สร้าง(สันติ)ภาพ
ตอนเกิดมาจะมีสักกี่คนที่จะทำให้ทุกคนรู้จักและรับรู้
เราก็เหมือนกับอีกหลายร้อยล้านคนที่เกิดมาแบบเงียบ ๆ ท่ามกลางความรัก
และความรักนี้เองหล่อหลอมความจริงที่ค่อย ๆ ก่อร่างสร้างตัวตนที่แท้จริงให้แต่ละคนมีคุณค่าขึ้นในวันข้างหน้า
บางคนยังไม่รู้เลยว่าเราเกิดที่ไหน? ที่บ้าน? ที่โรงพยาบาล? ที่อื่น ๆ นี่ก็ไม่สำคัญเท่ากับว่า
เราเกิดมาเพื่ออะไร หลายคนหลงลืมความจริงข้อนี้ไป ทำให้เราเดินหลงทาง
ห่างจากความจริงยิ่งทียิ่งมากขึ้น เมื่อหลงทางเราจึงแสวงหาต้นแบบ
แล้วก็พยายามเลียนแบบเพื่อจะให้มีตัวตน เอาเข้าจริงเราล้วนแล้วแต่มีหนทาง มีสถานะ
มีความพิเศษเป็นของตัวเองที่แตกต่างกัน เพื่อที่จะเอื้อเกื้อกูลกันและกัน
ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่างให้คนที่ไม่รู้จักมายอมรับเรา ต้องเป็นตัวเรา ตัวตนที่แท้จริง
ตัวตนที่มีดี ที่ทำได้ดี ในส่วนที่เรามี ในส่วนที่เราเป็น
ในสังคมสมัยใหม่เรามักจะเห็นการพยายามสร้างเรื่องราว
หรือที่เรียกว่า“ดราม่า” เพื่อเรียกร้องความสนใจ ยิ่งผสมผสานกับการตลาดยุคใหม่ที่เป้าหมายเหมือนเดิม
คือ เพื่อเพิ่มยอดขาย โดยไม่สนใจผลกระทบต่อคนรอบข้าง ต้องให้ตอกให้ย้ำในตัวสินค้า มีการเปิดการสอนในการสร้างเรื่อง
สร้างดราม่า เพื่อให้ได้มาซึ่งยอด สร้างช่องทาง ทำทุกอย่างให้ปังให้ดังให้เด่น บางคนพยายามหนักมาก จนลืมว่าตัวเองเป็นใคร เป้าหมายจริง
ๆ คืออะไร? หลงไปกับชื่อเสียงลวง ๆ หลงไปกับยอดไลค์จอมปลอม หลงไปกับคำชื่นชมลมลวง พยายามสร้างตัวตนให้คนเห็นภาพความหรูหรา
ให้คนเห็นวิถีชีวิตที่แสนสุข สนุกสนาน สบาย ๆ
สร้างเครดิตให้ดูดีในโลกออนไลน์ แต่ชีวิตจริงเชื่อถือได้หรือเปล่าไม่รู้!!! ในขณะที่เรายังไม่ค่อยจะเชื่อเพื่อนของเราที่เรารู้จักเป็นอย่างดี
เห็นเขาสร้างเรื่องราวสวยงามในโลกเสมือนจริง แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้น
แล้วกับผู้คนอีกหลายต่อหลายคนที่สร้างตัวตนขึ้นมาล่ะ เราจะไม่เชื่อเชียวหรือ ต่อให้
“เนียน” แค่ไหน เราก็สัมผัสได้ คนอื่นก็ต้องคิดกับเราเช่นกัน
ในวันที่เราใส่สร้างภาพปลอม ๆ
ในโลกเสมือนจริงของปลอมมีมากมาย
ข่าวลวงข่าวลือมีก่ายกอง
นับวันเรายิ่งเห็นของปลอมถูกตีแผ่ ถูกจับได้ไล่ทัน
แต่ก็ไม่วายที่ยังมีคนที่จะสร้างสิ่งปลอม ที่สำเร็จรูปขึ้นมาอยู่ทุกวัน หากเราไม่หลอกตัวเองและถามว่าของ “ปลอม!”
