วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

แบบไหนที่ชอบ

 

แบบไหนที่ชอบ

>>> ในชีวิตของทุกคนปรารถนาจะได้ผู้นำที่ดี แต่ตัวเรากลับทำสิ่งตรงข้าม

หลายคนเรียกร้องให้คนอื่นเสียสละ แต่กลับเห็นแก่ตัวทุกกรณีที่มีโอกาส

เราชอบแบบไหน เราควรทำแบบนั้น เราจึงจะพบสันติสุข <<<


            
วันสิ้นปีก็ค่อย ๆ คลานเข้ามาใกล้ อีกไม่นานก็คริสต์มาส พระเยซูเจ้าบังเกิด เราผ่านการฉลองชีวิตพระองค์มากี่ครั้งแล้ว ชายคนหนึ่งที่เกิดเป็นผู้นำ ที่ไม่ใช่ผู้นำแบบมาตรฐานโลก เป็นผู้นำในฝัน ที่ไม่ค่อยพบเจอในชีวิตจริง เราพร่ำบอกว่าเรารักพระองค์ เราเชื่อในพระองค์ แล้วชีวิตเราปล่อยให้พระองค์เป็นนำทางมากน้อยเพียงใด การเป็นผู้นำที่ดีไม่จำเป็นต้องมียศมีศักดิ์ มีอำนาจ มีตำแหน่ง เพราะสิ่งเหล่านั้นอาจจะกีดขวางให้เราก้าวสู่ความดีงาม และถอยห่างจากความสุขก็ได้

ครั้งหนึ่งมีหัวหน้าเผ่าคนหนึ่ง ใกล้ถึงวาระสุดท้ายชีวิต เขาไม่อาจตัดสินใจได้ว่า จะให้ลูกชายคนไหนขึ้นเป็นหัวหน้าเผ่าแทน จึงเรียกลูกชายทั้ง 3 คนให้เข้ามาหา และบอกให้พวกเขา พวกเดินทางไปยังภูเขาลูกหนึ่ง และปีนขึ้นไปให้ถึงยอด จากนั้นก็ให้แต่ละคนเก็บสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้คนในเผ่ามากที่สุดกลับมา

เวลาผ่านไปหลายวัน ลูกชายคนโตก็เดินทางกลับมาถึงก่อน พร้อมกับหินเหล็กไฟจำนวนหนึ่ง ซึ่งสามารถนำมาใช้ทำอาวุธได้ ลูกชายกล่าวกับบิดาว่า นับแต่นี้ไป ผู้คนของเราไม่ต้องกลัวพวกศัตรูอีกแล้ว เพราะข้ารู้แล้วว่า แหล่งของหินเหล็กไฟพวกนี้อยู่ที่ไหน

ลูกชายคนที่สองได้พบกับป่าใหญ่ที่อุดมไปด้วยแมกไม้ที่สามารถนำมาเป็นเชื้อไฟได้ เมื่อกลับลงมาก็รายงานว่า นับแต่นี้ไป ผู้คนของเราจะไม่ต้องทนกับอากาศที่หนาวเย็นในฤดูหนาวอีกต่อไปแล้ว เพราะข้าได้พบกับป่าไม้ที่ใหญ่มากซึ่งจะนำมาเผาให้ความอบอุ่นและช่วยในการหุงต้มอาหารของพวกเราได้

ในที่สุดลูกชายคนที่สาม ก็เดินทางกลับมา แต่กลับมามือเปล่า ซึ่งเขาได้ให้เหตุผลว่า เมื่อข้าขึ้นไปถึงยอดเขา ข้าไม่พบอะไรที่มีค่าพอที่จะนำติดตัวลงมา ข้าก็มองตรงไปยังขอบฟ้า และแล้วข้าได้พบว่า ตรงขอบฟ้านั้นมีดินแดนแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยป่าไม้ ทุ่งนา ภูเขา และหุบเขา มีทั้งฝูงปลาและสัตว์ใหญ่น้อย เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความงามและความสันติสุขแท้จริง แผ่นดินแห่งนั้นยังอยู่ไกล แต่ข้าก็จะต้องไปให้ถึงสักวันหนึ่ง และที่ข้ากลับมาช้า เพราะข้าคิดวางแผน ที่จะไปถึงดินแดนแห่งนั้น และได้วางแผนที่ จะทำให้คนของเผ่าเรามีทั้งความสุข มีทั้งความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นในดินแดนแห่งใหม่นั้นด้วย และนี่ก็คือแผนของข้า


ที่สุดลูกชายคนที่สามก็นำเอาแผนการที่วางไว้โดยละเอียดมาเปิดให้ดู ทำให้ดวงตาของหัวหน้าเผ่าเป็นประกาย เขารั้งร่างของลูกชายคนที่สามมากอดไว้ พร้อมกับประกาศว่า เขาจะแต่งตั้งให้ลูกชายคนนี้เป็นหัวหน้าเผ่าต่อจากตน อันที่จริงลูกชายสองคนแรกก็ได้นำเอาสิ่งมีค่า สิ่งที่จำเป็นสำหรับชีวิตมาให้ ซึ่งถือว่ามีคุณสมบัติเป็นหัวหน้าที่ดีในปัจจุบัน แต่ลูกชายคนที่สามนี้เป็นบุคคลที่สามารถมองเห็นการณ์ไกล มีวิสัยทัศน์และยังมีการวางแผนในการไปสู่ดินแดนแห่งความสุข

 ในโลกนี้จะมีผู้นำสักกี่คนที่มองเห็นความสุขสันติเป็นเรื่องจำเป็นที่สุด พระเยซูเจ้าคือบุคคลเช่นนั้น

ไม่มีความคิดเห็น: