วันเสาร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2563

วันนี้สิ่งนั้น


วันนี้สิ่งนั้น
เรากำลังจะก้าวข้ามผ่านทดลองที่ถูกโรคระบาดโควิด-19 เข้าครอบครองพื้นที่มาสักระยะหนึ่งแล้ว ก็ถือว่านานพอสมควร วันนี้ทุกอย่างเริ่มคลี่คลาย คลายล็อก ปลดล็อก เริ่มคืนสู่การใช้ชีวิตที่ปกติแบบไม่ปกติ ในความใหม่ของวิถีที่ต้องดูแลตัวเอง ที่ต้องมีวินัย ที่ต้องใส่ใจกันมากขึ้น ช่วงเวลาที่ผ่านมาในวันที่เราถูกกัก ถูกจำกัดพื้นที่ เราก็ได้สร้างสิ่งใหม่ ๆ เราได้รังสรรค์ชีวิตให้งดงามขึ้นมากน้อยเพียงใด? นั่น...แต่ละคนย่อมมีคำตอบของตัวเอง และแน่นอน มีไม่น้อยเลยที่เริ่มเห็นคุณค่าของชีวิตมากกว่าเงินทอง มองเห็นความสุขในความเรียบง่ายมากกว่าการดิ้นรนไขว่คว้าหามาสะสม เริ่มมองเห็นความสำคัญของคนใกล้ตัวมากกว่ามองหาความสัมพันธ์ของคนไกลในอากาศ วันนี้เราควรจะจดจำ นำสิ่งนี้มาใช้เพื่อสร้างฐานรากให้ชีวิตที่ยังเหลืออยู่
ในช่วงเวลาที่ต้องกักตัวอยู่ในบ้าน เราก็มีเวลาที่จะทำหลายสิ่งหลายอย่าง มีเวลานั่งทบทวนหวนความทรงจำจากวันวาน เพื่อเติมเต็ทความอิ่มเอมในวันนี้ สิ่งหนึ่งที่ผู้เขียนได้มีเวลารำลึกมากขึ้น คือ การไล่เรียงดูรูปถ่ายเก่าก่อนในมือถือ และลบภาพที่ซ้ำซ้อนเพื่อคืนพื้นที่ให้กับเครื่อง สิ่งที่เคยเกิดขึ้นที่ถูกบันทึกไว้ บางทีเราก็ไม่เคยสนใจที่จะเปิดดู มาวันนี้ได้มีเวลามาเปิดกรุความทรงจำ ทำให้มองเห็นมุมมองชีวิตแบบใหม่ ๆ ขึ้น เราเคยท่องไปเรียนรู้ที่นั่นที่นี่มามากมาย ผ่านผู้คน ผ่านทางสิ่งปลูกสร้าง ผ่านทางความอัศจรรย์ของธรรมชาติ แต่บ่อยครั้งเรากลับไม่ได้เรียนรู้ชีวิตจิตวิญญาณของตัวเราให้ถ่องแท้ เรายังคงมีความเห็นแก่ตัว ยังคงเป็นคนที่อยากได้อยากมี ยังคงมีความคับแคบ คับแค้นข้องใจ เจ็บใจจดจำ ไม่ให้อภัยใครต่อใครอีกหลายคน ภาพเหล่านั้นสะท้อนย้อนกลับมาให้เห็นในวันนี้ วันที่เรามีเวลาไม่มากนัก ที่สุดเราก็ต้องหยุด แล้วมองโลกในทุกวันให้สวยงาม พยายามที่จะสร้างสิ่งดี สร้างวิถีชีวิต โดยการเข้าใจตนเอง และใส่ใจผู้อื่นมากขึ้น รู้จักที่จะระงับอารมณ์ ข่มใจบังคับปากและกายให้เป็น มีความสุขกับวันเวลาให้เป็น มองชีวิตในหลากหลายมิติ
ใช่หรือไม่ ทุกวันชีวิตคนเราก็ค่อย ๆ เสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ เราเพียงแต่เฝ้ามองความเสื่อมถอยนั้น โดยมิอาจจะหยุดยั้งมันได้เลย วันเวลาผ่านไป ร่างกายถูกใช้งานตามสภาพของแต่ละคน แต่ละหน้าที่ที่ได้รับ บางคนใช้หนักเกินลิมิต ใช้ชีวิตเกินร้อย ก็ย่อมถดถอยมากกว่าคนอื่น วันดีคืนร้ายพบเจอเชื้อร้ายเกาะกินเกินกว่าจะต้านทานได้ บางคนใช้ร่างกายไปกับการบริโภคเกินไปโรคภัยก็ถามหา ระบบภายในรวนปั่นป่วน ทุกอย่างหากปรับสมดุลได้ แม้บางอย่างจะทรุดโทรมตามกาลเวลา ก็คงไม่ถึงขั้นต้องล้มหมอนนอนเสื่อ และเราก็มีวันนี้ที่ดีกว่าเมื่อวาน มีแต่เพียงใช้เวลาวันนี้ให้ดีที่สุดตามสามารถ สร้างสิ่งดีงามขึ้นมา เพื่อให้สิ่งนี้จะเป็นสิ่งนั้นในวันข้างหน้า บางทีสิ่งนี้จะกลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุดก็ได้  
นึกย้อนถามตัวเองขึ้นมาในใจว่า รู้สึกเสียดายวันเวลาที่ผ่านมาไหม? รู้สึกว่ายังไม่ได้ทำอะไรอีกบ้าง? มีสิ่งใดยังคงค้างคาอยู่หรือไม่? ก็คงมีหลายเรื่อง แต่ก็ไม่ได้คิดว่าในชีวิตหนึ่ง เราต้องทำให้ครบทุกสิ่ง ต้องทำทุกความคาดหวังให้เป็นจริงได้เสมอไป บางเรื่องก็เกินกำลัง เกินความสามารถที่จะทำได้ บางเรื่องทำได้เพียงทำใจยอมรับมัน คือ หนทางที่ดีที่สุด ที่กล่าวเช่นนี้มิได้ปลงอนิจจากับชีวิต แต่ต้องน้อมรับความเป็นจริง ยิ่งเมื่อเห็นความทุกข์โศกเศร้าจากโรคไวรัสโควิด -19 ด้วยแล้ว ยิ่งตอกย้ำว่า คนเราจะเอาอะไรกันนักกันหนา จะแข่งขัน จะอิจฉา จะบ้าอำนาจ จะคลั่งในยศศักดิ์กันไปทำไม หากโรคมันวิ่งใส่เรา มันมิได้เลือกหน้า มันมิได้รับสินบน มันมิได้ดูความยิ่งใหญ่ของใครทั้งสิ้น

ภาพแล้วภาพเล่าผ่านสายตา ที่นำพาความทรงจำวันนั้นในหวนคืน หลายเหตุการณ์มีคุณค่ากับชีวิต เพราะหากไม่มีวันนั้นเราคงไม่มีวันนี้ ชีวิตไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกอย่างอยู่ในความดูแลของพระเจ้าเสมอ เรียนรู้และไว้วางใจ เพื่อก้าวไปในหนทางธรรม เวลาเปลี่ยน โลกเปลี่ยน ชีวิต คือ ความเปลี่ยนแปลง ความรู้สึกที่เรามีต่อชีวิต จะมีคุณค่า มีความหมาย มีความปรารถนา ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามเวลาและประสบการณ์ที่พบเจอ ในทุกสิ่งมีความดีงามอยู่เสมอ และเราต้องมีความหวังว่า ในวันหนึ่งข้างหน้าสิ่งนั้นที่เราทำอยู่ในวันนี้จะมีประโยชน์ต่อผู้อื่นไม่มากก็น้อย เพราะทุกสิ่งที่เราทำไปนั้น เราได้ใส่ความรัก เพื่อเพราะพันธุ์แห่งความดีให้งอกงามขึ้น เป็นดังดอกไม้ที่บานให้ความสวยงามยามพบชม เมื่อถึงเวลาก็ร่วงโรยลงไปอย่างมีคุณค่า นี่แหละชีวิตเรามีวันนี้เพื่อสิ่งนั้นนั่นเอง

ไม่มีความคิดเห็น: