วันเสาร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

มองหาตัวตนบนความสมบูรณ์

 

มองหาตัวตนบนความสมบูรณ์

ใกล้สิ้นปีเข้ามาทุกที วันเวลาผ่านไปรวดเร็วขึ้นตามอายุขัยที่เพิ่มขึ้น เผลอแป๊บเดียว เข้าสู่ปลายปีอีกแล้ว ได้เวลาที่จะต้องหันกลับไปย้อนมอง ตรวจสอบ ประเมินผลในหลาย ๆ ด้าน และด้านหนึ่งเราต้องคำนึงถึงเสมอ คือ การไตร่ตรอง ทบทวนคุณภาพจิตวิญญาณของเรา ว่าเติบโต หรือ ลดลงมากน้อยเพียงใด? ยิ่งปีนี้ที่เราได้ประสบพบเจอกับโรคระบาดโควิด-19 กัดกินคนไปทั้งโลก ยิ่งทำให้เราต้องตระหนักรู้ถึงคุณค่าความมุษย์ของเราให้มากยิ่งขึ้น การสำรวจ การมองตัวเองจึงเป็นสิ่งจำเป็น และต้องมองให้เป็น ไม่ใช่ให้ใครมาบอกว่าเราต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ เรา คือ เรา และเมื่อมองตัวตนคนแบบเราออก เราก็จะรู้ว่า เราควรทำอะไร สิ่งใด เพื่อผู้อื่น นี่จึงเป็นความงามในความต่าง ไม่มีใครเหมือนกัน ไม่มีใครเก่งไปเสียทุกด้าน ถ้ามองตัวเองไม่ออกก็มักจะหลอกตัวเองว่าเก่งเกินคนอื่นเสมอ!!! 

ณ ป่าแห่งหนึ่ง กำลังทำการเกณฑ์ทหาร เพื่อไปทำสงคราม ดังนั้น สิงสาราสัตว์ทั้งหมดในป่าต้องมาทำการตรวจคัดเลือกเป็นทหาร

ลิง...ซึ่งอยู่แถวหน้าสุด ไม่อยากเป็นทหารอย่างยิ่ง มันมองหางที่ยาว ๆ ของตัวมันแล้ว กัดฟัน แข็งใจ หักกระดูกหางของมัน หลังจากที่เข้าไปตรวจเช็กร่างกาย แพทย์ทหารบอกว่า “หางลิงหักไปแล้ว พิการ ไม่ต้องเป็นทหาร”

กระต่าย...ซึ่งอยู่แถวที่สอง หลังจากเห็นการกระทำของลิงแล้ว ก็ตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว บิดหูยาว ๆ ของตนให้หักเช่นกัน หลังจากไปตรวจร่างกาย แพทย์ทหารพูดว่า หูของกระต่ายหักแล้ว พิการ ไม่ต้องเป็นทหาร”

หมีดำ...ที่อยู่แถวที่สาม คิดในใจว่า “หูของฉันก็ช่างสั้นนัก ส่วนหางที่มีอยู่ก็เหมือนกับ

ไม่มี แล้วจะทำไงดีล่ะ ?”

กระต่ายและลิงที่แสนจะใจดี ได้มาช่วยคิดหาวิธี สักครู่ ลิงก็แหกปากร้องขึ้นมาว่า “ฉันรู้แล้ว ตบตีกะเทาะฟันของเธอหักให้หมด เธอก็กลายเป็นผู้พิการแล้ว” ดังนั้น..ทั้งลิงและกระต่าย จึงตบตีหมีด้วยความโหดเหี้ยม จนกระทั่งหมีฟันหลุดหมดปาก

หมี...ถึงแม้จะเจ็บปวดอย่างยิ่ง แต่ก็รู้สึกดีใจเช่นกัน ในยามที่เข้าไปตรวจเช็กร่างกายเพราะคิดว่า อย่างไรแล้วก็ไม่ต้องเป็นทหารแน่ ๆ หลังจากนั้น ไม่นาน หมีก็มือกุมปากเดินออกมา เปล่งเสียงร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง

แล้วพูดกับลิงและกระต่ายว่า ผู้พิการ...มารดาพวกเจ้าซิ...พวกมันบอกว่า ฉันอ้วนเกินไป

ไม่ต้องเป็นทหาร”

ผู้อื่นจะมองคุณอย่างไร นั่นไม่สำคัญ ที่สำคัญ คือ คุณมองตัวคุณเองอย่างไร (Cr : Niwat Rungvicha)

ทุกเช้าเราอยู่มักใช้เวลาอยู่หน้ากระจกกันไม่มากก็น้อย ก็จงอย่ามองแค่ความงาม เสริมสวยเสริมหล่อเพียงเรือนร่างเท่านั้น อาจจะต้องสร้างความงามภายในให้เกิดขึ้นด้วย เรามาเริ่มต้นเทศกาลคริสต์มาส ด้วยการมองหาตัวตนในความสมบูรณ์ของเราแต่ละกัน เพื่อเราจะได้เป็นผู้ให้กับผู้อื่นอย่างอิ่มเอม โลกมิได้ไร้ร้างคนเก่ง แต่โลกกำลังล้างลาคนดีต่างหาก มาช่วยกันสร้างสรรสังคมแห่งความดีงาม สังคมที่สมบูรณ์อุดมด้วยเมตตาอาทร เริ่มต้นจากตัวเรา ต้องมั่นใจในหนทางตนบนความดีงาม มองตัวตนทั้งภายในภายนอกให้เป็น เราย่อมรู้ตัวเราดีกว่าใคร หาตัวตนให้เจอก็เป็นสุข เมื่อเราสุขสังคมย่อมสงบ และโลกก็จะมีสันติสุข ...

วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ยิ่งใหญ่เพื่อ....?

 

ยิ่งใหญ่เพื่อ....?

หลังจากช่วงโรคระบาดไวรัสโควิด-19 เล่นงานให้ผู้คนบนโลกให้ต้องหยุดชะงักงันในกิจกรรมบางอย่าง หันมาอยู่กับตัวตน อยู่กับคนในบ้าน เว้นระยะห่างทางสังคม อยู่ในสภาพนี้หลายเดือน และเมื่อต่างฝ่ายต่างเริ่มที่จะปรับตัว ควบคุมป้องกัน เริ่มคุ้นชินกับวิถีชีวิตในรูปแบบใหม่ได้แล้ว จึงเริ่มที่จะมีการเดินทางไปไหนต่อไหนได้ การเดินทางท่องเที่ยวต่างบ้านต่างแดนซึ่งไม่ได้ง่ายดายเหมือนเมื่อก่อน โชคดีที่ในประเทศของเราก็ยังสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้และที่น่าสนใจ คือ เราได้พบการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ ๆ ในที่ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยคิดว่ามีสถานที่แบบนี้ด้วย..? เป็นช่วงเวลาที่เราพบความอัศจรรย์ในบ้านเมืองเรา...

โดยส่วนตัวที่อยู่ในภาวะโรคระบาดแบบนี้จึงลดการเดินทางไปมากพอสมควร ครั้นเมื่อเริ่มปรับตัวเข้าที่เข้าทาง ก็มีบ้างที่เริ่มเดินทางไปที่นั่นที่นี่ และได้ค้นพบสิ่งสวยงาม แม้กระทั่งในระหว่างทาง ได้พบความงามบนท้องฟ้า ได้พบสีสันที่รังสรรค์โดยธรรมชาติ ท้องฟ้ายามเช้า – เย็น ยังเป็นสิ่งงดงามที่น่ามองเสมอ แสงแรกของวัน และแสงที่กล่าวลายามเย็น มอบความสวยงามให้กับโลกใบนี้ พร้อมกับมอบความอบอุ่นให้กับทุกชีวิตอย่างดีเสมอมา แล้วเราเล่า ? จะเป็นแสงทองของความงดงามเพื่อใครบ้าง???

ในวันที่ทุกสิ่งเริ่มพลิกผัน สร้างสิ่งที่แตกต่าง ที่ขนานนามกันว่า “การเปลี่ยนแปลง” การใช้ความหยาบเถื่อนถ่อย แล้วเรียกมันว่า “สันติวิถี” ใช้ความเอาแต่ใจตัวเองเป็นที่ตั้ง ต้องเป็นแบบที่เราคิด แล้วพากันเรียกว่าเป็น “อิสระภาพ เสรีภาพ” พยายามทำตัวให้มีตัวตนให้เป็นคนยิ่งใหญ่ เพิ่มความเท่ ความเก่ง เพื่อเรียกร้องความสนใจ สร้างความสะใจ ให้มีเหล่าคนในโลกเสมือนจริงยกย่อง ปั้นฝันในอากาศ เปรมปรีดิ์กับคำสรรเสริญเยินยอผ่านตัวอักษรลอยลม เอามาเป็นแรงเร้าความฝัน เอาเข้าจริงชีวิตแบบนี้มักโดดเดี่ยวเหี่ยวเฉาเหงาหงอย เพราะเวลาอยู่ในความเป็นจริงเพียงลำพัง ความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงกลับหามีไม่ แล้วเหตุผลอันใดเล่าที่ทำให้เราต้องการ ต้องกลายเป็นคนยิ่งใหญ่ให้ได้...

