งด
แล้วจึง งาม
ภาษาไทยเป็นภาษาที่สวยงามเราสามารถเล่นคำให้มีความหมายซ่อนเร้นได้เสมอ
เช่น คำว่า “ทุกข์ยาก” ถ้าแยกกันก็เป็นว่า ทุกข์ กับ ยาก
คือกว่าจะมีความทุกข์นั้นยากมาก สอนให้เรารู้ว่า เราทุกคนจะประสบความทุกข์ หาใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นง่าย
ๆ ในชีวิตเราล้วนมีความสุขด้วยกันทั้งนั้น
ในขณะเดียวกันก็ต้องเตรียมรับความผันผวนไว้ด้วย ถ้าใครตั้งรับดี มีสติ รอยคอบ
ย่อมเกิดความทุกข์ยากจริง ๆ ความลำบากนั้นอาจจะมีด้วยกันทุกคนไม่มากก็น้อย
แต่จะนำไปสู่ความทุกข์อันใหญ่ยิ่งจนแก้ไขไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับการตระเตรียมตัวของเรานั่นเอง
มาถึงคำที่จะพูดถึงในครั้งนี้บ้าง คำว่า “งดงาม” ถ้าเราแยกออกก็จะได้ “งด”
คือหนักไปทางที่จะไม่ทำ ไม่ให้เกิด ไม่ให้มี “งาม” ก็คือมากกว่าความสวย
และเมื่อนำสองคำนี้มาติดกัน ไม่ได้แปลว่า ไม่งามไม่สวย
ไม่ให้เกิดไม่ให้มีความสวยความงาม แต่เป็นยกระดับความสวยให้สูงขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง
มานั่งตีความหมายด้วยการแยกคำจึงเกิดข้อคิดขึ้นมา เราต้องงดบางเรื่องก่อนความงามจึงจะบังเกิดขึ้น
ในภาวะวิกฤติโรคระบาดรุมเร้าล้อมโลกเช่นนี้
หลายกิจกรรมถูกระงับถูกสั่งให้งดไปครึ่งค่อนโลก ในประเทศของเราได้ออกคำสั่งให้งดในหลายเรื่อง
แม้แต่เรื่องประเพณีเก่าก่อน ในงานมหาสงกรานต์
เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกว่าไม่มีการฉลอง ไม่มีการละเล่น
สาดสรงน้ำอย่างที่เป็นมา งดการเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่
ซึ่งถ้าเป็นปกติในช่วงเวลานี้เราก็จะเห็นการเก็บสถิติอุบัติเหตุบนท้องถนน
จำนวนผู้เสียชีวิต ในแต่ละปีเราสูญเสียในช่วงเทศกาลนี้เป็นจำนวนหลายร้อย
แต่ปีนี้เรามีผู้เสียชีวิตไปกับโรคโควิด-19วันละคนสองคนเท่านั้น
ซึ่งเป็นปีแรกที่เดือนนี้เราสูญเสียชีวิตคนน้อยกว่าทุกปี
ทำให้เราไม่ต้องมานั่งเศร้าโศกและลุ้นระทึกกับการเดินทางไปกลับ
แม้จะเป็นเพียงความงามที่เกิดขึ้นเล็ก ๆ
แต่เราก็รักษาไว้ซึ่งประชากรคนไทยได้อีกหลายร้อยคน
เราจำต้องงดการออกไปนอกบ้านเพื่อทำมาหากิน อยู่กับบ้านหยุดเชื้อ
เพื่อตัดวงจรการแพร่กระจายของโรค เราต้องงดการพูดคุยกระซิบกระซาบ
เราต้องงดการอยู่ใกล้ชิดกันกับผู้อื่น กิจกรรมทางสังคมถูกปรับเปลี่ยน
เราพบปะกันทางออนไลน์มากขึ้น มีเวลาจำกัด ไม่ต้องนั่งเมาท์มอยให้เสียเวลา เรามีเวลาใกล้ชิดกับลูกหลานมากขึ้น
หลายคนอาจจะไม่ชินกับความวุ่นวายที่แฝงมากับความน่ารัก ความซนและสร้างสรรค์ของบรรดาเด็ก
ๆ ในบ้าน ความสุขจากการเห็นพัฒนาการของลูกหลานนำความสำราญมาให้คนในบ้านอย่างที่มิเคยเป็นมาก่อน
เรารู้สึกว่ามีเวลาที่จะทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนมากขึ้น มีเวลานั่งระเมียดกับการดื่มกาแฟยามเช้า
มีเวลาหยิบหนังสือ มีเวลานั่งฟังบทเพลงอันไพเราะ
มิใช่บทเพลงที่อยู่ท่ามกลางความเครียดบนท้องถนน เราได้มีเวลาที่จะฟื้นฝีมือในการทำอาหาร
จากที่เคยทำเป็นแต่ไข่เจียว ไข่ต้ม ไข่ดาว ก็เริ่มทำเมนูไข่หลากหลายมากขึ้น มีเวลานั่งดูรูปภาพเก่าก่อนย้อนรำลึกความทรงจำ
หยิบขึ้นมาถ่ายและโพสต์แท็กเพื่อนให้มาทบทวนความทรงจำด้วยกันในภาพใบนั้น
ซึ่งหลายเรื่องราวจางหายไปถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่ให้ความสดใสกลับคืน ความงามเริ่มค่อย
ๆ ปรากฎบนใบหน้าที่มีรอยยิ้ม ความงามจากวันวาน ความงามจากความสบายกาย
ความงามจากความใกล้ชิด แม้จะงดออกไปข้างนอก
แต่ความงามเริ่มงอกจากสิ่งที่เป็นอยู่
จากที่เราต้องไปวัดร่วมมิสซาทุกอาทิตย์ก็จำต้องถูกงดไปด้วยโดยปริยาย
แต่ด้วยว่าเทคโนโลยีเอื้ออำนวยกว่าสมัยก่อนมาก เราจึงมีการร่วมพิธีออนไลน์สายตรงถึงบ้านถึงห้องนอนกันเลยทีเดียว
จากที่เราเคยร่วมมิสซาวันอาทิตย์ซึ่งมาทันบ้างไม่ทันบ้างแล้วแต่การจราจร
มิต้องพูดถึงมิสซาวันธรรมดาที่ไม่มีเวลาที่จะเดินทางมาที่วัดเลย ยามนี้วันนี้ท่ามกลางการระบาดไวรัส
เราจะเกิดไวรัล การร่วมพิธีมิสซาอย่างที่ปกติไม่เคยมีมาก่อน เช่น
วัดเซนต์หลุยส์มิสซาวันธรรมดาเช้าเย็น มีคนมาร่วมอยู่ที่ไม่กี่สิบคน แต่เมื่อมีการออนไลน์ทุกวันมีคนร่วมฟังหลายร้อยคน
มิสซาวันอาทิตย์ปกติอยู่ที่สองสามร้อยคน
แต่วันนี้ในระบบออนไลน์แต่ละรอบต่ำสุดก็เกือบห้าร้อยคน สูงสุดพันคน
ยิ่งในช่วงสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์มีคนร่วมพิธีแบบสด ๆ
ทุกวันวันละพันห้าถึงพันแปดร้อยคน และถ้านับการดูย้อนหลังการแชร์ และคูณด้วยคนร่วมแต่ละครอบครัว
อาจจะหนึ่งเครื่องต่อหลายคน ใช่หรือไม่ นี่เป็นความงามทางจิตวิญญาณอย่างยิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน
เราถูกงดไม่ให้มาวัดจึงเริ่มโหยหาพระ จากที่เราเคยมาหาพระตอนไหนก็ได้แต่เรามิค่อยเคยมาหา
ในวันนี้เราต่างโหยหาเรียกร้องหาพระเจ้า หันกลับมาพึ่งพระองค์
เพื่อฟื้นคืนความงดงามให้กับจิตใจของพวกเรา
ในช่วงที่ผ่านมาโลกและธรรมชาติถูกใช้เพื่อการพัฒนาอย่างหนักหน่วง
การผลิต อุตสาหกรรม การปล่อยควันพิษให้ไปสถิตในชั้นบรรยากาศบดบังแสงสว่าง โลกจึงดูมืดมน
จนกระทั่งวันนี้ที่การพัฒนาด้วยเครื่องยนต์กลไกถูกงดระงับ ไม่ให้เดินเครื่อง ความใสสว่างของโลกเริ่มปรากฎ
ใช่หรือไม่ชีวิตเราบางครั้งก็เป็นเช่นนั้นเราเดินหน้ากันอย่างรีบเร่ง รวดเร็ว
ต่างทำลายธรรมชาติ ก่อมลพิษมลภัยมากมาย ชีวิตมีแต่ความมืดมน เดินไปไร้เป้าหมาย
กระวนกระวายกันทุกวัน ความเห็นแก่ตัวก็ถูกผลิตออกมาเป็นดั่งเครื่องใช้เพื่อชัยชนะแบบไร้จุดหมาย
วันนี้เราพบแล้วว่าแท้จริง “ความงาม” ของชีวิตจะเกิดขึ้น เราต้อง “งด”
ตัวตนลง วันนี้เราต้องช่วยกันเพื่อฟื้นโลกให้กลับมาสดใสอีกครั้ง
ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากอันใด เรากำลังร่วมมือกันทำอยู่และทำต่อไป เพื่อที่เราจะกลับมาร่วมกันในชุมชนแห่งความเชื่อเดียวกันนี้ในอีกครั้ง....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น