ปลายฝัน วันคืนที่กลืนหาย
ยามเย็นความมืดเข้าปกคลุมไปทั่วในช่วงเวลานี้
นี่คงจะเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฤดูหนาวกำลังจะมา
แต่ความหนาวเย็นก็ไม่เห็นจะมาตรงตามเวลากำหนดของฤดูกาล ที่นับวันยิ่งจะเกิดการเปลี่ยนไป
บางวันยังคงแดดจัดร้อนจ้า แต่ความมืดก็ยังมาเยือนเราเร็วขึ้นอยู่ดี
นั่นคงมิได้หมายถึงการแจ้งเตือนของฤดูกาลอย่างเดียว การมาของความมืดที่มาเร็วและจากลาอย่างอ้อยอิ่งนิ่งนานนี้
เป็นเครื่องเตือนให้เราได้รู้ว่า จวนจะครบรอบวนของวงปีแล้ว เป็นช่วงเวลาที่เราควรใช้เวลาในความมืดของสนธยาเวลาค่ำคืน
ได้ไตร่ตรองถึงหนึ่งรอบปีที่ผ่านมา
ในหลายครั้งต้นปีเรามักมีความตั้งใจจะทำสิ่งนั้นสิ่งนี้
ตั้งใจจะปรับจะเปลี่ยนพฤติกรรมนี่นั่น จะสร้างคุณงามความดี
เป็นเหมือนความฝันใฝ่ในขวบปี มาวันนี้วันที่ใกล้ลาลับนับรอบปี
เราได้ทำตามสิ่งที่ตั้งใจ สิ่งที่ฝันไว้ได้บ้างหรือเปล่า เรากำลังมาถึงซึ่งปลายฝัน
วันคืนที่ผ่านมาความฝันนั้นพลันกลืนหายไปในเส้นทางชีวิตเราหรือไม่
เวลาเช่นนี้ที่มีกลางคืนยาวกว่ากลางวัน เป็นโอกาสที่ดีที่เราจะพลิกฟื้นคืนความฝันและมุ่งมั่นทำให้เป็นจริง
แม้แค่อีกเดือนกว่า ๆ สำหรับความฝันที่ดีที่งดงาม ย่อมไม่เป็นเชลยต่อวันเวลา
แต่กลับเป็นความอิสระที่จะกระทำได้ทุกเมื่อเชื่อวัน
ขอเพียงแค่เราต้องไม่ละทิ้งความฝันอันสูงสุดในความงามของชีวิตเรานี้
ดังเช่นทากน้อยในนิทานเรื่องนี้
ฉันคือทากน้อยที่มีความสุขที่สุด ทุกเช้า
ฉันจะได้ลิ้มรสน้ำค้างอันหอมหวานบนยอดหญ้า
นี่คือของขวัญอันยอดเยี่ยมที่พระเจ้าได้มอบให้แก่ฉัน
คุณว่าฉันสมควรมีความสุขไหมล่ะ?และแล้ววันหนึ่ง พระเจ้าก็ทรงบอกแก่ฉันว่า
“ณ
ดินแดนไกลโพ้นมีทะเล แต่ไม่เคยมีทากตัวใดเคยเห็นทะเลมาก่อนแม้แต่เพียงสักตัวเดียว
การได้เห็นทะเลคือความฝันของทากทุกตัว”
ฉันถามพระเจ้าว่า
“ในเมื่อทากตัวอื่น ๆ ต่างก็ไม่เคยเห็นและไม่เคยทำได้
แล้วลูกจะทำได้อย่างไร? แล้วลูกจะได้เห็นทะเลไหม?”
พระเจ้าตรัสตอบฉันว่า
“ทากน้อยเอ๋ย มหาสมุทรอยู่ไกลเกินไป ไม่มีทากตัวใดทำได้หรอก”
“ลูกไม่เชื่อ
ในเมื่อทะเลมีอยู่จริง ทะเลคือความฝันของลูก ลูกจะขอเดินตามความฝัน”
พระเจ้าผู้ทรงเมตตาได้กำชับฉันว่า
“การตัดสินใจทำว่ายาก การยืนหยัดในสิ่งที่ทำยากยิ่งกว่า
และที่ยากยิ่งกว่าการยืนหยัดก็คือการบรรลุสู่จุดหมายที่ตั้งไว้ ทากน้อยเอ๋ย
ข้าอวยพรให้เจ้าสำเร็จดั่งใจเจ้าหวังเถิด”
ในวันที่ฉันตัดสินใจออกเดินทาง
ฉันได้พบเจอกับเพื่อนทากจำนวนมากที่กำลังหันหลังกลับจากการเดินทางตามหาความฝัน
พวกเขาบอกฉันว่า “มันเป็นเพียงความฝัน มันไม่อาจเป็นจริง เราคือทาก!”
