ซื่อสัตย์ที่พลันแปร
>>> ให้ใจอ่อนน้อมต่อคนอื่น แต่อย่ายอมจนเกินไป
เพราะมันจะทำให้เราถูกเอาเปรียบ
<<<
สถานการณ์โลกสัปดาห์ที่ผ่านมาต่างลุ้นระทึก
ถึงความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นของประเทศใหญ่ ๆ โลกนี้ช่างเต็มไปด้วยความแปรปรวน
ไม่เว้นแม้กระทั่งจิตใจของเรา บางครั้งบางวันเราก็นิ่งอดทนต่อเรื่องราวที่เข้ามาได้ตลอด
บางวันกลับพลุ่งพล่าน พร้อมบวกพร้อมชนคนที่พูดไม่เข้าหู บางคนแสนดี
ไม่กี่ปีแปรเปลี่ยนเป็นแสนร้าย ใครเล่าจะยึดมั่นในความดีงามได้ตลอด
เราจึงจำเป็นต้องพากเพียรฝึกฝนตนอยู่ตลอดเวลา เพราะบางเวลา บางคน ที่ผ่านพบอาจจะไม่เป็นอย่างที่เคย
ๆ เป็นมา
ชายยากจนคนหนึ่ง
เขาเดินทางไปสอบจอหงวนที่เมืองหลวง ขณะเดินทางเขาเหนื่อยและหิวมาก จึงเข้าไปในโรงเตี๊ยมและสั่งไข่ต้มสิบฟอง
เจ้าของร้านต้มไข่มาให้ เขารับไปและบอกเจ้าของร้านว่าเขาไม่มีเงินเลย
และเขาจะกลับมาชดใช้ให้ทีหลังเมื่อเขาสอบได้ เจ้าของร้านไม่ได้ว่าอะไร
เขากล่าวขอบคุณและจากไป เวลาผ่านไปสิบปีเมื่อชายหนุ่มยากจนคนนี้ได้เป็นขุนนางและร่ำรวยขึ้น
เขากลับมาที่ร้านด้วยการแต่งกายที่ภูมิฐานเขาสั่งไข่ต้มสิบฟอง
หลังจากกินไปสองฟองเขาก็จ่ายเงินเป็นสองเท่าของไข่ไก่ต้ม เจ้าของร้านจึงถามว่า “ท่านเศรษฐีไฉนท่านจึงจ่ายมากกว่าที่ท่านสั่งเป็นสองเท่าเล่า” ชายคนนั้นก็ตอบว่า
“ท่านคงจำข้าไม่ได้ เมื่อสิบปีก่อนข้าสั่งไข่ไก่สิบฟองและยังติดค้างท่านอยู่”
เรื่องราวน่าจะจบแบบดีงามตามท้องเรื่องทั่วไป
แต่ทว่า… เจ้าของร้านเห็นเขาแต่งตัวดีเกิดความโลภก็บอกว่า “ข้าจำท่านได้สิ
เวลาก็ผ่านไปตั้งหลายปีท่านจะจ่ายเท่าเดิมมิได้ดอก ต้องเพิ่มดอกเบี้ยด้วย” ชายหนุ่มคนนั้นก็หยิบเงินมาหนึ่งตำลึงทองวางลงบนโต๊ะ
เจ้าของร้านเห็นลู่ทางได้เงินเพิ่มก็พูดออกมาว่า
“มิพอดอกท่าน
ท่านลองคิดดูไข่ไก่สิบฟองถ้าเอาไปฟักจะเกิดลูกเกิดหลานมาเท่าไหร่
ท่านให้ข้าแค่นี้มิพอหรอก” ชายหนุ่มนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก็พูดว่า “ไข่ไก่ของท่านล้วนเป็นไข่ต้ม จะฟักตัวออกลูกออกหลานมาได้อย่างไร” ว่าแล้วเขาก็เก็บเหรียญทองคืนเข้ากระเป๋า
จ่ายค่าไข่ไก่ต้มแค่ยี่สิบฟองและเดินออกจากร้านไปอย่างไม่ใยดี
ทำความดีแล้วต้องดีถึงที่สุด ซื่อสัตย์แล้วต้องซื่อสัตย์ตลอดไป
การตอบแทนคนคือสิ่งที่ต้องทำ แต่ถ้าต้องตอบแทนอยู่ร่ำไปไม่รู้จบ ก็ควรจบเมื่อตอบแทนครบค่าหมดแล้ว
ชีวิตนี้หากไม่มั่นคงก็จะแปรเปลี่ยนไปตามความโลภ หลงในกระแสได้ง่ายดายเช่นนี้แหละ….
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น