หลอมรวมตัวตน
ในช่วงเวลาหยุดพักผ่อน
มีโอกาสได้ไปนอนเล่น อ่านหนังสือ ฟังเสียงคลื่นลม
มองดูพื้นน้ำและแผ่นฟ้าที่ไปจรดร่วมกันยังปลายสายตาที่มองเห็น ณ
ริมชายหาดบ้านเพชรสำราญ หัวหิน ในวันธรรมดา ๆ แบบนี้มีผู้คนนักท่องเที่ยวบางตา
เดินผ่านไปมา ดูเหมือนราวกับว่ากำลังนั่งชมภาพยนตร์จอใหญ่อยู่อย่างไงอย่างงั้น
แม้ไม่มีเรื่องงราว แต่มีความหรรษาจากคนขี่ม้าที่วิ่งไปมา
แม้ไม่มีเสียงดนตรีที่ตื่นเต้นเร้าใจ มีเพียงเสียงคลื่นซัดสาด
แม้ไม่มีพระเอกนางเอก มีเพียงคนที่เอกเขนกตากแดดลมบนแผ่นทรายสวยงาม
แม้ไม่มีการไล่ล่าเอาเป็นเอาตาย มีเพียงนักเล่นกระดานโต้คลื่นโฉบเฉี่ยวไปมา
แม้ไม่มีฉากเรียกน้ำตา มีเพียงลุงป้าขายข้าวและบริการอย่างดีด้วยไมตรีจิต
มีเวลานั่งคิดนอนรำพึงถึงวันเวลา และความสำคัญของการมีชีวิตในยุคปัจจุบัน
ยิ่งนึกย้อนกลับไปเมื่อตอนก่อนที่จะมาถึงที่พัก
ณ ตรงนี้ ได้แวะเที่ยวชมความงามธรรมชาติที่ “อุทยานหินเขางู” เป็นอุทยานหิน
สวนป่า ห่างจากตัวจังหวัดราชบุรีประมาณ 8
กิโลเมตร แต่เดิมเป็นแหล่งระเบิดและย่อยหินที่สำคัญของประเทศไทยตั้งแต่สมัยต้นรัตนโกสินทร์เลยทีเดียว
เพราะเป็นที่ที่มีปูนที่มีคุณภาพดี ต่อมาทางภาครัฐเล็งเห็นถึงความเสื่อมโทรมของสภาพภูมิประเทศ
และวิวทิวทัศน์บริเวณนี้ จึงได้มีการยกเลิกสัมปทานการระเบิดและย่อยหินไปเสีย
หลังจากยกเลิกสัมปทาน เขางูก็กลายเป็นเหมืองร้าง มีสภาพทรุดโทรม
ทางจังหวัดราชบุรีจึงได้พัฒนาเขางูให้เป็นสวนสาธารณะและสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดี วิวสวย
ๆ ของธรรมชาติ ทะเลสาบที่ตั้งอยู่กลางหุบเขา ยังคงเป็นสถานที่สะอาดบริสุทธิ์
ยามเมื่อได้มายืนอยู่เบื้องหน้าภูเขาที่ถูกทลายลง
ใจยิ่งคิดว่าจะมีความยิ่งใหญ่อันใดคงทนทาน ต้านต่อความโลภมากของผู้คนไปได้
แต่ภูเขาก็ยังเป็นภูเขา ที่ยังยืนยงคงทนอย่างหนักแน่น บางทีชีวิตเราก็ไม่จำเป็นต้องเป็นคนยิ่งใหญ่
ขอแค่มีความมั่นคงทนทาน เราก็ยืนสง่างามอย่างไม่หวั่นไหว อย่างภาคภูมิใจได้ น้ำใสในทะเลสาบเบื้องหน้าภูเขายิ่งบอกเราว่าการเป็นน้ำนิ่งใส
จะงดงามกว่าเป็นสายน้ำที่ไหลเชี่ยวกราก
กวาดทุกสิ่งที่ขวางกั้น ยิ่งมองภาพเงาสะท้อนในแผ่นน้ำนั้นมันยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า
โลกเราวันนี้ต่างตกอยู่ในกระแสธารแห่งความลุ่มหลง ทั้งแบบจำยอมและแบบไม่รู้ตัว
เรากำลังสร้างวัฒนธรรมต้องเด่น ต้องดัง ต้องรวย ต้องสวย ต้องมีตัวตน
โดยอาศัยเครื่องมือที่รองรับตัวตนจอมปลอม แล้วเราก็หลงใหลไปกับภาพเงานั้น
หลงไปกับความสวยที่ถูกเติมแต่ง ใช่หรือไม่
เราคือกรวดทรายที่พยายามตะกายขึ้นเทียบเท่ากับขุนเขา ต่างคนต่างสร้างภาพ
ต่างคนต่างหวังพื้นที่ยึดครอง มีเพียงสิ่งเดียวที่ดูจะคล้ายคลึงกัน
คือการวิจารณ์ว่ากล่าวคนอื่นอย่างไร้เมตตาและความรับผิดชอบ
ในวันที่เรามีเพื่อนมากมายผ่านสายใยแก้ว ให้เราติดตามมากกว่าเพื่อนสายใยเกลอเก่าที่เจอะเจอกันนาน
ๆ ครั้ง และแถมยังหลงเหลืออยู่ไม่กี่คน
ในวันที่เราไม่กล้าจะสบตาใครได้อย่างจริงจังในขณะที่พูดคุยกัน!!! ในวันที่เราเสพติดการเปิดหน้าจอแต่กลับปิดใจ
ไม่ยอมรับรู้ความรู้สึกของคนข้างกาย ของคนร่วมชายคา
เรากลับถึงบ้านแต่เหมือนเรากำลังออกนอกบ้านด้วยการพูดคุยแบบไร้เสียงกับเพื่อนร่วมกลุ่มในแอพปริเคชั่นไลน์
ปล่อยคนในบ้านล่องลอยเหมือนอากาศธาตุ การพูดคุยต่อกันแทบไม่มี
กว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจตอบกลับรับคำชมจากทุกทิศทาง
เวลาก็ผ่านไปจนดึกดื่นตื่นมายังรีบไขว่คว้าหาทางเปิดเพื่อรับคำทักทาย คนข้างกายเพียงเห็นยังหายใจอยู่ดูแล้วว่าโอเค..!!!
ดูเหมือนคนส่วนมากกำลังตกเป็นทาสสิ่งที่เราสร้างขึ้นมา
แทนที่เราจะเป็นนายเหนือสิ่งเหล่านั้นจากสิ่งที่เราแสดงออก คือ
ข้อมูลชั้นยอดของเราจะถูกเก็บไปวิเคราะห์และขายต่อ
ล่อให้เกิดความโลภและพยายามกระตุ้นต่อมความอยากได้ของเราในทุกเวลายามเปิดหน้าจอ ใช่หรือไม่
โลกของผู้คนวันนี้คือโลกที่เราสนใจเพียงตัวเรา แค่รูปลักษณ์และโปรโมทตัวเอง
สร้างตัวตนจนคิดว่าเราคือดารานักแสดงนำ อุต๊ะ!!!
สร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ด้วยการสร้างกระแสโดยไม่สนใจถึงคำว่า “คุณงามความดี จริยธรรม คุณธรรม”
เด็กวัยรุ่นยุคใหม่ไม่ใส่ใจใด ๆ ทั้งสิ้น คุณค่าทางเรือนร่างคือสินค้า หน้าขาว ๆ
ใส ๆ เป็นใบรับประกันขายของ ในโลกที่เต็มไปด้วยความสวยแต่ไร้ความงามด้านอารมณ์ศัลยกรรมราคาถูก
สารเคมีปรุงแต่งเปลี่ยนสีผิวสีหน้าและเปลี่ยนนิสัย
ทัศคติให้กลายเป็นคนยึดติดกับวัตถุ
เราตบแต่งเสริมเติมด้วยถ้อยคำที่เลิศท่ามกลางความโดดเดี่ยว เที่ยวหาเพื่อนคบแบบไร้ตัวตน
“อยู่คนเดียวไม่เป็น”กำลังกลายเป็นโรคระบาดชนิดใหม่ โลกที่ทุกคนกลายเป็นเพียงหุ่นยนต์ และดูเหมือนมีเครื่องมือที่จะนำพาให้เรารู้ทุกเรื่อง
แต่เรากลับโง่งมลง
เงยหน้าขึ้นจากสิ่งประดิษฐ์แล้วปิดมันลงบ้าง
วันเวลานั้นแสนสั้นนัก ออกมาจากโลกที่ได้เห็นภาพหน้าสวย ๆ แต่ไม่เคยเห็นตัวจริง
ที่ที่มีเพียงอักษรแทนคำพูด ที่ที่เราอยู่ร่วมกันแต่ขาดการมองหน้าสบตา
อย่าให้ชีวิตของเราไหลไปตามกระแสนี้ จงชื่นชมความจริงใจไม่ใช่ดีใจแค่ยอดกดไลค์
ออกไปมองดูโลกกว้าง เราจะเห็นชีวิตผู้คนที่เป็นของจริง เห็นธรรมชาติที่งดงาม
ได้สูดลมชมคลื่นรื่นเริงในสายน้ำ สิ่งเหล่านี้จะหลอมรวมให้เรามีความสุขที่แท้จริง
มีวันเวลาได้พูดคุย ได้ปรึกษาหารือ ให้กำลังใจกัน ใครจะรู้ว่าวันนี้คนข้าง ๆ เรากำลังต้องการใครสักคน
เพื่อพยุงให้เขายืนขึ้นเดินไปพร้อมกับเรา มาช่วยกันหลอมตัวตน หลอมจิตใจ จิตวิญญาณให้เป็นหนึ่งเดียว
และยึดโยงสายสัมพันธ์ของผู้คนด้วยความรักและมีเมตตา
“จงปรับปรุงตนให้ดีพร้อม จงให้กำลังใจกัน จงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
จงดำเนินชีวิตอย่างสันติ แล้วพระเจ้าแห่งความรักและสันติจะสถิตกับท่าน”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น