นั้นดูออกไหม ใครจริง หรือ ปลอม ในโลกออนไลน์ ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป
เรามิอาจจะปฎิเสธได้ว่าโลกแห่งการสื่อสารพัฒนามาไกล แต่ไฉนความจริงยิ่งถูกทิ้งไว้กลางทางให้ห่างไกลออกไปเรื่อย
ๆ และความสุขในชีวิตผู้คนที่มีแต่สิ่งปลอม ๆ มีแต่การสร้างเรื่องเศร้าเล่าความเท็จกันไปมาจะหาเจอกันหรือไม่
ท่ามกลางความเงียบย่อมมีความสงบ ชีวิตเรียบง่ายนำมาซึ่งความสันติ และสำคัญกว่าความ
“ฉาบฉวย” ในโซเชียล
เราต้องทำให้ชีวิตของเราอยู่บนความเป็นจริง
อย่าแกล้งทำเป็นชีวิตดี ทั้ง ๆ ที่ความจริงแล้วมีแต่ความทุกข์ มีแต่ความไม่ดีไม่งามในจิตใจ
ต้องขจัดอคติเหล่านี้ทิ้ง เอาเวลาที่สร้างภาพมาทำตัวเองให้มีสันติภาพ มีคุณค่าในโลกแห่งความเป็นจริงกันดีกว่า
แล้วเราจะสร้างโลกแบบนี้ได้อย่างไร?อันดับแรกต้องสร้างด้วยตัวเองก่อน
ต้องพยายามค้นพบความเป็นเรา แล้วค่อย ๆ เรียนรู้สิ่งรอบกาย ไม่ไปตื่นเต้น
ตื่นตูม ตื่นตามสิ่งที่แย่ ๆ ที่เข้ามาในชีวิต อย่าหัวร้อนหัวเร็ว อดทนเพิ่มไปอีกนิด
มีที่ว่างเพิ่มไปอีกสักหน่อย อย่าด่วนในการตัดสิน
เพราะความเร็วนำมาซึ่งอันตรายเสมอ รู้จักผ่อนหนักให้กลายเป็นเบา
แล้วเราจะพบกับเหตุผลว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตเรานั้นมีที่มาที่ไปอย่างไร
สิ่งที่เกิดขึ้นกับคนรอบตัวเรานั้นมาจากสิ่งใด หยุดเพื่อให้จิตใจเราได้พักฟื้น
แค่พักสักนิดสันติก็เกิดขึ้น คุยกับตัวเองบ้างในบางครั้ง
ไม่ใช่ระบายทุกสิ่งที่คิดให้คนทั่วไปได้รับรู้
ความจริงเท่านั้นที่จะทำให้เรื่องราวที่สร้างขึ้นในโลกเสมือนจริงลดหายไปได้
เราต้องมีปรีชาญาณในการแสวงหาความจริง
อาศัยพระจิตเจ้าพินิจพิจารณาต่อข่าวต่อเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาทุกวัน ใช้ความสงบภายในสยบความเคลื่อนไหวภายนอก
มองให้ทะลุในทุกมุม ทุกมิติ มองมุมเขามุมเรา มุมชาวบ้าน มุมมืด มุมสว่าง ก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรออกไป
สิ่งเหล่านี้จะเกิดได้ก็ต้องฝึกฝนการไต่ตรอง
ยิ่งฝึกฝนมากยิ่งมีภาวะรับรู้ต่อสิ่งต่าง ๆ ได้ง่าย ไม่เชื่อต้องเริ่มฝึกฝนกันดู เริ่มจากไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่องที่เกิดขึ้น
รับรู้เพียงผ่านๆ ในบางเรื่อง นำเรื่องที่จะมีผลกับวิถีชีวิตมาศึกษาหาความจริง
บางทีเราจะพบความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้น ยิ่งเมื่อเราเห็นสิ่งไม่ดีไม่งามเกิดขึ้น เราก็ไม่จำเป็นต้องไปวิพากษ์ด้วยคำพูดที่หยาบคาย
เราไม่จำเป็นต้องใส่อารมณ์ลงในคำพูดคำจา สันติสุขมันสร้างไม่ยากเลยใช่ไหม...
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกล้วนแล้วเป็นสิ่งที่ดี
บนโลกมีความงดงามมากมาย โลกที่กว้าง
โลกที่ลึก โลกที่เพียบพร้อม โลกนี้น่าอยู่ อย่าใช้โลกนี้เพียงภาพที่ปรากฏ แต่เราต้องใช้โลกนี้ในด้านที่งดงามต่อกัน
การสร้างภาพในโลกเสมือนจริงเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยากนัก แต่ความยั่งยืนนั้นไม่คงทน
การสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นภายในชีวิตของเราแต่ละคนต่างหากที่จะนำพาความสุขมอบให้แก่กันและกัน
สร้างสิ่งดี สิ่งที่งดงามให้เกิดขึ้นในโลกยุคปัจจุบันด้วยหัวใจแห่งรักและเมตตา
จะนำพาสันติสุขมาสู่โลกในวันนี้ เราเกิดมาเพื่อสร้างคุณงามความดี
หาใช่มาเป็นภาระต่อกัน เราเกิดมาเพื่อกันและกันหาใช่เกิดมาเพื่อแก่งแย่งกัน
เราเกิดมาเพื่อสร้างสันติภาพ หาใช่เกิดมาเพื่อสร้างภาพไปวัน ๆ
พระกุมารแห่งสันติสุขได้ทรงบังเกิดมาแล้ว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น