แสงแห่งตน
>>> เราทุกคนมีดี
มีคุณค่า แบบเฉพาะตัวของเราเอง <<<
ทุกคนคงเคยเกิดอาการทำอะไรไม่ถูก แก้ปัญหาไม่ได้ เรียกว่า มืดแปดด้าน
ยิ่งกระวนกระวายหาทางออกหาทางแก้ยิ่งไปกันใหญ่ บางทีนิ่ง ๆ สงบจิตสงบใจ
ปล่อยวางเพื่อให้ว่าง ไม่นานเราก็พบเจอแสงสว่าง ตรงด้านที่เก้าด้านที่สิบนั่นเอง
และเป็นความมหัศจรรย์แห่งชีวิต ที่พระเจ้าประทานให้เราแต่ละคน บนหนทางที่แตกต่างกัน
ที่เราเรียกว่า “คุณค่าในตัวเอง”
การเห็นคุณค่าในตัวเองเป็นความคิดที่เรามีต่อตัวเอง
เราเป็นคนแบบไหน เราเหมาะกับอะไร มีความสามารถด้านไหน เป็นสิ่งที่จะทำให้เกิดการที่จะพัฒนาชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้น
รวมถึงความสามารถในการรับมือกับอารมณ์และสถานการณ์ต่าง ๆ
ในโลกวันนี้เราต่างคนต่างก็ปรารถนาอยากให้คนอื่นเห็นคุณค่าของเรา ให้คนอื่นเห็นแสงของเรา แต่บ่อยไป...ที่เรากลับไปโหยหาแสงที่มิใช่แสงแห่งตนของเรา ไปเอาแสงแห่งกระแสที่วูบวาบ ฉาบฉวยมายึดเป็นสรณะ ต้องเป็นแสงที่เจิดจ้ากว่าใคร บางทีแสงที่มันร้อนแรงเกินไปก็สู้แสงเทียน แสงกองไฟน้อย ๆ ที่คอยให้ความอบอุ่นยามหนาวเหน็บไม่ได้ เราทุกคนมีแสงแห่งความดีด้วยกันทุกคน ไม่จำเป็นต้องส่องสว่างไปทั่ว เพียงส่องให้คนข้าง ๆ เรา ส่องให้ครอบครัวเรา เมื่อแสงต่อแสงมันสว่างขึ้น แสงแห่งความงามของส่วนรวมก็จะปรากฏขึ้นเอง
เราต้องเป็นผู้ที่มีทัศนคติที่ดีต่อตนเอง อย่าด้อยค่าแสงแห่งตนต่ำ เพราะจะส่งผลให้รู้สึกแย่กับตัวเอง
การที่มีมุมมองความคิดต่อตัวเองในแง่ลบ เป็นสาเหตุให้ขาดความกระตือรือร้นบนทางชีวิต
การเชื่อมั่นว่าเรามีคุณค่าจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะทันทีที่เรามีชีวิต แสงในตัวเองได้เกิดขึ้นแล้ว
หมั่นมีเมตตาต่อตัวเอง มีความหวังกับตัวเองอย่างเหมาะสม
ไม่คาดหวังกับตัวเองสูงจนทำให้รู้สึกกดดัน
เพราะบางสิ่งที่หวังอาจจะไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง ลดการตำหนิตัวเอง
ไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ ขอบคุณทุกสิ่ง
ทุกเหตุการณ์ทั้งดีและร้าย เพราะมันคือการเรียนรู้ เพื่อให้เรารักษาแสงแห่งตนให้คงอยู่กับเราตลอดไป.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น