ตัวตนคนจริง
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
คนกรุงเทพฯ ได้มีห้วงเวลาที่อาศัยอยู่ร่วมกันบนท้องถนนมากที่สุด
เป็นเทศกาลแห่งการถูกเท ฝนกระหน่ำหลายชั่วโมง น้ำท่วม
ถนนกลายเป็นคลองเพื่อให้เม็ดฝนรวมพลังก่อเป็นมวลน้ำได้ไหลผ่าน
เราจึงจำต้องรอกันอยู่ในรถ เรือเท่านั้นถึงจะกลมกลืนกับน้องน้ำ
นำความทุกข์ความเครียดมาสู่มหาชนในมหานครแห่งนี้
หลายคนก็บ่นถามหาว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไรบางคนถึงขั้นอวดอ้างทางแก้ไขปัญหาโดยหลงลืมว่าแท้จริงแล้ววิกฤตการณ์นี้เกิดขึ้นจากเหตุใดกันแน่!!!
ใช่หรือไม่ วิกฤตต่างๆ ที่เรากำลังเผชิญอยู่ทุกวันนี้ ไม่ว่าปัญหาสิ่งแวดล้อม
การทำลายทรัพยากร ปัญหาความเครียด ความทุกข์ ล้วนมีรากเหง้ามาจากวิกฤตการณ์ทางจิตวิญญาณ
หรือพูดอีกแง่หนึ่งคือ มีสาเหตุมาจากปัญหา “ตัวตน”
ภาพ : https://encrypted-tbn3.gstatic.com |
แน่ละ..มนุษย์เราเปาะบางเกินกว่าที่จะอยู่เพียงลำพังได้
ต้องอาศัยการยอมรับจากคนรอบข้าง เพื่อสร้างความมั่นใจ มีความรู้สึกดีกับตัวเอง แต่...ในบางครั้ง
กับบางคนต้องการมี “ตัวตน” และเป็นที่ยอมรับ ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วตัวตนของเขาเป็นเพียงคนธรรมดา
ๆ จึงจำเป็นต้องสร้าง “ตัวตน” อีกแบบหนึ่งขึ้นมา
จนในบางครั้งเขาเหล่านั้นอาจไม่แน่ใจว่าสิ่งใดคือ “ตัวตน” ที่แท้จริงของเขา
คนเหล่านี้หลงลืมรากฐาน ลืมว่าพระพรของแต่ละคนย่อมมีแตกต่าง
เพื่อสร้างความสวยงามให้กับโลก
และที่สุดหลงลืมที่จะขอบคุณในความเป็นตัวเอง ทำตัวเสมือนคนที่วิ่งหนีเงาตัวเอง
วิ่งนี้เท่าไรก็มิอาจจะจากกันได้ ยอมรับในสิ่งที่มี ขอบคุณในสิ่งที่เป็น
ภาพ : http://www.bloggang.com /data/praewkwun/picture/1190012573.jpg |
ลองกลับมามองย้อนแล้วฉุดรั้งตัวตนที่แท้จริงของเราให้กลับคืนมา
“เป็นเราแบบที่เราเป็น” อย่าให้ความเชื่อใหม่ๆ กระแสนิยมใหม่ๆ ทำให้ตัวตนที่แท้จริงของเราหายไป
ให้จิตวิญญาณเดิมของเราเป็นฐาน แล้วสร้างยอดขึ้นไปอย่างมั่นคงด้วยศรัทธา คนเรานั่นหน่ะไม่สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้โดยการเป็นแบบคนอื่น
คนทุกคนมีความเป็นตัวเองอยู่แล้ว พัฒนาตัวเองในระดับจิตวิญญาณ และไม่ต้องไปใส่ใจกับตัวตนระดับความคิดและการกระทำมากนัก
เพราะความเชื่อและจิตวิญญาณจะนำพาเราไปเองอาจจะไม่เห็นผลในระยะสั้น
เพราะตัวตนที่แท้จริงและมั่นคงต้องมาจากการสร้างฐานด้วยกาลเวลาและความคงเส้นคงวา
เคารพในการกระทำ ซื่อสัตย์ในภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
การสร้างตัวตนใหม่
เพื่อเรียกร้องความสนใจ ด้วยวัตถุปัจจัยภายนอกนั้นหาได้ยั่งยืนไม่ เป็นเพียงภาพลักษณ์ ไม่คงทนและล้าสมัยง่าย
วัตถุและสิ่งประดับภายนอกจึงไม่สามารถให้ความพึงพอใจได้อย่างแท้จริง
เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงตัวตนได้อย่างแท้จริงด้วยการแสดงออกให้คนเห็น
หากต้องอาศัยการปฏิบัติอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ “ตัวตนอันแท้จริง” มาจากการฝึกฝนให้มีความสามารถและคุณธรรม
ที่สำคัญก็คือการแก้ปัญหาตัวตนที่ได้ผลอย่างแท้จริงมิได้อยู่ที่การแสวงหาตัวตนใหม่ที่ดีกว่าเดิม
หากอยู่ที่การก้าวพ้นจากเรื่องของตัวตน สละตัวตนโดยตระหนักเสมอว่าเราก็เพียงสิ่งเล็ก
ๆ ที่มีตัวตนบนโลกนี้ชั่วคราว ตัวตนที่ไม่หลงลืมตนนั้นคือวิถีแห่งคนจริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น