วันเสาร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

หลายครั้งความจำเสื่อม


หลายครั้งความจำเสื่อม
ทุกช่วงเช้าหลังจากการตื่นนอน ขอบคุณพระเจ้าสำหรับวันใหม่แล้ว ก็เข้าสู่โหมดอ่านหนังสือ เพื่อให้สมองได้รับการบริหาร จะได้ไม่เป็นโรคความจำเสื่อม เพราะอายุเริ่มมาก อวัยวะบางส่วนย่อมเสื่อมสภาพลง เห็นหลายคนเริ่มหลง ๆ ลืม ๆ  คุยแต่เรื่องเดิมซ้ำมาซ้ำไป เราคนฟังก็รู้สึกรำคาญนิดหน่อย จึงไม่ปรารถนาจะให้ใครมารำคาญเราในวันข้างหน้า การอ่านจึงเป็นทางหนึ่งในการออกกำลังกายให้สมอง นอกจากหนังสือก็ยังอ่านข่าวสารติดตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ยิ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นชีวิตของคนที่หลงไปกับวัตถุเงินทองแล้วนำมาเป็นข้ออ้างอวดเก่งอวดเบ่ง ถาโถมใส่ผู้อื่นด้วยการเอาจำนวนเงินที่มีไปดูถูกหยามเหยียดอย่างน่ารังเกียจ กลายเป็นคนไม่มีที่ยืนในสังคม เราจะโทษใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ เพราะเราเองก็เคยตกหลุมติดหล่มอยู่กับกระแสแห่งความปรารถที่จะมีอย่างไม่สิ้นสุดจนบ่อยครั้งถึงกับฉุดรั้งไม่อยู่ หลายคนมีความรู้แต่ก็ไม่สามารถนำมาเพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ เรายังละความสมถะไว้ข้างหลังให้ความโลภนำพา ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าต้องตกข้างทางเข้าสักวัน

เราเห็นข่าวแชร์ลูกโซ่เกิดขึ้นที่นั่นที่นี่บนโลกออนไลน์ทุกวัน โลกไซเบอร์ที่บอกความจริง ที่หาข้อเท็จจริงได้ง่ายกว่าเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่หลายคนเลือกเอาความลวงมาประโลม และก็ตกเป็นเหยื่อแห่งความโลภ เพราะเพียงแค่หวังว่าจะรวย เผื่อว่าจะได้เม็ดเงินก้อนโตที่ลงทุนก่อนได้ก่อน แล้วเลิกก่อน ใครลุกช้าจ่ายรอบวง ใช้เงินต่อเงิน ใช้โลภต่อลวง สุดท้ายต่างคนต่างลุกวิ่งมาร้องขอความยุติธรรม ผ่านไปกี่สิบปี โลกวิวัฒน์สุดล้ำ การแฉกลโกงกลลวงให้รู้มีให้เห็นให้ดูให้รู้ แต่ก็ยังมีคนแบบเดิม ๆ หลงเชื่อตามคำเชิญชวนเกิดตามมา กาลเวลาผ่านไป เทคโนโลยีล้ำสมัยก็มิอาจจะทำลายความโลภลงได้
ในยุคที่เทคโนโลยีให้เราเรียนรู้กลโกงของคนอื่นได้ เราก็ยังชอบที่จะลงไปเสี่ยงดูเผื่อได้ เผื่อฟลุ๊ค ตรงเผื่อนี่แหละคือความโลภ เหมือนเราดูการเล่นมายากล รู้ทั้งรู้ว่าหลอกแต่ก็ยังชอบดู และพยายามจับผิดซึ่งก็ไม่เคยประสบความสำเร็จสักครั้ง เช่นกัน ทุกศาสดาที่บรรลุธรรมมีคำสอนให้เรารู้จักหลีกหนีความโลภ แต่ก็มีศาสนิกมากมายไม่สามารถรอดพ้นบ่วงลวงนี้ได้ ทำให้คิดถึง สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ผู้แทนของพระเยซูคริสตเจ้า ที่กำลังจะมาเยี่ยมเยือนพวกเราลูก ๆ พระองค์ดำเนินชีวิตแบบอย่างด้วยความสมถะ และถือความยากจน ด้วยการพักที่หอพักซางตา มาร์ธา (ไม่พักที่วังพระสันตะปาปา) เพื่อจะได้ถวายมิสซากับพี่น้อง และแบ่งปันพระวาจา เป็นสื่อที่ถ่ายทอดความดีงามออกมาจากพระองค์ทุกวัน ครั้งหนึ่งพระองค์เทศน์เรื่องเกี่ยวกับความโลภ วันนี้ขอนำมาแบ่งปัน เพื่อเป็นการเตรียมจิตใจพวกเราก่อนถึงวันเวลาที่จะได้พบกับพระองค์ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า 


สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงถวายมิสซาเช้าในวัดน้อยประจำหอพักซางตา มาร์ธา พระวรสารกล่าวถึงพระเยซูทรงสอนว่า “จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีเพียงใดก็ตาม” พระสันตะปาปาทรงเทศน์ให้ข้อคิดว่า
พ่ออยากเตือนใจเราทุกคนว่า เราไม่สามารถรับใช้เจ้านายสองคนได้พร้อมกัน นั่นคือ เราไม่สามารถรับใช้พระเจ้าและเงินไปพร้อมกัน พระเยซูไม่ต่อต้านความร่ำรวย แต่พระองค์ทรงเตือนเราว่า อย่าฝากทุกอย่างไว้กับเงิน เพราะการทำแบบนี้คือความเสี่ยง มันคือการทำให้ศาสนากลายเป็นหน่วยงานประกันภัย นอกจากนี้ การยึดติดกับเงินยังนำไปสู่ความแตกแยก ดังที่เราเห็นในพระวรสารว่า พี่น้องแย่งมรดกกัน ขอให้เราพิจารณาดูว่า มีกี่ครอบครัวที่เรารู้จัก ที่สมาชิกในครอบครัวต่อสู้กันเพื่อแย่งทรัพย์สมบัติ สมาชิกเหล่านี้ไม่แม้แต่จะกล่าวคำทักทายกัน แต่พวกเขาเกลียดกัน พระเยซูตรัสชัดเจนว่า จงระวังและอยู่ให้ห่างจากความโลภทุกชนิด นี่คือสิ่งอันตรายมาก มันให้ความมั่นคงกับเรา แต่นี่ไม่ใช่ความมั่นคงที่แท้จริง ความโลภอาจทำให้เราสวดภาวนา ความโลภทำให้เราสวดขอพระเจ้าเพื่อความร่ำรวย ความโลภทำให้เราไปวัด แต่หัวใจของเราไม่ได้อยู่กับพระเจ้า ตรงกันข้าม ความโลภทำให้หัวใจของเรายึดติดกับความร่ำรวยทางวัตถุ

การยึดติดกับความรวยแบบไม่มีสิ้นสุด นี่คือความโลภ เมื่อใดที่หัวใจของท่านยึดติดกับความโลภ ท่านจะเกิดความต้องการไม่รู้จักจบ ความโลภคือพระเจ้าของคนที่ยึดติดกับความรวยแบบไม่รู้จักจบ ความโลภไม่ได้นำเราไปพบความรอดพ้นจากบาป แต่ต้องเป็นหัวใจที่ยึดติดกับความยากจน ดังบทสอนเรื่องผู้เป็นสุข (บุญลาภ) ที่พระเยซูตรัสสอนประการแรกว่า “ผู้ใดมีใจยากจนก็เป็นสุข” เราต้องอย่ายึดติดกับความรวย แต่เราต้องรู้จักแบ่งปันและช่วยเพื่อนมนุษย์ การช่วยเหลือผู้อื่นคือเครื่องหมายที่บอกว่า เราไม่ได้ตกเป็นเหยื่อของบาปแห่งการหลงบูชาสิ่งใดแบบไม่ลืมหูลืมตา (ข้อมูล Pope Report)
            ทุกชีวิตย่อมเคยหลงผิด เดินพลาด เข้าไปพัวพันกับความโลภ การอยากได้อยากมีจนเกินเลย เราเคยโลภจนจำสิ่งที่มีได้ไม่ครบ เราเคยสะสมจนลืมที่จะใช้บางสิ่งให้เกิดประโยชน์ ใช่หรือไม่ เรากำลังคดโกงต่อคนยากไร้และไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้สิ่งของนั้น เพียงเพราะมันดันมาอยู่ในการครอบครองของเรา เราโลภที่จะเป็นคนเก่ง คนรวย ด้วยไม่สนใจที่จะเป็นคนดี อย่าให้การทำความดีเสื่อมถอยไปจากชีวิต หันมาบริหารความดีงาม แสวงหาความสุขสันติในหนทางประจำวันไปพร้อม ๆ กัน

ไม่มีความคิดเห็น: