พักตรงนี้
ก็หวังว่าช่วงวันหยุดในหลายวันที่ผ่านมา
หลายคนคงใช้เวลาได้หยุดพักผ่อน เดินทางไปกับครอบครัว หาที่พักกายพักใจ ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
หยุดพักจากการงาน การดิ้นรนขวนขวาย
เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้บรรเทาจากความเหนื่อยล้าลงบ้าง บางคนเลือกที่จะพักผ่อนในเมืองที่ดูจะสงบเงียบปีละครั้งสองครั้ง
ต้องกอบโกยความสะดวกสบายของการสัญจรในเมืองหลวงให้เต็มที่ ถนนหนทางแบบโล่งปลอดโปร่งก็สุดที่ตามแต่ละคนจะสรรหาการพักผ่อน
การเดินทางไปต่างที่ต่างถิ่น
ออกไปพร้อม ๆ กันหลายหมื่นคนด้วยรถหลายพันคัน
เป็นเรื่องที่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่รถราจะติดขัดกันเป็นทิวแถว ค่อย ๆ
ขยับเขยื้อนกันไป แม้จะลำบากหลายคนก็ต้องพยายามไปให้ถึงที่หมาย เพราะมันมีความหมายและความสำคัญกับชีวิต
เป็นเหมือนกับการจุดประกายเพิ่มเชื้อเพลิงเพื่อขับเคลื่อนชีวิตในวันหน้า หลายคนปีละหนที่ต้องกลับคืนสู่อ้อมกอดของแผ่นดินถิ่นเกิด
เพราะตลอดทั้งปีต้องทำงานและทำงาน สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ
การใช้หนทางร่วมกันความเห็นแก่ตัว ความมักง่ายนำมาซึ่งความเดือดร้อนของเราเองและของผู้อื่น
สิ่งนี้ต้องฝึกฝนกันอย่างหนักเพื่อเราจะได้มีเวลาพักที่งดงาม ปราศจากอันตราย
และอุบัติเหตุ
โดยส่วนตัวก็เลือกวันที่คิดว่าการจราจรจะลดความหนาแน่นลงบ้าง
กลับไปกราบขอพรจากผู้หญิงอันเป็นที่รักยิ่ง ไปร่วมกันทานข้าวกับพี่ ๆ น้อง ๆ และร่วมเดินทางไปพักผ่อนด้วยกันที่ริมแก่ง
นอนชมดวงดาว ดวงจันทร์ท่ามกลางอากาศเย็นสบายกลางหุบเขา
แต่ก็ใช่ว่าจะได้รับความสงบดังที่หมาย เสียงเพลงที่ร้องไม่ตรงคีย์รบกวนบรรยากาศ
ก็คิดเสียว่าเป็นเรื่องที่สร้างสีสันอีกรูปแบบหนึ่งในการหยุดพักตรงนี้ในครั้งนี้ บางทีการที่มาพักตรงนี้ก็เป็นเรื่องที่เราไม่คาดคิดว่าจะเจออะไรเหมือนกันต้องถือเสียว่าได้มาพักก็ดีแล้ว
ดีกว่าอีกหลายชีวิตที่ต้องเดินทางรอนแรมหาที่พัก
เพราะทุกที่เต็มหมดในสถานที่ท่องเที่ยว ทำให้คิดถึงเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งที่ว่า ชีวิตแห่งการเดินทางต้องพักบ้าง
อย่าวิ่งมุ่งหน้าไปอย่างเดียวโดยไม่เหลียวแลอะไรเลย!!!
นานมาแล้ว
มีพระราชาพระองค์หนึ่งได้ตรัสกับคนขี่ม้าว่า
“ถ้าเจ้าสามารถขี่ม้าไปครองพื้นที่ได้มากเท่าไรก็ตาม เราจะยกที่ดินผืนนั้นให้เจ้า”
คนขี่ม้าจึงควบม้าของตนไปอย่างรวดเร็ว
เพื่อครอบครองที่ดินให้มาก เท่าที่จะทำได้ เขาเร่งควบม้าไปเรื่อย ๆ
เร็วเท่าที่ม้าจะรับไหวเมื่อเขาหิวหรือเหนื่อย เขาก็จะไม่หยุดควบม้า
ดื่มกินบนหลังม้า เหตุเพราะต้องการครอบครองดินแดนให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้
เมื่อมาถึงจุดหนึ่ง ทั้งเขาและม้าก็หมดแรงและกำลังจะตาย
เขาจึงถามตัวเองว่า
“ทำไมเราถึงกดดันตัวเองอย่างหนัก เพื่อให้ได้ครอบครองผืนดิน? ตอนนี้เรากำลังจะตาย
และเราก็ต้องการเพียงแค่ที่ดินเล็ก ๆ เพื่อฝังศพตัวเอง”
นิทานเรื่องนี้ก็เหมือนกับการเดินทางของชีวิตคนเรา
ที่ผลักดันตัวเองเพื่อให้ได้เงินทองของมีค่าให้มาก ๆ
ต้องการมีตำแหน่งแห่งหนมีตัวตนเป็นคนมีอำนาจ เป็นที่ยอมรับของทุกคน
ต่างจึงวิ่งไปข้างหน้าอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ไม่ได้หยุดแหงนหน้าชื่นชมดวงดาว
ไม่ได้เบาเท้าฟังเสียงเรียก เพื่อให้เข้าใจความหมายของชีวิตที่แท้จริง ต่างละเลยที่จะดูแลสุขภาพร่างกายของตน
และคนรอบข้างเรา ไม่มีแม้เวลาให้ครอบครัว ไม่มีเวลาแวะชื่นชมกับสิ่งสวยงามรอบตัว
หรือแม้กระทั่งไม่มีเวลานั่งลงอ่านหนังสือสักเล่ม
ฟังเพลงไพเราะเสนาะหูที่ร้องถูกคีย์บรรเลงถูกโสตศิลป์
ในวันข้างหน้าวันที่เราต้องประสบพบเจอการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลกโดยรวม
วันที่อยู่ท่ามกลางผืนดินที่ใหญ่กว่าใหม่กว่า เราจะมีพละกำลังกาย มีกำลังใจที่จะบากบั่นก้าวข้ามผ่านไปหรือเปล่า
หากว่าเราไม่เรียนรู้ที่จะหยุดพักตรงนี้วันนี้บ้าง อย่าให้ต้องเป็นว่า เมื่อได้มองย้อนกลับไป
ต้องมาสำนึกเสียใจในสิ่งที่ต้องการนั้นจริง ๆ เรากลับไม่ได้มันมาทั้ง ๆ ที่มันอยู่ใกล้เหลือเกิน
สิ่งที่เราขวนขวายและพยายามไขว่คว้ามัน กลับไม่ได้ให้อะไรกับชีวิตเราเลย
ทุกอย่างว่างเปล่า สูญหายไปกับวันเวลา ความรัก มิตรภาพ สันติสุข หดหายไปเสียสิ้น
แต่เมื่อเราไม่สามารถย้อนเวลากลับไปได้กับสิ่งที่เราผ่านพ้นมาแล้วในชีวิต
ก็จงเริ่มทำปัจจุบันให้ดีขึ้น อย่าลืมว่าชีวิตคือความสมดุล ครอบครัวและส่วนตัว
ส่วนรวม ชุมชน เราก้าวเดินไปข้างหน้านั้นเพื่อค้นหาความหมายของชีวิต
มิใช่สะสมความหายนะของชีวิต เดินทางเพื่อให้พบกับความสุข เพราะแท้จริงแล้ว ความสุข
คือความหมายและจุดมุ่งหมายของชีวิต ความสุขสร้างขึ้นได้ง่าย ๆ
โดยทำในสิ่งที่ต้องการจะทำ และซาบซึ้งกับความงามตามธรรมชาติ
ชีวิตคนเรานั้นเปราะบางและแสนสั้นนัก
จงใช้ชีวิตอย่างสมดุล และในฐานะเราผู้เป็นศิษย์พระคริสต์ได้รับการเลือกสรร เป็นผู้ที่พระเจ้าทรงพอพระทัย
พระองค์ได้ประทานพระหรรษทานแก่เราทุกคนเพื่อสานต่อภารกิจแห่งรักที่มิใช่เพื่อประโยชน์ของตนเอง
แต่สำหรับเพื่อนพี่น้องที่อยู่รอบข้างทุกคน ในท่ามกลางที่มืดมิดของความขัดแย้งทั้งทางด้านความคิดและอุดมการณ์ของแต่ละคน
เราต้องพร้อมที่จะเป็นเครื่องมือที่ฉายแสงแห่งรัก ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว
เพื่อนำผู้คนที่ตกอยู่ในความมืด ให้ได้พบกับแสงสว่างแท้จริงและกลับมาพักพิงกับพระองค์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น