ในความเงียบของวันนี้
>>> จะมีใครบางคนที่คุยได้ทุกเรื่อง
คนนั้นอยู่ในความเงียบ <<<
วัน ๆ
หนึ่งบางทีเราก็เจอะเจอคนนั้นคนนี้ มีคนรู้จักใหม่ ๆ ได้พูดกันตามแต่ละสถานการณ์ บางคนคุยเรื่องงาน บางคนก็คุยตามวาระประชุม
บางคนคุยแบบทักทาย บางคนคุยเรื่องไม่เป็นเรื่องไม่เป็นราว บ่อยครั้งเราก็คุยกันแบบไม่ออกเสียง
ซึ่งกำลังนิยมมากในยุคสมัยสื่อสารครองโลก คุยกันด้วยตัวอักษร ด้วยสติกเกอร์
อิโมชั่น เอาเข้าจริง แล้วเรามีสักกี่คนที่คุยกับเราได้ทุกเรื่อง เล่าให้ฟังได้ทุกอย่างทั้งในยามทุกข์ ยามสุข คน ๆ นั้นเราต้องไว้วางใจได้
เพราะบางเรื่องมันเป็นความลับ เป็นความในใจที่อยากจะหาใครสักคนรับฟัง ในโลกใบนี้หาคนแบบนี้ได้น้อยลง
ๆ ทุกที
ใช่หรือไม่ บางทีเราหวังจะเล่าอะไรบางเรื่องให้คนหนึ่งฟัง
แต่ก็ต้องพลาดเพราะว่าสมาธิคนเราสั้นลง หันไปคุยเรื่องอื่นแทน ทิ้งเรื่องที่ตั้งใจจะเล่าค้างคาใจตลอดไป
ยิ่งในวงสนทนาก็ไปกันใหญ่ คุยกันไปเรื่อยเปื่อย สนุกสนาน แต่จำอะไรแทบไม่ได้
เพราะคนนั้นพูดทีคนนี้พูดที ดูสับสนว้าวุ่นกันไป หันกลับมาดู การพูดคุยกับคนภายใต้หลังคาเดียวกัน
วันนี้เราก็คุยกันน้อยลงอย่างน่าใจหาย เพราะต่างคนต่างมีสังคมเฉพาะตัว มีมุม มีเพื่อนทางไกลให้คุยกันมากขึ้น
เรามักตกอยู่ภายใต้ความเงียบงันท่ามกลางคนกันเอง
เรามักต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เพื่อคุยเพื่อดู เพื่อถูเพื่อไถมือถือ ไม่มีเวลาสนใจกัน
เรามีคนติดต่อเป็นร้อย แต่ถามจริง หาคนที่ปรึกษาหารือได้สักกี่คน
และเราไว้วางใจได้สักกี่เปอร์เซนต์ เรามักบอกว่าต้องการความเงียบความเป็นส่วนตัว
แล้วจะเกิดสมาธิ เกิดความสงบสุขภายใน แต่ความเงียบแบบทุกวันนี้กลับกลายเป็นความเงียบที่น่ากลัว
มีคนเคยบอกว่า ความเงียบสามารถสอนให้เรารู้ว่าเราคือใคร ความเงียบสามารถหล่อเลี้ยงวิญญาณและเปิดมุมมองใหม่ให้แก่เรา แต่วันนี้ความเงียบก่อให้เกิดปัญหามากขึ้น โรคซึมเศร้า ความเงียบวันนี้เป็นความเงียบที่ดังที่สุด ที่แต่ละเก็บกดทับเอาไว้ จะบอกใคร ก็ไม่มีใครได้ยิน ได้แต่กึกก้องอยู่ข้างใน รอวันระเบิดเพราะระบายออกมาไม่ได้ ชีวิตผู้คนในวันนี้ที่เต็มได้ด้วยเสียงดัง ที่ใช้กลบเกลื่อนความบอบช้ำ เพราะว่าเราอยู่กับความเงียบไม่เป็น เพราะว่าเราอยู่ในโลกที่ต้องแสดงออกตลอดเวลา เพราะสังคมโลกเต็มไปด้วยการแสวงหา ไขว่คว้า ก้าวไปข้างหน้าตลอดเวลา ความเหนื่อยล้า อ่อนล้า ไม่ได้ช่วยให้เกิดความเงียบ แต่นำพามาซึ่งความวิตกกังวล และความสับสน การตัดสินใจจึงไม่ได้อยู่บนฐานของคุณค่าของชีวิต
สำหรับบางคน
ความเงียบเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา แต่สำหรับบางคนก็ไม่ใช่
บางคนทนเสียงดังอึกทึกไม่ได้ เช่นเดียวกับที่บางคนก็ทนอยู่กับความเงียบไม่ได้ เป็นความจริงที่ว่าทั้งเสียงและความเงียบ ต่างก็สามารถทำให้เรารู้สึกอึดอัดได้พอ
ๆ กัน แต่ในวันนี้ดูเหมือนทุกคนต้องการความเงียบ
แต่กลับอยู่กับความเงียบนั้นไม่เป็น เงียบแต่กระวนกระวาย
เงียบแต่ไม่สงบ เงียบแต่ไม่ฟัง คนที่จะครอบครองใจคนอื่นได้นั้นต้องเป็นผู้ฟังที่ดี
แล้วคิดดูสิ เรายังไม่รู้จักที่จะฟังตัวเองเลย แล้วเราจะฟังใครได้
เรายังครองใจตัวเองไม่เป็น แล้วเราจะเป็นที่ไว้วางใจให้ใครได้เล่า?
เราต่างก็กลายเป็นคนแปลกหน้าต่อกัน เราต่างก็เงียบใส่กัน แล้วเช่นนี้
เราจะรู้จักใส่ใจกันได้เช่นไร...
เราต้องอยู่กับความเงียบให้เป็น และคุยกับตัวเราให้ได้
เพราะนั่นเท่ากับว่าเราได้คุยกับพระเจ้าผู้ทรงสถิตในตัวเรา หมั่นที่จะคุยทุกเรื่องเพราะพระองค์รับฟังเราได้ตลอดเวลา
พร้อมทั้งให้คำตอบเราได้เสมอ เพราะพระองค์คือองค์กษัตริย์ผู้ครอบครองหัวใจของเราในทุกวันเวลา
เป็นผู้ปกครองที่พร้อมรับฟังอย่างเงียบแต่ทรงพลังที่สุดยิ่งนัก ในความเงียบมีพระสุรเสียงของพระองค์เสมอ ตั้งใจฟัง
แล้วเราจะได้ยินเสียงนั้นอย่างชัดเจน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น