วันเสาร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2563

สันติสุขแห่งดวงใจ

 

สันติสุขแห่งดวงใจ

เวลาก้าวย่างใกล้จะผ่านพ้นปี 2020 เข้าไปทุกที ปีนี้เป็นปีที่หนักหนาสาหัสของคนทั่วโลก โควิด-19 ระบาดจนระบมข่มขืนกันทั่วหน้า มีจะความหวังด้านวัคซีนที่เริ่มมีการฉีดกันบ้างแล้ว แต่ในประเทศยุโรปกลับต้องปิดเมือง ปิดประเทศกันอีกระบอก บางแห่งเลยไปถึงปีหน้าด้วยซ้ำ สำหรับเราที่สามารถก้าวข้ามผ่านปีนี้ไปได้อีกหนึ่งปี เราพบสันติสุขเกิดขึ้นบ้างหรือเปล่า? ดวงจิตหัวใจเรามีความสงบนิ่งลงบ้างไหม? เป็นคำถามที่เราต้องวนเวียนถาม เพื่อย้ำเตือนตัวเองให้บ่อย ไม่ใช่เฉพาะเวลาปีใหม่เท่านั้น ทุกค่ำคืนก่อนล้มตัวลงนอนได้ยิ่งดี สุขภาพกายสำคัญมาก ความไม่มีโรค ไม่เจ็บป่วยเป็นสิ่งประเสริฐที่สุด สุขภาพกายดีย่อมส่งผลต่อสุขภาพจิต จนกลายเป็นคนเข้มแข็งและอดทน ซึ่งจะอยู่รอดปลอดภัยได้ในยุคนี้ หมั่นฟังเสียงเตือนของร่างกาย ยิ่งในเมืองที่มีฝุ่นละออง มีมลพิษ ยิ่งต้องรู้จักรักษาร่างกายให้แข็งแรง เพราะร่างกายเรา คือ ของประทานอันล้ำค่า


หยุดที่จะยึดติดกับความเจ็บปวด ผิดพลาดในวันวานที่ผ่านมา ชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า อดีตก็ คือ บทเรียนที่ดี ที่ย้ำเตือนให้เรามีสติกับการดำเนินชีวิตต่อไป ใช้ชีวิตอยู่กับความจริง บนความถูกต้อง อย่ากลัวที่จะเดียวดายในหนทางแห่งความจริง เพราะการได้เจอปัญหาก็ช่วยทำให้เรามองเห็นความจริงนั่นเอง ความจริง คือ สิ่งนิรันดร์ และทำให้เราพบกับคนที่จริงใจต่อกัน ในหลายปีที่ผ่านมา หลายคนพยายามที่จะทำให้ชีวิตประสบความสำเร็จ มั่นคงทางด้านการเงินการงาน ไม่เคยคิดที่จะหยุดพัก เหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า และแล้วเกิดเหตุที่คาดไม่ถึง ตะลึงกันทั้งโลก ปีนี้กำลังสอนเราว่า “เงินทอง” แม้มีค่า แต่หาใช่สิ่งสำคัญที่สุด เหนื่อยก็ต้องให้รู้จักพัก หิวก็ต้องกิน เราทรมานตัวเองจนร่างกายอ่อนแรง ทำงานหนักเกินไป ทำงานเกินหน้าที่ไป ก็ไม่คุ้มค่าหากสุดท้ายสุ ขภาพต้องย่ำแย่ลงในทุก ๆ วัน

รู้จักที่จะปล่อยวางบ้าง จริงจังกับทุกอย่างที่ทำนั้นถือว่าดี แต่เมื่อทำให้สุดความสามารถแล้วผลจะออกมาเป็นยังไงก็ช่าง เพราะเราความดีงามเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อเราได้ทำเต็มที่แล้ว ฝึกตนให้เป็นคนยิ้มแย้มให้มากกว่าหน้าเครียดบึ้งตึง อย่างน้อยเมื่อเวลาที่เรายิ้ม โลกก็สดใสขึ้น ใคร ๆ ก็อยากอยู่ใกล้ สุขภาพจิตเราก็ดีด้วย สันติสุขแห่งดวงใจก็งอกเงย เรียนรู้ในการเป็นคนใจเย็นและมีเมตตาต่อทุกสิ่ง อะไรที่ไม่ได้ดั่งใจก็ต้องรู้ลดโมโหลงบ้าง ลดความเกรี้ยวกราดลง เบาได้เบา เมื่อใจเราจะได้เบาขึ้น สงบขึ้น รู้จักรอคอยได้ อดทนได้ อะไรที่ให้เราหวังไว้ไม่นานก็จะเป็นจริง

สิ่งหนึ่งพึงต้องกระทำเพื่อความเป็นคนโดยสมบูรณ์ คือ การรู้จักให้อภัยกับคนที่ทำให้เราโกรธ ที่ทำให้เราเกลียด เพราะอีกไม่นานก็จะลาจากกัน กลับคืนสู่สวรรค์บ้านอันถาวร และถ้าใจยังอภัยไม่ได้ก็ออกให้ห่างจากคนที่เคยโกรธเกลียดมาสักระยะ  เว้นระยะห่างทางความสัมพันธ์ เพื่อทำให้ใจเราไม่เป็นทุกข์ยามที่ต้องเห็นเห็นตากัน ทำร้ายกันไปมา มันยิ่งทุกข์ โลกวันนี้เต็มไปด้วยมลภาวะทางอารมณ์โกรธเกลียดกันมากไปแล้ว จนจะกลายเป็นพิษพิชิตโลกด้วยแรงคับแค้น สันติสุขจะเกิดไม่ได้เลยหากใจไร้อภัย หากใจไร้ความอาทรต่อกัน


ที่สุดแล้ว อย่าลืมว่า “ครอบครัว คนรัก” คือ สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต ให้เวลา ถามไถ่สารทุกข์คนใกล้ชิดกันบ้าง คำถามง่าย ๆ ทำงานวันนี้เป็นอย่างไร? มีเวลารับฟังปัญหา เรื่องราวที่คนรอบตัวอยากจะเล่า ไม่แย่งที่จะเล่าแต่เรื่องของเรา เอาเวลาดูแลหัวใจคนใกล้ตัว อย่ามัวแต่เห็นพวกเขาเป็นที่ระบายอารมณ์ ที่ตัวเราได้รับแรงกดดันมาจากข้างนอก เห็นใจกันและกัน ขอบคุณกันบ้าง นี่เป็นแหล่งก่อกำเนิดสันติสุข เป็นความสุขง่าย ๆ ในชีวิต เป็นสันติสุขแห่งดวงใจที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อ

ไม่มีความคิดเห็น: