วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

Pause เพื่อผ่าน

 

Pause เพื่อผ่าน

>>> ทุกสรรพสิ่งมีจังหวะตามกาลเวลา <<<

ยิ่งโตยิ่งเติบใหญ่ เวลายิ่งเดินไว ผ่าน วัน เดือน ปี ไปเร็วดุจดั่งสายลมหนาวที่ผ่านเพียงชั่ววูบแล้วก็หดหายไป แต่มันก็ผ่านมาทุกปี เวลามักทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนไปได้เสมอ สิ่งที่ต้องย้ำเตือนตนให้คำนึงถึงบ่อย ๆ ก็คือ มีอะไรงอกเงยงอกงามขึ้นมาบ้างหรือไม่ ในช่วงของการเปลี่ยนผ่าน แน่ล่ะ คงวัดกันลำบาก แต่เราวัดได้ด้วยตัวเราเอง

ยิ่งโตขึ้น เรายิ่งต้องรู้สึกว่า เรื่องราวบางเรื่องราว เงียบ ๆ ไว้จะดีกว่า ถึงพูดไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ซ้ำร้ายจะยิ่งแย่กว่าเดิม ในบางทีและในบางเรื่อง ก็ต้องทำนิ่ง ๆ เฉย ๆ บ้าง โวยวายไปก็ไม่เป็นผลดีต่อตัวเอง วันเวลาสอนให้เรารู้จักเย็นลง รู้จักจังหวะอันไหนควรอันไหนไม่ควร จะเป็นขวานผ่าซากก็ต้องเป็นขวานที่คมด้วย พยายามโมโหให้น้อยลง อดทนอดกลั้นให้เป็น ยามมีความสุขก็สุขให้เต็มที่ ชีวิตอยู่กันไม่นานนักหรอก เรามีหนทางในการตัดสินใจเปลี่ยนผ่าน หรือจะปล่อยผ่าน ....

ใช่หรือไม่ ในเวลาที่เราฟังเพลง หรือดูคลิป ดูสื่อในโทรศัพท์มือถือ จะเห็นว่ามีปุ่มอยู่หลายปุ่มให้เรากดเลือก มีอยู่ปุ่มหนึ่งจะอยู่คู่กันหรือไม่ก็ใช้ตำแหน่งเดียวกัน ใช้เพียงเพื่อเปลี่ยนสถานะ นั่นคือ ปุ่ม Play และ ปุ่ม Pause เล่นหรือหยุดชั่วคราว อาจจะหยุดไว้เพื่อรอจังหวะหาโอกาสกลับมาเล่นเดินหน้าต่อ ช่วงนี้แหละเป็นเวลาที่จะทำให้มีเวลาที่จะคิดว่า พอเท่านี้หรือไปต่อ ชีวิตคนเราบางทีก็มีจังหวะที่จะต้องกดหยุดชั่วคราวกันบ้าง หยุดเพื่อสังเกต หยุดเพื่อเปลี่ยนผ่าน ก้าวไปต่ออย่างมั่นคง

ในระหว่างทางของการผลัดเปลี่ยน มีอะไรบางอย่าง เป็นสัญญาณเตือนเราเสมอ เตือนเราว่าได้เวลาโต เตือนเราว่าถึงเวลาใกล้ตาย ในเวลาที่เหมาะที่ควรแล้ว เวลาที่เปลี่ยนไปนั้นจึงมีค่าเสมอ เราอาจจะเล่นใหม่ หรือจะตัดสินใจเปลี่ยนออกจากวิถีเดิม ๆ เลยก็สุดแต่ใจ หนทางที่เลือกนั้นมีทั้งดีและไม่ดี หากไม่ดี ไปต่อไม่ได้ ก็หยุดพัก แล้วเลือกใหม่ได้เสมอ ชีวิตมีหลากหลายจังหวะให้เลือกให้เปลี่ยน เลือกเพื่อให้พบกับสิ่งดี ๆ เลือกให้พบกับความงาม เลือกให้พบกับสันติสุข และความเบิกบาน เพื่อก้าวผ่านไปเป็นส่วนหนึ่งในพระราชัยสวรรค์

ไม่มีความคิดเห็น: