วันศุกร์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

เดินทางเท้าวันนั้น


เดินทางเท้าวันนั้น
ว่ากันว่า ชีวิตคนเราก็เหมือนกับสภาพอากาศที่สามารถพยากรณ์ได้ แต่มักมีสิ่งเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะสุขสดใสหรือเศร้าหมอง มีมาได้ทุกช่วงเวลา แต่การมีจิตใจที่เป็นสุข นั่นคือทรัพย์สมบัติที่ไม่มีใครแย่งไปได้ นี่เป็นการรำพึงกับตัวเองยามที่ได้มีเวลาเดินท่องชมธรรมชาติที่คามิโคจิ ประเทศญี่ปุ่น ระยะทางประมาณสามกิโลเมตรกว่า ๆ จากจุดที่ลงรถรับส่งนักท่องเที่ยว ค่อย ๆ เดินลงทางลาด เบื้องหน้าเป็นภูเขาที่บนยอดยังคงปกคลุมด้วยหิมะ ที่กำลังละลายสลายตัวเป็นหยาดน้ำไหลลงมายังลำธารา หลอมรวมเป็นแอ่งน้ำใสเขียวมรกต เห็นแล้วช่างตื่นตาตื่นใจ แล้วน้ำใส ๆ ก็ยังไหลไปตามลำธาร ที่ทั้งสองฝั่งเต็มไปด้วยแมกไม้ กำลังรอการหล่อเลี้ยงเพื่อให้ฟื้นคืนผลิกิ่งก้าน สร้างความร่มเย็นหมุนเวียนเปลี่ยนผันไปตามฤดูกาลอย่างซื่อสัตย์ ทุกสิ่งล้วนเอื้อเกื้อกูลก่อเกิดเป็นความสมบูรณ์ของธรรมชาติ สิ่งหนึ่งย่อมมีความหมายและความสำคัญต่อสิ่งอื่นด้วยกันทั้งนั้น เป็นห่วงโซ่โยงยึดความเป็นหนึ่ง มีวันเสื่อมสลายตัวตนเพื่อสิ่งอื่น  หิมะสลายตัวเป็นสายน้ำ สายน้ำให้พื้นดินดูดซับธาตุเป็นสารอาหารให้ต้นไม้ใบหญ้า ไม้ใหญ่ให้ร่มเงาไม้เล็ก นกกาได้ใช้เป็นถิ่นอาศัย แล้วคนเราเล่า ให้อะไรแก่กันบ้าง??? หรือเพียงถือตัวตน หรือเพียงยึดมั่นถือมั่นถือดีไม่ให้ดีแก่คนอื่น เราจึงอยู่กันแบบกระท่อนกระแท่นเหมือนดังทุกวันนี้ 


ใช่หรือไม่ ในความหลากหลาย ในความแตกต่างของสรรพสิ่งสร้างล้วนต่างเชื่อมโยงกันสิ่งหนึ่งเพื่อสิ่งหนึ่ง ความสวยงามของสิ่งสร้างมาจากสิ่งเหล่านี้ ยิ่งเดินช้าลงทำให้มีเวลาเห็นสิ่งที่สวยงามมากขึ้น ในช่วงเปลี่ยนผ่านของโลกที่เต็มไปด้วยความรวดเร็ว ทำให้ผู้คนใจเร็วตาม การที่จะให้ทุกอย่างขยับเขยื้อนเคลื่อนที่ไปอย่างช้า ๆ อาจจะไม่ทันใจมนุษย์ทาสไอที ที่เห็นอะไรชักช้าก็จะเกิดอาการหงุดหงิด อยากได้อะไรต้องได้ อยากเห็นอยากรู้อะไรต้องตอบสนองทันที แล้วมองว่านี่คือความสุดยอด มองว่ามันเจ๋ง เร่งได้ต้องเร่งไปให้สุด.... ระยะทางจากจุดเริ่มต้นไปถึงปลายทางสถานีรถคามิโคจิ แม้ไม่ไกลแต่เราใช้เวลานาน นานเพราะเราแวะชื่นชมสองข้างทาง ลำธารที่ใส ต้นไม้สูงที่เรียงไล่เป็นระเบียบ มีบางมุมมองที่เห็นยอดเขาขาวของหิมะคงค้างส่องสะท้อนยามต้องแสง มีเวลารำพึงขอบคุณพระเจ้าในสิ่งสร้างเหล่านี้ ในความเรียบง่ายที่ไร้การปรุงแต่งด้วยหลักการ ความสงบร่มเย็นที่ไร้ความเสแสร้งแกล้งทำ นี่คือชีวิตจิตวิญาณที่มนุษย์ควรได้รับการหล่อเลี้ยงบ้างมิใช่หรือ!!!
ในระหว่างเดินตามทางที่หิมะเริ่มละลายจึงจำต้องเพิ่มความระมัดระวังในการเดินไปข้างหน้ามากขึ้น หากมัวแต่เพลิดเพลินเจริญตา อาจจะลื่นล้มลงได้ ทุกหนทางย่อมมีช่วงที่ดีและช่วงที่เป็นอุปสรรค เช่นเดียวกับเราทุกคนต่างมีข้อเสียด้วยกันทั้งนั้นจึงควรอภัยให้แก่กันและกัน  ใครบ้างไม่เคยล้ม ใครบ้างไม่เคยพลาด อภัยจึงเป็นแรงฉุดรั้งให้ลุกเดินหน้าต่อไป ทุกคนล้วนมีข้อดีด้วยเช่นกันควรชื่นชมซึ่งกันและกัน ควรส่งเสริม หาใช่ตั้งแง่ริษยา ดูถูกข้อดีนั้นเสียจนไม่มีดี ทุกคนล้วนมีนิสัยส่วนตัวที่อาจจะไม่เข้าทางเข้าท่าในสายตาเรา ก็ควรที่จะยอมอ่อนข้อให้กัน ความอ่อนน้อมคือสิ่งที่จะช่วยบรรเทาความร้อนร้ายในใจผู้คน ทุกคนล้วนแตกต่างการยอมรับซึ่งกันและกันนำมาซึ่งความเป็นหนึ่งและความเข้มแข็งของชุมชนที่เราอาศัยร่มเงาด้วยกัน  ทุกคนล้วนมีเรื่องทุกข์เศร้าโศกเสียใจ การปลอบโยนรับฟังและให้กำลังใจคือพลังที่จะขับเคลื่อนสังคมให้เดินหน้าอย่างหนักแน่น  และเช่นกันทุกคนล้วนมีช่วงเวลาแห่งความสุข ก็อย่าลืมที่จะแบ่งปันความสุขนั้นให้คนรอบข้าง ความสุขจะได้ทวีขึ้น ทำให้การมีชีวิตอยู่ในโลกของเราเป็นสิ่งที่น่าจดจำ


และแล้วครั้นเมื่อเราถึงปลายทาง มีสะพานไม้คัปปาบาชิที่สวยงามให้เราข้ามลำธารเพื่อกลับมาขึ้นรถกลับที่พัก สะพานที่ทุกคนที่มาเยือนสถานที่นี้ต้องข้ามผ่าน สะพานแห่งนี้มีกี่ร่องรอยเท้าที่ข้ามไป สะพานไม้แห่งนี้ยังทำหน้าที่อย่างมั่นคงอยู่ทุกวี่วัน หลายคนบอกว่าหากมาถึงคามิโคจิแห่งนี้แล้วไม่ข้ามสะพานนี้เหมือนมาไม่ถึง เมื่อข้ามมาแล้วก็เหลือเพียงแค่ความทรงจำ โลกเรานี้ก็เปรียบดังสะพานที่เราต้องข้ามก้าวผ่านไป และสิ่งที่เหลือไว้เป็นเพียงความดีที่ให้ผู้คนได้จดจำ พูดถึงโลกใบนี้ เอาเข้าจริงล้วนไร้ความหมาย เราต่อสู้ดิ้นรนมาทั้งชีวิต แต่ก็เอาอะไรไปไม่ได้ เรายึดมั่นมาทั้งชีวิตล้วนไม่อาจนำอะไรติดตัวไป เมื่อเราเกิดมาอยู่ในโลกนี้แล้ว ไม่ว่าจะยากดีมีจน ล้วนต้องเดินไปให้ถึงจุดหมายสุดท้าย เมื่อตายจากไปตลอดชีวิตของเราล้วนเป็นความว่างเปล่า วันนี้ เวลานี้เท่านั้นที่เราต้องตั้งใจใช้ชีวิต ให้มีความสุขกายสบายใจในทุกลมหายใจ  ร่ำรวยเจริญรุ่งเรืองเท่าไหร่ ชั่วพริบตาเดียว ต่างล้วนจากไป หาประโยชน์ไม่ได้ จงทำดีต่อกันไว้ ให้อภัยต่อกัน มอบรักและสันติสุขแก่กัน หยุด แล้วมองเห็นความดีงามในตัวผู้คนรอบข้างบ้าง อย่าเร่งรัดเดินทางให้เร็วมากนักเพราะอย่างไรเสีย เราก็ต้องถึงจุดหมายนั้นด้วยกันทุกคน และถ้าเราเดินทางไปพร้อมกันด้วยความรัก แม้จะมีใครข้ามฟากฝั่งไปก่อน เราก็ยังเต็มไปด้วยความหวังและความทรงจำที่งดงามเสมอ


“ให้เรารักซึ่งกันและกันเหมือนที่พระองค์ทรงรักเรา” นี่คือสิ่งที่เราควรนำติดตัวไปในทุกช่วงระยะทาง และพร้อมให้อภัยต่อผู้อื่นเสมอโดยไม่มีขีดจำกัด  “ทุกคนก็จะรู้ว่า เราเป็นศิษย์ของพระคริสต์”อย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น: