งที่เห็นและเป็นเช่นวันนี้
ย่อมผ่านพ้นหนทางทุกข์สุขมาด้วยกันทั้งนั้น <<<
การจากไปของคุณพ่อปีแอร์ ลาบอรี ในวัย 98 ปี
ที่ใช้ชีวิตรับใช้พระศาสนจักรไทยมาค่อนชีวิต ได้ทำให้เราย้อนรำลึกถึงพระคุณของท่าน
โดยเฉพาะที่วัดเซนต์หลุยส์ ท่านเป็นผู้ก่อร่างปูทางในหลายสิ่งที่เราเห็นเช่นวันนี้
คุณพ่อเกิดวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 1925
ที่ฝรั่งเศส บวชเป็นพระสงฆ์ 29
พฤษภาคม ค.ศ. 1949 อีกสามเดือนต่อมาท่านก็มาถึงประเทศไทย
เรียนภาษาไทยที่นครชัยศรีภายในสามปี มาเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสที่วัดอัสสัมชัญ กรุงเทพฯ ไปช่วยงานที่เชียงใหม่ ที่โนนแก้ว นครราชสีมา กลับมาช่วยงานที่กรุงเทพฯ
กระทั่งในปี ค.ศ. 1960-1967 ได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดเซนต์หลุยส์ กรุงเทพฯ องค์ที่ 2 ต่อจาก พระคุณเจ้าลังเยร์ ที่ได้รับการแต่งตั้งไปเป็นพระสังฆราชนครสวรรค์ ตลอด 7 ปี มีมากมายที่เกิดขึ้น ท่านได้จัดตั้งโรงเรียนวิริยาลัย แยกนักเรียนชายไปเรียนที่นั่น (ปัจจุบันคือวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ ซอย1) ได้ปรับเปลี่ยนพระแท่นในวัดให้มาอยู่ตรงกลางตามสังคายนาวาติกันที่ 2 ที่ให้พระสงฆ์หันหน้าหาสัตบุรุษเวลาประกอบพิธีมิสซา ซึ่งช่วงนั้นสัตบุรุษหลายคนไม่เข้าใจ บางคนก็ต่อต้านการปรับย้ายครั้งนั้น ด้วยความอดทนทำตามพระศาสนจักรกำหนดอย่างเต็มที่ เมื่อเวลาผ่านไปทุกคนก็ลืมเรื่องราวเหล่านั้นและมา “ร่วมพิธีมิสซา” อย่างดี มิใช่มาเพียง “ฟังมิสซา”
คุณพ่อเอาใจใส่และเยี่ยมเยียนชุมชน ช่วยเหลือสัตบุรุษที่ขัดสน ให้การศึกษากับนักเรียนที่ไร้ทุนทรัพย์ เอาใจใส่ในกิจกรรมต่าง ๆ ของวัด สนับสนุนพลมารีทุกรุ่น กลุ่มผู้สวดภาวนาผู้ล่วงลับภาษาจีน วินเซนเดอปอล เครดิตยูเนี่ยนและเยาวชน นักขับร้อง เด็กช่วยมิสซา เปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วมกับวัด แม้กระทั่งสารวัดก็เริ่มในสมัยคุณพ่อ
หลังจากนั้นคุณพ่อไปช่วยงานสังฆมณฑลนครสวรรค์
ในช่วงปี ค.ศ. 1992-1995 ท่านต้องกลับไปเป็นอธิการบ้านพัก
ที่มองเบอตอง ฝรั่งเศส เมื่อหมดวาระคุณพ่อก็ขอกลับเมืองไทย มาช่วยงานที่สังฆมณฑลนครสวรรค์
จนวาระสุดท้าย ในวันฉลองวัดเซนต์หลุยส์ เมื่อปี 2019
คุณพ่อปิแอร์ ลาบอรี่ ได้มาเป็นประธานพิธีฉลองวัด คุณพ่อได้กล่าวไว้ว่า
ผมจะอยู่กับคนไทยตลอดไป ผมรักประเทศไทย นี่คือสิ่งที่เห็นเป็นวัดเซนต์หลุยส์เช่นในวันนี้ ผ่านทางคุณพ่อปีแอร์
ลาบอรี ผู้แข็งแกร่ง และสงฆ์นิรันดร์ ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น