ยิ่งกว่ากาว
>>> การยึดติดสิ่งของด้วยกาวอย่างไรเสียก็ต้องมีวันเสื่อม
วันหลุดลอก
ความกลัว ผสมความโลภ นำมาซึ่งการยึดติดแบบถาวร
ยึดติด จึงไม่กล้าเปลี่ยนแปลง และจมอยู่กับความเคยชินตลอดไป <<<
มีโอกาสได้ไปแบ่งปันวิถีชีวิตยุคสื่อโซเชียล
ให้กับคณะครูที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง นั่งเรียบเรียงเนื้อหาที่จะพูดคุย สังเกตเห็นสิ่งหนึ่งที่ในโลกวันนี้กำลังประสบพบเจอ
หลายคนถูกหลอก ถูกโกง ถูกล่อลวง และหลงเชื่อกันง่าย ๆ ทั้ง ๆ
ที่ในยุคนี้เราล้วนหาข้อเท็จจริงได้ง่ายแสนง่าย อาจจะเป็นเพราะว่า
ผู้คนก็ยังยึดติดกับความกลัว ความโลภ และยึดติดกับตัวเองไม่เคยเปลี่ยนแปลงตามนวัตกรรมที่ล้ำหน้า
คนที่คิดจะคดโกงคนอื่นจึงใช้ช่องว่างตรงนี้มาหากินในรูปแบบใหม่
ทำให้หลายต่อหลายคนเสียเงินเสียทอง เสียอนาคตไปมากมาย
อาจจะเป็นเพราะโลกเราบูชาคนมีเงินจนเกินงาม จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่ลุ่มหลงจมดิ่งกับการที่ต้องรวย โดยมิได้สนใจวิถีการที่ได้มา ชอบอะไรที่ได้มาอย่างง่าย ๆ คิดว่ารวยแล้วจะครองโลก ได้ทั้งโลกมาครอบครอง ทั้ง ๆ ที่ คนร่ำรวยที่สร้างมาจากน้ำพักน้ำแรง หยาดเหงื่อแรงกายของตัวเอง ยังคงเห็นคุณค่าของการมี มากกว่าคนที่ต้องการเพียงจะมี ผ่านมากี่ยุคกี่สมัย มนุษย์เราก็ยังจมปลักกับเรื่องการไขว่คว้าให้ได้มาซึ่งทรัพย์สมบัติมาครอบครอง บางทีเมื่อได้มาแล้วกลับใช้ไม่เป็น บริหารไม่ถูก ฉะนั้นแล้ว เอาเข้าจริง มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณ หากขึ้นอยู่กับคุณภาพ คุณค่าของคนเราต่างหาก เราก็ไม่ต่างจากลิงในเรื่องเล่าต่อไปนี้
ในอินเดีย ลิงเป็นไม้เบื่อไม้เมากับชาวบ้าน
เพราะพวกมันชอบแอบไปโขมยผลไม้ในสวน ชาวบ้านจึงคิดวิธีจับลิง
โดยใช้กล่องไม้ซึ่งมีฝาด้านหนึ่งเจาะรูเล็ก ๆ พอให้ลิงสอดมือเข้าไปได้
ในกล่องมีถั่ว ซึ่งเป็นของโปรดของลิงวางไว้เป็นเหยื่อล่อ วันดีคืนดี ลิงมาที่สวนเห็นถั่วอยู่ในกล่อง
ก็เอามือล้วงเข้าไปหยิบถั่ว แต่พอถอนมือออกก็ติดฝากล่อง
เพราะกำมือของลิงนั้นใหญ่กว่าฝากล่องที่เจาะไว้ ลิงพยายามดึงมือเท่าไหร่ก็ไม่ออก พอชาวบ้านมาจับ ก็ปีนหนีขึ้นต้นไม้ไม่ได้
เพราะมีมือเปล่าอยู่ข้างเดียว สุดท้ายถูกคนจับได้ ลิงหาได้เฉลียวใจไหมว่า เพียงแค่มันคลายมือออกเท่านั้น มันก็เอาตัวรอดได้ แต่เพราะยึดถั่วไว้แน่น
ไม่ยอมปล่อยจึงต้องเอาชีวิตเข้าแลก (เพจ สายธารแห่งปัญญา)