ในวันที่เราถูกสื่อสมัยใหม่บัญชาหนทางเดินของชีวิต หลงใหลไปกับความเร็ว ความง่าย และการหลอกลวงให้ได้มาซึ่งสิ่งจอมปลอม เรากำลังมุ่งหน้าไปอะไรกันเล่า?ต่างกันต่างหวังสร้างทาง สร้างตัวตนให้ปรากฏบนโลกนี้ ทั้ง ๆ ที่ หากเราได้นั่งลงทบทวน เรานั้นเป็นพียงสิ่งมีชีวิตเศษเสี้ยวของจักรวาล โลกมิได้อยู่ในกำมือเรา เราต่างหากที่อยู่ในอ้อมกอดของโลกใบนี้ หลายครั้งเรามักจะหลงไปไกลคิดกันเกินเหตุ ทำให้เราทนงตัวจนไม่เห็นตัวเอง เห็นเพียงเงาร่างที่เลือนลาง

โลกผ่านมาหลายพันหมื่นปีมีผู้คนเกิดมา แล้วล้มหายมลายไปจนนับไม่ถ้วน แต่มีเพียงไม่กี่คนที่เรายังยกย่องความยิ่งใหญ่จวบจนวันนี้ ความยิ่งใหญ่เหล่านั้นล้วนแล้วมาจากการเอื้ออาทรต่อคนที่ต่ำต้อย ล้วนมาจากความรักที่มอบให้คนด้อยค่า ล้วนมาจากการต้องการพ้นทุกจ์ทางใจและกาย ที่สุดคือ การเป็นผู้ให้เพื่อคนอื่นทั้งสิ้น หนทางสู่ความยิ่งใหญ่มีเยี่ยงอย่างให้ดูให้จำ แต่การกระทำนั้นเราเองต้องเป็นผู้เลือกเดิน ในความเจริญทางเปลือกนอก บอกเรา ชักนำเราให้เดินทางแบบใหม่ โดยที่มิเคยมีหมุดหมายแห่งความสำเร็จ เป็นทางใหม่ที่พยายามบอกกล่าวกันว่า “มันท้าทาย ต้องกล้าเปลี่ยน” และหากว่า เราจะเปลี่ยนแปลงสิ่งใด มีเพียงตัวเองเป็นตัวตั้ง ก็คงมีแต่พังกับฝั่งเท่านั้น ตรงกันข้ามหากเราทำเพียงสิ่งเล็ก ๆ เพื่อผู้อื่น สิ่งนั้นมักยิ่งใหญ่และคงอยู่ในความทรงจำและเป็นสิ่งที่สวยงาม ที่จะช่วยเสริมเติมแต่งให้กับโลกใบนี้ ชีวิตก็เท่านี้แหละจะเอาอะไรกันนักหนา อาแมน

วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ทะเลไม่เคยหลับ หลายคนไม่เคยตื่น

 

ทะเลไม่เคยหลับ หลายคนไม่เคยตื่น

เป็นอีกช่วงหนึ่งของวิถีชีวิตที่ต้องห้วนกลับมายังชายหาดเดิม ที่หัวหินแห่งนี้ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เพิ่งได้มาเที่ยวพักผ่อน แต่ครั้งนี้มาเพราะภารกิจการงาน เพียงสัปดาห์เดียว เพียงไม่กี่วันบรรยากาศชายหาดก็เปลี่ยนแปลงไป ในเช้าวันแรกตั้งใจว่าจะตื่นมาเชยชมแสงแห่งวัน ถ่ายภาพพระอาทิตย์ขึ้นเหนือน้ำ เพียงแคเดินออกไปพ้นจากชายคาที่พัก พลันก็ต้องปะทะกับเม็ดฝนปนสายลมหนาว เดินไปไม่ถึงหาด ต้องหาที่หลบฝนและกลับมายังห้องพัก วันที่สองยังคงตั้งใจเช่นเดิม ตื่นขึ้นมาเห็นท้องฟ้าพอจะมีแสง กาแฟหนึ่งแก้วชงแล้วถือมายังชายหาด รอรับแสงตะวัน ดูท่าว่าวันนี้ตะวันจะตื่นสายอีกหนึ่งวัน เพราะมีมวลเมฆก้อนใหญ่กั้นขวางไว้ เห็นเพียงแสงปริ่ม ๆ หลายคนเริ่มออกมายืดเส้นยืดดสาย...

นั่งมองท้องฟ้ารอท่าแสงแรกของวันนี้ มองเห็นความอัศจรรย์ในสิ่งสร้าง เห็นท้องฟ้ามีสีสันที่ไม่เคยเหมือนกันสักครั้ง แม้ในวันที่ไม่มีดวงกลม ๆ แต่...สิ่งหนึ่งยังคงเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน เป็นเครื่องหมายถึงความรักของพระเจ้า นั่นคือ เสียงคลื่นทะเล ไม่ว่าจะออกมายามใด เวลาไหน คลื่นก็ยังคงซัดซาดหาดทรายตลอดกาล ดังคำที่พูดกันไว้ว่า “ทะเลไม่เคยหลับ” ทอนหนึ่งของบทเพลงจึงผลุดขึ้นมา “ทะเล ไม่เคยหลับไหล ใครตอบได้ไหม ไฉนจึงตื่น บางครั้งยังสะอื้น ทะเลมันตื่น อยู่ร่ำไป”

ใช่หรือไม่ หากทะเลไร้คลื่นก็คงไร้ความหมาย หากคนเราไร้รักและเมตตาโลกคงมลายลง ทะเลกว้างใหญ่ไพศาลเพียงใดก็ยังมีฟากฝั่งของผืนดิน คนเรายิ่งใหญ่เพียงใดก็ต้องมีฟากฝั่งของลมหายใจ แล้วในวันที่ยังมีลมเข้าออกฟอกปอดอยู่นี้ เราได้ผลิตความดี ความรัก ไว้มากน้อยเพียงใดเล่า? ได้ทำให้จิตวิญญาณของเราเต็มตื่นด้วยคลื่นแห่งความงามประดับโลกไว้บ้างเพียงใด? เราต้องพยายามตอบคำถามเหล่านี้ เพื่อไตร่ตรองครรลองของการดำเนินชีวิตเราในทุก ๆ วัน รู้ตัว รู้ตื่น เป็นคลื่นที่ไม่เคยหลับ

ในวันที่เราเพิ่งมีข่าวดี การค้นพบวัคซีนต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ได้ สร้างยินดีไปทั่วโลก การรอคอยเหมือนกำลังจะสิ้นสุด แต่แล้ว...ผ่านไปไม่นาน ก็พบว่ายังคงมีข้อจำกัดในการใช้พอสมควร และรวมทั้งค่าใช้จ่ายที่อาจจะแสนแพงสำหรับคนทั่วไป ณ วันที่เขียน (วันศุกร์) ยอดผู้ติดเชื้อทะลุไป 53 ล้านคนจากทั่วโลก ในยุโรปหลายประเทศกำลังปิดเมืองปิดประเทศกันอีกรอบหนึ่ง ในสหรัฐอเมริกาก็ยังลุกลามติดเชื้อกันอีกมากมาย ในท่ามกลางความหวังการค้นพบวัคซีนก็ยังมีความดื้อรั้นที่ไม่ยอมจะดูแลตัวเอง โลกยังคงต้องตกอยู่ท่ามกลางโรคร้ายนี้ต่อไป ดีที่สุดที่ประเทศไทยเรายังคงรับมือการระบาดได้เป็นอย่างดี ความไม่แน่นอนยังคงแน่นอนอยู่เสมอ 

มองเห็นคลื่นทะเลที่ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย กลับมามองดูตัวเรา  ทุกคนล้วนเกิดมาเพื่อผู้อื่น แต่วันนี้เห็นแต่ต่างก็ตกอยู่ในกระแสที่ถูกสั่งสมสะสมให้ทำเพื่อตัวเอง เรียนเพื่อตัวเอง ทำงานเพื่อตัวเอง อยู่เพื่อตัวเอง กอบโกยเพื่อตัวเอง ยกย่องตัวเอง หาทำดีเพื่อตัวเอง แล้ววันหนึ่งก็เหนื่อยก็ท้อเพียงลำพัง จากที่ไม่เคยฟังเสียงภายใน จิตวิญญาณหลับไหล จึงไม่สามารถจะก้าวไปต่อได้ เที่ยวหาวัคซีนป้องกันภัยในใจ แต่ไม่เคยสร้างภูมิไว้ จึงไร้แรงที่จะต้านทาน วันที่ทุกอย่างมิได้เป็นอย่างใจหวัง ตรงกันข้ามกันคนที่เกิดมาทำเพื่อคนอื่น และไม่เคยที่จะหยุด ที่จะทำให้ชีวิตภายในตื่น มีคลื่นแรงบันดาลใจเสมอ ในวันที่มีเหตุอันใดที่ต้องให้ต้องสะดุด ให้สะอื้นบ้าง ก็ยังคงสามารถมีแรงที่จะเดินหน้าต่อไปในความดี ไม่มานั่งขมขื่น กล่าวแช่งชะตากรรม ซ้ำเติมตัวเองให้ดูแย่งลง ไม่เฝ้ารอเรียกร้อง พอไม่ไดดังใจก็เที่ยวโกรธเคืองคนอื่นอยู่ร่ำไป เราต้องไม่เกียจคร้านในการทำเพื่อคนอื่น มีความกระตือรือร้นเหมือนคลื่นทะเล แต่ต้องไม่บ้าคลั่งเป็นคลื่นใหญ่ที่ทำลายคนนอื่นด้วยเช่นกัน นี่จึงเป็นการใช้พระพรที่เราได้รับมาจากพระเจ้า ในการดำเนินชีวิต เพื่อแสดงออกถึงพระอาณาจักรของพระเจ้าในตัวเรา และนำความรัก ความยินดีมาสู่ชีวิตตนเองและผู้อื่น

วันเสาร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ความสงบในคลื่นลม

 

ความสงบในคลื่นลม

รู้สึกตัวอีกที...ก็กำลังมานั่งอยู่หน้าทะเลอันกว้างใหญ่ไพศาล นั่งนิ่ง ๆ เงียบ ๆ อ่านหนังสือที่เตรียมไป ท่ามกลางเสียงคลื่นทะเลซัดสาดหาดทราย ไม่นานก็เคลิ้มหลับไป หนังสือเปิดหน้าที่ค้างคาทาบอยู่ตรงหน้าอก เมื่อตื่นขึ้นมาก็รู้สึกว่า เป็นเรื่องแปลกที่เราสามารถหลับลงไปได้ท่ามกลางเสียงอันดังของคลื่นลม เป็นความดังที่สม่ำเสมอ และมีการไล่ระดับไปมาวิ่งข้างนั้นทีข้างนี้ที เป็นเสียงระบบเสตอริโอ เซอร์ราวด์ที่มีมิติยิ่งนัก จริง ๆ แล้วเป็นคนที่เวลามีเสียงดังมักจะทำให้นอนไม่ค่อยหลับ แม้ในยามค่ำคืน เสียงอะไรนิดอะไรหน่อยก็มักจะตื่น (ยกเว้นในวันที่เหนื่อยมาก ๆ ) แต่พอมานอนพักตรงนี้กลับหลับได้อย่างง่ายดาย หรือเสียงคลื่นทะเลจะเป็นเสียงบรรเลงดนตรีธรรมชาติที่สามารถบำบัดจิตใจให้สงบลงได้ ทะเลจึงเป็นที่หมายของคนหลายคนเพื่อมาพักกายผ่อนใจ เป็นที่หลบภัยยามจิตใจวุ่นวาย

ในวันที่โควิด -19 ยังคงเล่นงานผู้คนบนโลกมาร่วม ๆ ปีแล้ว ทำให้การท่องเที่ยวพลอยต้องหยุดชะงักลง บนหาดที่เคยขวักไขว่ไปด้วยผู้คน ก็กลับร้างลา ที่เคยเต็มไปด้วยการค้าขายบริการก็หายหวับไปหมดสิ้น เหลือเพียงหาดทราย ท้องทะเลและเสียงคลื่นลม และผู้คนอีกไม่มากนัก หาดจึงกลับมาดูสะอาดตา ท้องน้ำดูสดใส แต่เสียงคลื่นลมที่ยังคงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือไร้เสียงผู้คนโวกเวกโวยวาย ธรรมชาติเริ่มฟื้นฟูตัวเองขึ้นมา แล้วผู้คนล่ะ...ฟื้นฟูกันบ้างหรือยัง!!! เท่าที่เห็น พอเริ่มชินชากับโควิดชีวิตก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมกันหมด ยังคงเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง รั้งฉุดคนอื่นให้มาเข้าเป็นพวก ยังคงอวดอ้าง อวดเก่ง อวดรู้ กันไม่หยุดหย่อน ยังคงตะเกียกตะกายแสวงหาการเป็นที่ยอมรับจากคนอื่น ยังคงเรียกร้องตามความต้องการของตนเองฝ่ายเดียว ที่สุด...เราก็ยังคงความวุ่นวายกันเหมือนเดิม และเริ่มจะมีมากขึ้นเสียด้วยซ้ำไป เป็นชีวิตที่ยังหาความสงบลงไม่ได้ เป็นชีวิตที่ยังยึดติดกับความอยากได้ใคร่มี ความวุ่นวายกำลังก่อตัวขึ้นมาเพื่อจะแข่งกับโควิด-19 แล้วเราจะพบความสงบได้เช่นไรเล่า? ในเมื่อเราก็ต้องอยู่กันในสภาพแบบนี้ 

ใช่หรือไม่ บางทีหากเรามีจิตใจที่เข้มแข็ง มีพระเจ้าสถิตกับชีวิตทุกห้วงยาม ไม่ว่าชีวิตจะเป็นเช่นไร อยู่ในสภาพใด เราก็ยังคงพบกับสันติความสงบได้ เหมือนกับความสงบท่ามกลางเสียงคลื่นลมทะเล การที่จะไปถึงจุดนั้นได้ สิ่งที่เราต้องทำ คือ การเตรียมความพร้อม การมีหัวใจที่พร้อมจะรับฟัง และพร้อมปล่อยวางลงไม่ยึดติด อย่าทำตัวเองเป็นศูนย์ของสรรพสิ่ง ใช้ความรักนำความรอบรู้ ใช้เมตตานำอัตตา ใช้เอื้ออาทรนำการหาเงินหาทองกันอย่างเอาเป็นเอาตาย หลายคนอาจจะแย้งว่า...ในชีวิตจริงมันมิอาจจะทำแบบนี้ได้ทั้งหมด เพราะในบางครั้งก็เกิดอาการกลัว เกิดความอยาก เกิดกิเลส และบ่อยครั้งเราก็ทำไปเพราะความเคยชิน ใช่... ทุกคนล้วนผ่านสภาพแบบนี้มาทั้งนั้น แต่ในการเตรียมพร้อมที่มีค่าอย่างยิ่งอยู่ตรงที่เราพยายามที่จะทำมากกว่า พยายามคิดให้ได้ก่อนทำ คนเราจะพร้อมได้ก็ต้องรู้จักเตรียมตัว รู้จักเรียน ปรับปรุงตัวอยู่เสมอ ๆ ในบางเวลาอาจจะหลุดไปบ้าง อาจจะหลงลืม ละเลย ครั้นเมื่อรู้ตัวก็ต้องกลับมาพยายามฟื้นฟูคืนสู่การเป็นลูกที่ดีของพระให้ได้อีกครั้งและอีกครั้ง เราต้องฉลาดในเรื่องจิตวิญญาณแม้ว่าในสายตาของคนในโลกอาจจะมองว่าเราเป็นคนโง่ ใช่หรือไม่ คนฉลาดที่แท้จริงมักจะไม่อวดอ้างความฉลาด แต่เขาพร้อมที่จะแสดงความฉลาดในเวลาและจังหวะที่เหมาะสมต่างหาก


หน้าชายหาดยามสาย ท่ามกลางคลื่นซัดสาด เริ่มมีผู้คนทยอยออกมาเดินเล่น แม้ไม่มากนัก แต่ทุกคนก็คงอยากจะสัมผัสกลิ่นไอทะเล มีบ้างบางคนวิ่งออกกำลังกายไปมา บางคนมาถ่ายรูปท้องฟ้าที่สดใส ท้องน้ำที่งดงาม บางคนลงเล่นน้ำโต้คลื่นลม ทุกชีวิตล้วนมีวิถีที่แตกต่างกันไป และไม่นานหลายคนก็คงจากลาทะเลแห่งนี้กลับคืนสู่วิถีที่คุ้นชิน นี่อาจจะเป็นการมาเยียวยา ฟื้นฟูนชีวิตจิตใจให้พร้อมรับกับสถานการณ์ชีวิตที่จะเกิดขึ้น ยิ่งพร้อมยิ่งสามารถยืนหนึ่งต่อไปได้ แล้วเราล่ะ เตรียมพร้อมหรือยัง? โดยเฉพาะความพร้อมด้านจิตวิญญาณ ในวันที่คลื่นลมของกระแสโลกที่ร้อนแรงเช่นวันนี้...