วันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2560

ไม่มีผังก็พัง

ไม่มีผังก็พัง
ในขณะขับรถกลับเข้าเมืองหลวง บนถนนพระรามสอง ฝนเทลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา ไม่นานสภาพการจราจรจากที่คล่องตัว ก็กลายเป็นค่อย ๆ คืบคลาน และยิ่งช้าลง ๆ จนมาถึงจุดที่ความสงสัยทั้งหลายหายไป ว่าเกิดอะไรขึ้น??? น้ำท่วมนั่นเอง ท่วมถนนไปถึงสองเลนครึ่ง วิ่งได้จริง ๆ แค่ครึ่งเลน ไหนจะน้ำจากเบื้องบนเทลงมา ไหนจะน้ำจากเบื้องล่าง ที่ต้องขับไปคะเนไปว่าสูงแค่ไหน น้ำจะเข้าเครื่องทำให้รถกลายเป็นเรือหรือไม่!!! เป็นการขับรถที่ต้องมีสมาธิและสติอย่างสูงเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อเลยว่าถนนจะกลายเป็นลำคลองไปได้ ในระยะช่วงหลังๆมานี่ สังเกตว่าพอฝนตกลงมาทีไร ในหลายจุดของกรุงเทพฯและในตัวเมืองใหญ่ ๆ มีอันต้องเจอกับปัญหาน้ำท่วม น้ำล้นน้ำนอง บนถนนหนทาง และยิ่งถ้าตกในเวลาเลิกงานพอดีไม่ต้องคิดเลย จากรถราที่เคยติดอยู่แล้วยิ่งติดหนึบหนับเข้าไปอีก ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ เพราะฝนตกเยอะไป มากไปหรือ???



 ยิ่งเห็นภาพข่าวที่ขยะมากหน้าหลายชนิดไปปิดท่อ ปิดทางระบายน้ำ ก็เกิดคำถามขึ้นในใจว่า วินัยคนเราหายไปไหนหมด (ถามตัวเองด้วย) จากที่เราเคยได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กแต่เล็กให้รู้จักทิ้งขยะให้เป็นที่เป็นทาง ให้รู้จักที่จะช่วยกันเก็บขยะให้ลงถัง เอาเข้าจริงวัฒนธรรมเหล่านี้มันหดหายไป ใครที่ก้มลงเก็บขยะข้างทาง ใครที่พยายามเก็บกวาดในพื้นที่ที่ไม่ใช่ของตัวเอง มักจะกลายเป็นคนแปลกในสายตาสาธารณชนคนเมืองไปทันที ยิ่งเมื่อเราต้องอยู่ในสังคมที่รีบเร่ง รวบรัดเกินไปแบบนี้ ยิ่งทำให้เราเกิดความเห็นแก่ตัวและมักง่าย ไม่สนใจคนอื่น เราคิดแต่เพียงเราคนเดียว แต่ไม่เคยคิดถึงผลของการกระทำต่อสิ่งรอบข้าง เช่นนี้แล้ว ผลที่เกิดขึ้นก็ต้องกลับมากระทบต่อตัวเราด้วยวันยังค่ำ นี่แค่เรื่องการทิ้งขยะสิ่งไม่จำเป็น (ไม่จำเป็นเยอะมาก) แบบมักง่าย มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ เป็นสิ่งที่นำปัญหามาสู่เราในวันที่ฝนกระหน่ำ เราต้องกลับมาฟื้นวินัยเล็ก ๆ น้อย ๆ  ฟื้นบรรยากาศแห่งการรู้จักทิ้งสิ่งของที่เกินความจำเป็นจริง ๆ ให้เป็นที่เป็นทาง ไม่ใช่มัวแต่รอให้ใครคนใดคนหนึ่งมารับผิดชอบจากการกระทำของพวกเรา
 และจากข่าวที่ปรากฏ ก็พบว่าเริ่มมีพื้นที่น้ำท่วมระบายไม่ทันจากที่เดิม ๆ  แล้วน้ำท่วมยังเกิดขึ้นในที่ใหม่ ๆ หลายจุด ใช่หรือไม่ว่า นอกจากสาเหตุมาจากขยะอุดตันท่อน้ำที่มาจากความเห็นแก่ได้แล้ว ยังมีสาเหตุหลักที่นำมาซึ่งน้ำไม่มีทางไป ในวันที่น้องน้ำอยากมาแวะมาชมเมืองหลวงเลยต้องค้างคืน ค้างท่อ คือการจัดผังเมือง ที่เอาเรื่องผลประโยชน์ของตนเหนือกฎเกณฑ์ เรานับถือความเจริญกันที่มีตึกรามบ้านช่อง ไม่สนใจคูคลองหนองบึง เราอยากได้ที่ราบโดยถมที่ลุ่มเพื่อปลูกสร้างตึกอาคาร ทางน้ำจึงถูกปิด เราคิดกันว่าถนนจะนำความสะดวกสบายมาให้ก็ตัดทางโดยไม่ได้ศึกษาภูมิศาสตร์ทางน้ำให้ดีเสียก่อน เราหลงลืมว่าเมืองเราอยู่กับน้ำแต่ผังเมืองไม่มีเรื่องการรับน้ำและที่สำคัญดันไปรื้อถอนสิ่งที่คนรุ่นเก่าก่อนสร้างขึ้นมาด้วยภูมิปัญญา วันนี้เราไปเปลี่ยนจากระบบระบายน้ำในเมืองจากคลองธรรมชาติมาสู่ระบบท่อ ซึ่งไม่เพียงพอต่อการระบายน้ำและยังมีปัญหาการอุดตัน (เพราะไม่มีใครมองเห็นขยะ) มีการสร้างถนนในลักษณะที่กีดขวางทิศทางการไหลของน้ำ ในสมัยก่อนการสร้างถนนจะสร้างขนานไปกับสายน้ำ ตรงไหนร่องแม่น้ำโค้งถนนก็จะโค้งตามกันไป และมีคูคลองควบคู่เพื่อการระบายในฤดูน้ำหลาก



