จงรักจึงรอด
>>>
โลกวันนี้ดูน่ากลัว และน่ากลัวมากขึ้นทุกวัน
โลกวันนี้ดูวุ่นวาย
และวุ่นวายขึ้นทุกวัน นำศรัทธามาปะปนกับคติการเมืองเรื่องส่วนตัว
อยู่อย่างกล้าท้าความกลัว
มีมุมสงบเล็ก ๆ เพื่อสร้างสันติ คุณค่าคู่ควรของวันนี้ <<<
ค่าเงินดิจิทัลเหรียญคริปโตถล่มอย่างหนัก วิกฤตความเชื่อมั่นที่มีต่อเหรียญต่าง
ๆ ทำท่าว่าจะร่วงลงแรงตามมา คนที่เคยลงทุนที่ย่ามใจว่าเป็นตลาดในการหาเงิน ทำกำไรง่าย
ๆ กำลังสูญเสียกันทั่วหน้าภายในคืนเดียว
เป็นยิ่งกว่าพายุโหมกระหน่ำใส่อย่างไม่ทันตั้งตัว
ในโครงสร้างระบบที่ทุกคนคิดว่าปลอดภัยที่สุด ก็ยังมีช่องว่างให้โจมตี นี่คือ
สงครามเศรษฐกิจในระบบใหม่
วิกฤตศรัทธาต่อศาสนาก็ยังคงมีข่าวออกมาอย่างต่อเนื่อง
ผู้นำจิตวิญญาณผู้นำจิตใจควรมุ่งสอนในทางสงบ แต่หลายบุคคลกลับสยบยอมต่อความโลภ
ความหลงของตัวเอง ท่ามกลางความหลงในศรัทธาของผู้คน ท่ามกลางโลกที่มีแต่คนออกมาโอ้อวดสารพัดสารเพสรรพคุณ
กระแสแรงในโลกออนไลน์ ยิ่งกว่าฟ้าฝนที่โหมเทสาดลงมา นำมาซึงความเสื่อมศรัทธา
เป็นสงครามความเชื่อ
ท่ามกลางความหวาดหวั่นต่อสงครามที่ก่อตัวจากคนที่มีอำนาจไม่กี่คนบนโลกใบนี้
กำลังเขย่าโลกทั้งใบให้สั่นไหว หัวใจผู้คนไร้รักจึงจมปลักกับความโกรธเกรี้ยวกันเหลือคณานับ
จะมีสักกี่ยุคกี่สมัยที่โลกใบนี้ปราศจากการรบราฆ่าฟันกัน ไม่เคยมี… พัฒนาอาวุธเพื่อป้องกัน คือ ข้ออ้าง อาวุธ คือ สินค้าฆ่ารัก ประหารเมตตา
แล้วเราจะมีความสงบสันติกันได้เช่นไร จะหาความรักความเมตตาได้จากไหน? คำตอบ คือ จากตัวเราจากใจเรา สร้างมุมรักเล็ก ๆ
สร้างเรือนเมตตาน้อย ๆ ในพื้นที่ของเราให้เกิดขึ้น กลางพายุที่โถมใส่ บางทีเราจะยังมีมุมงดงามซ่อนอยู่
กาลครั้งหนึ่ง
ยังมีพระราชา ทรงจัดประกวดภาพวาด “สันติ” ที่งามที่สุด ศิลปินจำนวนมากส่งผลงานเข้าประกวด พระราชาทรงพินิจพิจารณาแล้วเลือกได้สองภาพที่ทรงโปรดที่สุด พระองค์ต้องทรงตัดสินว่าจะให้ภาพใดได้รางวัล
ภาพหนึ่งเป็นภาพทะเลสาบสงบนิ่ง
ผิวน้ำใสดุจกระจกเงา สะท้อนภาพภูเขาแวดล้อม เหนือหัว คือ ผืนฟ้าสีฟ้า
เมฆขาวลอยเอื่อย
ทุกคนที่เห็นภาพนี้คิดว่านั่นคือภาพสันติที่งดงามสมบูรณ์
อีกภาพหนึ่ง
คือ ภาพทิวเขาเช่นกัน แต่เป็นเทือกเขาหัวโล้นทุรกันดาร เหนือหัว คือ ฟ้าพิโรธ
ฝนกระหน่ำหนัก สายฟ้าแปลบปลาบ ข้างล่าง คือ
น้ำตกทะลักลงจากเขา สายน้ำคลุ้มคลั่ง
มองอย่างไรก็ไม่รู้สึกว่ามีสันติ
ทว่า
เมื่อพระราชาทรงพิศมองใกล้ ๆ ก็ทรงเห็นว่าหลังน้ำตกมีพุ่มไม้เล็กโผล่ขึ้นจากร่องแยกในโขดหิน ในพุ่มไม้มีแม่นกสร้างรังอยู่ ณ ที่นั้น กลางสายน้ำโกรธเกรี้ยว
แม่นกนั่งนิ่งอยู่ในรัง
อยู่ในสันติโดยสมบูรณ์ พระราชาควรจะทรงเลือกภาพใด? แน่นอน ทรงเลือกภาพที่สอง เหตุผลหรือ?
“เพราะสันติไม่ได้หมายถึงการอยู่ในสถานที่ที่เงียบสงัด
ไร้สรรพสำเนียง ไร้ความยากลำบาก หรืองานหนัก” ทรงให้คำอธิบายต่อว่า “สันติหมายถึงการอยู่ท่ามกลางสิ่งทั้งหมดนี้
แล้วยังคงความสงบนิ่งในใจ นั่นคือ ความหมายที่แท้จริงของสันติ”
(ที่มา: วิภาดา
กิติโกวิทย์)
แล้ววันนี้ท่ามกลางวิกฤตหลากหลาย
เรามีใจที่นิ่งสงบมากน้อยเพียงใด
ศรัทธาที่แท้จริงมิใช่เรื่องการสวดมนต์เพียงอย่างเดียว อยู่ที่เรามีเมตตาต่อโลกนี้เพียงใด
ท่ามกลางการรบราฆ่ากัน เพียงเพื่อช่วงชิงอำนาจ แต่อำนาจใดเลยจะยิ่งใหญ่กว่าอำนาจแห่งความรักที่มีต่อกันเล่า?
ลองนิ่ง ๆ เราจะรู้ว่าหลังจากต้องทนทุกข์กันมานาน จิตวิญญาณของเราย่อมโหยหาสิ่งที่สูงส่ง
ที่อบอุ่นกว่า บริสุทธิ์กว่าวีถีเดิม ๆ ของโลกใบนี้ นั่นคือ ความรัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น