ชีวิตก็เช่นนี้
>>> ความตายมาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันใด
การกลับคืนชีพของบรรดาผู้ตายก็มาจากมนุษย์คนหนึ่งฉันนั้น <<<
เมื่อบ่ายวันเสาร์ที่ผ่านมา
ได้รับข่าวการจากไปของ “ป้าพวง” (บางคนเรียก เจ้พวง เรียก คุณนายพวง) ซึ่งเคยเป็นผู้จัดเตรียมวัด
จัดเตรียมมิสซาที่วัดเซนต์หลุยส์ หลายคนคงคุ้นเคยและเคยสนทนากับป้าพวงบ่อย ๆ เมื่อ
4-5 ปีที่แล้ว ป้าพวงได้ลาออกไปพักรักษาตัวจากโรค SLE (โรคแพ้ภูมิตัวเอง) สิ่งที่ผุดขึ้นจากข่าวการจากไปครั้งนี้
คือ เหตุการ์ณเมื่อกลางดึกคืนหนึ่ง ญาติป้าพวงโทรมาขอความช่วยเหลือ เพราะป้าพวงมีอาการเพ้อ พูดจาไม่รู้เรื่อง เหมือนถูกผีสิง พวกเรารีบนัดไปเจอกันยังบ้านเช่าแถวเซนต์หลุยส์
ซอย 3 เพื่อพาไปโรงพยาบาล ผ่านไปเป็นชั่วโมงกว่าจะพากันลงมาขึ้นรถ แล้วก็เริ่มจากโรงพยาบาลแรกก็ไม่รับ
แนะนำไปโรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่ง ไปถึงก็ไม่รับรักษาเพราะในยามค่ำคืนไม่มีหมอ พากันขับรถเวียนหาที่รักษา
ด้วยสภาพอัดกัน 5-6 คน จนเริ่มหมดหนทาง ก็คิดว่า ยังไง ๆ คืนนี้ต้องทำให้ป้าพวงสงบ
เหมือนพระจิตดลใจให้คิดถึงยานอนหลับ จึงหาร้านขายยา
และรีบผสมกับน้ำดื่มหลอกให้กิน ไม่นานอาการนิ่งขึ้นและหลับไป
ก็ปาเข้าไปตีหนึ่งกว่า ๆ
ภายหลังได้ทราบข่าวว่าป้าพวงไม่ค่อยได้กินยาตามหมอสั่ง จึงทำให้ร่างกายอ่อนแอ ลามไปถึงระบบประสาท ทำให้เข้าใจสภาพการเจ็บป่วยของป้าพวงมากขึ้น เมื่อร่างกายดีขึ้นป้าก็มาไหว้ขอบคุณอย่างสวยงาม จากนั้นไม่นานก็ออกจากงานที่วัดไปพักรักษาโดยมีลูกสาวดูแล ได้ข่าวอีกทีว่าป่วยหนักเริ่มพูดไม่ได้ พักอาศัยอยู่คอนโดแถว ๆ สำนักงานเขตสาทร... ข่าวล่าสุดลูกสาวพาแม่กลับ จ.ยโสธรที่บ้านเกิดในสภาพติดเตียง แล้วป้าก็จากไปด้วยวัย 56 ปี พ้นทุกข์ทรมาน
ระหว่างทางกรุงเทพฯถึงยโสธรอันยาวไกล
มองดูทิวทัศน์ระหว่างทางมีทั้งฝนตก ท้องฟ้าแจ่มใส ท้องทุ่งสีทอง นี่คือชีวิตจริง
นี่คือชีวิตหนึ่ง มีสุขทุกข์ระคนกันไป ขอให้ดวงวิญญาณ อังเยลา
พวงทิพย์ ปั้นทอง ได้พบกับสันติสุขตลอดนิรันดร์
และได้เตรียมพระแท่นอันงดงาม เพื่อว่าวันหนึ่งเราจะได้ร่วมพิธีมิสซาด้วยกันบนสวรรค์ ….
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น