แบบไหนที่ชอบ
>>> ในชีวิตของทุกคนปรารถนาจะได้ผู้นำที่ดี
แต่ตัวเรากลับทำสิ่งตรงข้าม
หลายคนเรียกร้องให้คนอื่นเสียสละ
แต่กลับเห็นแก่ตัวทุกกรณีที่มีโอกาส
เราชอบแบบไหน เราควรทำแบบนั้น เราจึงจะพบสันติสุข <<<
วันสิ้นปีก็ค่อย ๆ คลานเข้ามาใกล้ อีกไม่นานก็คริสต์มาส
พระเยซูเจ้าบังเกิด เราผ่านการฉลองชีวิตพระองค์มากี่ครั้งแล้ว ชายคนหนึ่งที่เกิดเป็นผู้นำ
ที่ไม่ใช่ผู้นำแบบมาตรฐานโลก เป็นผู้นำในฝัน ที่ไม่ค่อยพบเจอในชีวิตจริง
เราพร่ำบอกว่าเรารักพระองค์ เราเชื่อในพระองค์ แล้วชีวิตเราปล่อยให้พระองค์เป็นนำทางมากน้อยเพียงใด
การเป็นผู้นำที่ดีไม่จำเป็นต้องมียศมีศักดิ์ มีอำนาจ มีตำแหน่ง
เพราะสิ่งเหล่านั้นอาจจะกีดขวางให้เราก้าวสู่ความดีงาม และถอยห่างจากความสุขก็ได้
ครั้งหนึ่งมีหัวหน้าเผ่าคนหนึ่ง
ใกล้ถึงวาระสุดท้ายชีวิต เขาไม่อาจตัดสินใจได้ว่า จะให้ลูกชายคนไหนขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าแทน
จึงเรียกลูกชายทั้ง 3 คนให้เข้ามาหา และบอกให้พวกเขา
“พวกเดินทางไปยังภูเขาลูกหนึ่ง และปีนขึ้นไปให้ถึงยอด จากนั้นก็ให้แต่ละคนเก็บสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้คนในเผ่ามากที่สุดกลับมา
เวลาผ่านไปหลายวัน
ลูกชายคนโตก็เดินทางกลับมาถึงก่อน พร้อมกับหินเหล็กไฟจำนวนหนึ่ง
ซึ่งสามารถนำมาใช้ทำอาวุธได้ ลูกชายกล่าวกับบิดาว่า “นับแต่นี้ไป ผู้คนของเราไม่ต้องกลัวพวกศัตรูอีกแล้ว เพราะข้ารู้แล้วว่า
แหล่งของหินเหล็กไฟพวกนี้อยู่ที่ไหน”
ลูกชายคนที่สองได้พบกับป่าใหญ่ที่อุดมไปด้วยแมกไม้ที่สามารถนำมาเป็นเชื้อไฟได้
เมื่อกลับลงมาก็รายงานว่า “นับแต่นี้ไป
ผู้คนของเราจะไม่ต้องทนกับอากาศที่หนาวเย็นในฤดูหนาวอีกต่อไปแล้ว
เพราะข้าได้พบกับป่าไม้ที่ใหญ่มากซึ่งจะนำมาเผาให้ความอบอุ่นและช่วยในการหุงต้มอาหารของพวกเราได้”
ในที่สุดลูกชายคนที่สาม ก็เดินทางกลับมา แต่กลับมามือเปล่า ซึ่งเขาได้ให้เหตุผลว่า “เมื่อข้าขึ้นไปถึงยอดเขา ข้าไม่พบอะไรที่มีค่าพอที่จะนำติดตัวลงมา ข้าก็มองตรงไปยังขอบฟ้า และแล้วข้าได้พบว่า ตรงขอบฟ้านั้นมีดินแดนแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยป่าไม้ ทุ่งนา ภูเขา และหุบเขา มีทั้งฝูงปลาและสัตว์ใหญ่น้อย เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความงามและความสันติสุขแท้จริง แผ่นดินแห่งนั้นยังอยู่ไกล แต่ข้าก็จะต้องไปให้ถึงสักวันหนึ่ง และที่ข้ากลับมาช้า เพราะข้าคิดวางแผน ที่จะไปถึงดินแดนแห่งนั้น และได้วางแผนที่ จะทำให้คนของเผ่าเรามีทั้งความสุข มีทั้งความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นในดินแดนแห่งใหม่นั้นด้วย และนี่ก็คือแผนของข้า”
ที่สุดลูกชายคนที่สามก็นำเอาแผนการที่วางไว้โดยละเอียดมาเปิดให้ดู
ทำให้ดวงตาของหัวหน้าเผ่าเป็นประกาย เขารั้งร่างของลูกชายคนที่สามมากอดไว้
พร้อมกับประกาศว่า เขาจะแต่งตั้งให้ลูกชายคนนี้เป็นหัวหน้าเผ่าต่อจากตน อันที่จริงลูกชายสองคนแรกก็ได้นำเอาสิ่งมีค่า
สิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตมาให้ ซึ่งถือว่ามีคุณสมบัติเป็นหัวหน้าที่ดีในปัจจุบัน
แต่ลูกชายคนที่สามนี้เป็นบุคคลที่สามารถมองเห็นการณ์ไกล
มีวิสัยทัศน์และยังมีการวางแผนในการไปสู่ดินแดนแห่งความสุข
ในโลกนี้จะมีผู้นำสักกี่คนที่มองเห็นความสุขสันติเป็นเรื่องจำเป็นที่สุด
พระเยซูเจ้าคือบุคคลเช่นนั้น …
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น