และแล้วฉันก็ได้พบกับเต่าชราผู้อารี
ท่านผู้เฒ่าเต่าได้บอกกับฉันว่า “เจ้าทากน้อยเอ๋ย เจ้าจงกลับไปยังถิ่นที่เจ้ามาเถิด
ต่อให้เจ้าเดินทางทั้งชาติเจ้าก็ไม่อาจได้พบเห็นทะเลดอก
เจ้าจะเอาชีวิตไปทิ้งขว้างเปล่า ๆ
มีเพียงสิ่งเดียวที่จะทำให้เจ้าทำฝันให้เป็นจริงได้ นั่นคือ อย่าละทิ้งความตั้งใจของเจ้า”
ฉันเพิ่งเข้าใจว่าอุปสรรคที่กีดขวางไม่ให้ฉันไปถึงจุดหมายนั้นมิได้มีเพียงหนทางที่แสนยาวไกล
มันยังมีคำพูดของคนหวังดีที่อยู่รอบข้างที่ฉันได้พบเจอ พวกเขามักจะบอกกับฉันว่า “อย่าเลย
มันยากเกินไปสำหรับเธอ!”
แต่ฉันตัดสินใจเลือกแล้ว
ฉันขอเรียนรู้ที่จะยืนหยัดในความฝันของฉัน ฉันจะมุ่งหน้าต่อไปในสิ่งที่ฉันเลือก
หากเพราะคำพูดเหล่านี้แล้วฉันก็เลิกล้มความตั้งใจ ละทิ้งความฝันของฉันไป
ทากอย่างฉันจะทำอะไรได้อีกเล่า?
ฉัน เดิน
เดิน เดิน แล้วก็เดินไป ณ บัดนี้ บนทางเส้นนี้เหลือฉันเพียงลำพังแล้วสินะ
มันช่างเงียบเหงาเสียนี่กระไร! ทุกค่ำคืนฉันได้แต่แอบร้องไห้
บางครั้งคำถามก็ผุดขึ้นในห้วงความคิด “เธอกำลังทำอะไรอยู่
มันคุ้มค่าแล้วเหรอ? มันไม่มีใครทำได้มาก่อนนะ!”
ฉันได้แต่ปลอบใจตัวเอง
“นี่คือเกมเกียรติยศ ทากน้อยเอ๋ย เธอทำได้!” ฉันรู้
ฉันคือทาก ฉันคือฉัน กลัวไปใยกับความทุกข์ในเมื่อฉันก้าวผ่านมาตั้งมากมายแล้วนี่นา
ฉันจะถอยไปทำไม มีพี่น้องทากที่เฝ้าดูในสิ่งที่ฉันกำลังทำอยู่
ฉันจำคำพูดของผู้เฒ่าเต่าที่บอกกับฉันก่อนจากกันในครั้งนั้น “อย่าลืมความตั้งใจเดิม”
เอาน่า
ลองอีกสักตั้งจะเป็นไรไป เมื่อนึกได้อย่างนี้ ฉันก็มีกำลังฮึกเหิมที่จะสู้ต่อ
จุดหมายยังรอฉันอยู่ข้างหน้า “ทากเอ๋ย เธอออกเดินทางต่อได้แล้ว”
เสียงหัวใจของฉันบอกกับตัวเองเบา
ๆ จนค่ำคืนของวันหนึ่ง
ฉันเห็นแสงจันทร์สาดแสงทาบทับอะไรก็ไม่รู้สักอย่างสีฟ้าระยิบระยับไปไกลสุดลูกหูลูกตา
กระรอกน้อยที่อยู่บนต้นมะพร้าวบอกกับฉันว่า “นั่นคือทะเล!” (ที่มา https://www.facebook.com/NusonBooks)
ในความฝัน ในความตั้งใจของเรา
หลายครั้งก็มักพังราบสูญหายไปกับคำพูด กับความคิดเห็นของผู้อื่น แน่ละ
เราจำต้องฟัง
และนำมากลั่นกรองเพื่อเป็นเครื่องมือส่งเสริมชีวิตเราให้มุ่งสู่เป้าหมายอย่างชาญฉลาด
ไม่ใช่นำมาเป็นสิ่งที่บั่นทอน ลดทอน ความเข้มแข็งของเรา ในการสู่เป้าหมายตามฝัน
ตามความตั้งใจของแต่ละคนย่อมใช้วันเวลา ย่อมใช้ความบากบั่นไม่เท่ากัน
บางคนเข้มแข็งก็ใช้เวลาไม่นาน บางคนอ่อนแอก็ล้มเลิกไปเสียดื้อ ๆ
แล้วในชีวิตจริงของเราเล่า? ผ่านมาจะครบรอบอีกหนึ่งปี
เราใกล้ถึงฝั่งฝันปลายทางแห่งความสำเร็จ ใกล้พบกับความงดงามในนามของความดีบ้างหรือยัง?
เราเก็บเกี่ยวสิ่งเหล่านั้นในระหว่างทางเดินมามากน้อยเพียงใด?
หรือปล่อยมันกลืนหายไปกับสายลมที่พัดผ่านมาเป็นระลอก ๆ
ขอให้เราแต่ละคนมีความเข้มแข็งในจิตวิญญาณมากยิ่งขึ้น และอย่าลืมความตั้งใจเดิมเมื่อต้นปี เพื่อว่าเราจะได้เห็นความงามอันเป็นนิรันดร์ไปพร้อม ๆ กัน
....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น