เวลาพาเปลี่ยน
>>>
เวลาไม่เคยเอาอะไรไปจากเรา มีแต่จะให้ “ให้โอกาส”
แม้บางเวลาเราอาจสูญเสียบางอย่าง
ในขณะเดียวกันเราก็จะพบการเริ่มต้นสิ่งใหม่
หากเวลาเดินผ่านไป
เรายังอยู่ในจุดเดิม เราอาจมองไม่เห็นการเปลี่ยนแปลง
เราอาจจะพลาด
โอกาสที่ดีกว่าไปอย่างน่าเสียดาย <<<
ลมหนาวอ่อน ๆ พัดโชยปะทะใบหน้า
ตื่นขึ้นมาเปิดบ้านในยามเช้า ใบไม้พัดล้อเล่นลมอย่างเริงร่า เวลาของปฎิทินใบสุดท้ายของปีนี้เกือบมาถึงแล้ววันเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว
นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิต หลายอย่างผ่านไป หลายสิ่งวิ่งเข้ามา
เราคว้าอะไรมาใส่ในชีวิตเราบ้าง? เวลาดี ๆ
มีให้เราทำดีเสมอ แต่เราอาจจะหลงลืมปล่อยเวลาเหล่านี้ผ่านไปทุก ๆ วัน เวลาเป็นสิ่งที่ได้มาฟรี ๆ
แต่ก็มีอยู่อย่างจำกัด ใช้แล้วย่อมหมดไป เก็บสะสมไม่ได้ ไม่สามารถซื้อหามาได้ตามร้านสะดวกซื้อ
เรามีเวลาวันละ 24 ชั่วโมงเท่ากัน มีบ้างบางคนบ่นว่า ไม่มีเวลา
อาจจะเป็นเพียงข้ออ้างเพื่อผัดวัดผ่อนคืนในสิ่งที่ตนเองมองไม่เห็นความสำคัญ ไม่เห็น “ค่าเวลา” ด้วยการ “ฆ่าเวลา” สาละวนอยู่กับจอเล็ก ๆ รูดไปมา ถูไถได้ทั้งวัน เวลาหมดไปกับข่าวชาวบ้าน กับเรื่องการอวดอ้างสารพัดในโลกเสมือนจริง ที่เข้าสิงและกลืนกินเวลาของชาวโลกไปอย่างมิอาจจะคิดคำนวนได้ เรามีเวลาอยู่กับสิ่งเหล่านี้มากกว่าเวลาที่จะอยู่ด้วยกัน อยู่กับคนในครอบครัว เรามีโลกใบใหม่ที่มีเวลาเพื่อครอบตัว วันนี้หลายคนยังไม่สามารถที่จะรักษาและรู้จักการจัดการเวลาในชีวิตประจำวันได้เลย หน้าที่อย่างหนึ่ง คือ เราต้องกระตือรือร้นรักษาเวลา และบริหารจัดการเวลาในฐานะเป็นสัญญาณเตือนตนที่สำคัญ
พูดถึงเรื่องเวลา
เราก็มักจะคิดถึงนาฬิกา มีบทความหนึ่งพบในอินเตอร์เน็ต เรื่องเวลา กับนาฬิกา เขียนไว้ว่า
“เวลา... เดินไปข้างหน้า นาฬิกา… เดินอยู่ที่เก่า
เวลา… เราไม่อาจย้อนกลับ นาฬิกา… เราหมุนย้อนมันได้
เวลา… เมื่อสูญเสียไปแล้วไม่อาจเรียกร้องคืน นาฬิกา… เสียก็ซ่อม
หรือซื้อใหม่ไปเลย
เวลา…ได้มาฟรี ๆ ไม่ต้องแลกกับอะไร นาฬิกา… ยิ่งสวยยิ่งแพง
ใช้เงินซื้อมันมาทั้งนั้น
ใช่หรือไม่
ถ้าไม่มีนาฬิกา จะรู้เวลาได้หรือ และถ้ามีแต่นาฬิกา แต่ไม่รู้จักเวลา
จะมีประโยชน์อะไรเล่า ถึงสองสิ่งนี้จะแตกต่างกัน แต่ถ้ามันจะคู่กันแล้ว
ย่อมมีจุดร่วมกันเสมอ
ในสังคมโลกยุคปัจจุบันเราให้ค่ากับอะไรมากกว่ากัน
เวลา หรือ นาฬิกา เอาเข้าจริงนาฬิกาก็เป็นเพียงเปลือกนอก ต่อให้มีเป็นของดีเพียงใด
ถ้าใช้เวลาในชีวิตไม่เป็นก็ไร้ค่า ในวันที่อะไรต่อมิอะไรเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ผู้คนยังคงฉกฉวย เก็บสะสมสิ่งภายนอก จนหลงลืมเวลาที่จะทำดี เวลาที่จะทำดีมีมาบ่อย
ๆ แต่เราก็มักมองข้าม มองผ่าน มองไม่เห็น รู้ว่ามี แต่มองไม่เห็น จึงขาดการเรียนรู้
ขาดการตระเตรียม ในขณะที่เรากำลังก้าวสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนผ่าน เรายังคงจมอยู่ในวังวนเดิม
ๆ หรือยังคิดว่าเวลาเป็นของเรา เราเป็นนายเหนือกาลเวลา สถานการณ์เปลี่ยนไป เราเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด
ได้เรียนรู้ พัฒนาจิตวิญญาณตามกาลเวลาหรือยัง อย่าลืมว่า สิ่งที่ทุกคนยังมี คือ
เวลา แม้ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิม…..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น