ในวันที่เราสร้างเมืองกันด้วยผลประโยชน์ส่วนตนและความเจริญภาคอุตสาหกรรมเป็นหลัก กฎหมาย “ผังเมืองเฉพาะ Zoning Ordinance” เพิ่งจะเริ่มมีออกมาใช้แต่ก็ยังไม่ค่อยมีการกำหนดให้ชัด ไม่ต้องอะไรมาก แค่เรื่องระดับความสูงของที่ดินที่ถมสูงเกิดปัญหาต่างคนต่างถมที่ตัวเองให้สูง จนเกิดปัญหาน้ำไปท่วมที่อื่นที่ไม่ได้ถม ซึ่งจะทำให้เป็นปัญหาวัวพันหลัก เราก็เพียงแต่หวังว่า สักวันประเทศชาติของเราจะช่วยกันจัดสรรผังเมืองให้ดีขึ้น โดยที่ไม่ใช่ใครอยากทำอะไรก็ทำ ใครมีเงินทำอะไรก็ได้ที่อยากทำได้ ไม่เช่นนั้นสิ่งที่เราสร้าง ๆ กันมาไม่นานก็พังเพราะไม่มีผังที่ชัดเจน
กับชีวิตเราก็เหมือนกัน หากเราไม่รู้จักวางผังฝังปลูกความงามลงไป เราก็มักพบเจอแต่เรื่องที่ไม่เข้าท่า และอาจจะพลาดท่าได้บ่อย ๆ ความทุกข์จะเข้าท่วมท้น ใช่หรือไม่ ในยุคที่เราต้องมี ต้องรวย ต้องสวย ต้องเด่นต้องดัง ปังในทุกเรื่อง ปันไม่ต้องก็ได้ หลายคนมีแผน ผัง ในการดำเนินชีวิต แต่เป็นผังที่แฝงฝังไปด้วยความอยากได้มากกว่าการอยากให้ มีบ้างบางคนวางผังเพื่อเป้าหมายสู่ความสำเร็จอย่างงดงาม แต่เมื่อถูกสิ่งแวดล้อม ถูกความยากลำบาก ถูกมรสุม พายุ เข้าใส่ ผังที่ทำไว้ก็พังคลืนลง บางคนมีผังแต่ก็ถูกกระแสค่านิยมสมัยใหม่ทำให้ผังนั้นพังลง เพราะความแข็งแกร่งทางด้านจิตวิญญาณอ่อนล้า พ่ายแพ้ให้กับกิเลส ก่อให้เกิดขยะสิ่งปฏิกูลหนาแน่นขัดขวางทางเจริญเติบโตของชีวิตฝ่ายจิต บางคนมีผังไว้เป็นผนังกีดกั้นผู้อื่นไม่ให้เข้ามาข้องเกี่ยว และไม่ก้าวออกจากผังเพื่อมีส่วนร่วมกับผู้คนรอบข้าง แม้ผังของชีวิตวางไว้อย่างดีแต่ถ้าไม่ได้ก่อเกิดประโยชน์ ก็ไร้ค่า การดำเนินชีวิตของเราวันนี้ไม่ง่ายและไม่ยากเกินไป เพียงแค่เราต้องรู้จักฟังเสียงภายใน เพื่อให้นำทางและเดินไปสู่หนทางแห่งความดี ตามผังที่พระจัดเตรียมไว้ให้เราแต่ละคน
และ... ถ้าเราแต่ละคนรู้จักที่จะจัดวางทางเดินชีวิตตามวิถีแห่งความดี ด้วยการลดละความเห็นแก่ได้แก่ตัวลงไปบ้าง ลดความริษยาอาฆาตแค้นเคืองกันบ้าง มีเมตตาเสมอ อย่าให้ขยะแห่งทุกข์ต้องมาปิดท่อธารแห่งการให้อภัย และรู้จักที่จะทำหน้าที่ภารกิจในหนทางประจำวันอย่างดี อย่างมีความรับผิดชอบ เราก็จะพบเจอความสุขสันติ ในความแตกต่าง หากรู้จักจัดวางย่อมเกิดความงาม ฉันใดก็ฉันนั้น ทุกผู้คนมีความต่าง และมีความงามในนามตัวตนอยู่แล้ว เมื่อมาอยู่รวมกันยิ่งก่อเกิดความงามยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก และจะกลายเป็นความเข้มแข็งที่ยืนหยัดต่อสู้กับมรสุมร้ายได้อย่างปลอดภัยไปด้วยกัน แม้ร่างกายเป็นร่างกายเดียว แต่ก็มีอวัยวะหลายส่วน



ไม่มีความคิดเห็น: