สิ่งที่ทิ้งไว้กลางทาง
บทเพลงใหม่ของวง Potato ที่มีชื่อว่า “ทิ้งไว้กลางทาง”
กำลังโด่งดังในหมู่วัยรุ่น วัยหนุ่มสาว เพราะมีเนื้อหาโดนใจ ในยุคที่ความเหงากัดกินจิตใจคน
Gen Y เรามักเห็นหลายคนทุรนทุรายกับความรัก ดูเหมือนว่าทุกคนจะเทิดทูนความรักกันมากมาย
ยามรักกันต้องโชว์โอ้อวดผ่านสื่อส่วนตัวเพื่อให้โลกส่วนรวมชื่นชม ยามรักตรมน้ำตาขม
ก็พร่ำเพ้อโลกใจร้าย โลกอยู่ยากบ้าง หาคนจริงใจรักแท้ได้จากไหนบ้าง คิดไปคิดมาการที่โลกวันนี้หาสิ่งที่เรียกว่า
“รักแท้” ได้ยากนั้น เพราะเราให้ค่าของความรักเพียงเปลือกที่เปราะบาง มองสิ่งภายนอกที่ใช้แทนค่าของรักมาลำดับต้น
ๆ ใช้เพียงความชอบในเรือนร่างมากกว่าความงดงามของจิตใจ เราใช้เรื่องเพศแทนค่าสิ่งที่รักกันมากเกินไป...บางสิ่งที่เราเห็นว่ามันยิ่งใหญ่ในวันนี้วันหน้าจะกลายเป็นเรื่องขี้ผง หากเราเข้าใจในความรักที่ต้องใช้หัวใจในการดูแลรักษา
เราจะตระหนักได้ว่า บางสิ่งเราควรต้องทิ้งลงไปในระหว่างทางบ้าง
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
โดยเฉพาะสิ่งที่ทำให้เราเป็นทุกข์ ต้องพยายามทำให้เป็นผงเพื่อที่จะสลัดมันทิ้งลงไป
แน่ล่ะพูดง่าย แต่เอาเข้าจริงเจอทุกข์โถมเข้าใส่ บางทีเราก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน สิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยการฝึกฝนหัวใจให้กล้าแกร่ง
ต้องรู้จักที่จะบริหารชีวิตไม่ให้ทุกข์มาทำลายการเดินทาง เราควรทิ้งความทุกข์ไว้ในระหว่างทาง
หาใช่ปล่อยตัวทรุดจมกองทุกข์ในระหว่างทาง ตลอดการเดินทางของชีวิตมีบ้างบางครั้งเราต้องหาจุดยึดที่จับเพื่อจะลุกแล้วก้าวต่อไปให้ได้
การปล่อยให้ชีวิตจมอยู่ไประหว่างทาง แล้วเห็นคนอื่นเดินทางห่างออกไปยิ่งทำให้เราทุกข์มากขึ้น
อ่อนแอมากขึ้น ลองดูตัวอย่างเพื่อทำให้ชีวิตเราเข้มแข็งขึ้น จากเรื่องนี้
ลูกสาวพ่อครัวคนนี้ทุกข์ตลอดเวลา ทุกข์กับคนนั้น ทุกข์กับคนนี้ อยู่ที่โรงเรียนก็ทุกข์
อยู่ที่บ้านก็ทุกข์ ทุกข์ง่ายสุขยาก อะไรที่จะเป็นทุกข์ได้ ก็อยากจะเป็นทุกข์กับเรื่องนั้น
พ่อก็เป็นห่วงลูก ลูกมาปรับทุกข์กับคุณพ่อ ฟังแล้วก็น่าสงสาร พ่อคิดพิจารณาว่าจะสอนลูกอย่างไรดี
พ่อฉุกคิดได้ พาลูกเข้าไปในห้องครัว เอาหม้อมาสามหม้อ ใส่น้ำไว้แล้วก็ตั้งไฟทั้งสามหม้อ
รอให้น้ำเดือด หม้อตั้งไว้ดีแล้ว ก็เอาของออกจากตู้ มีแครอท ๑ หัว ไข่ไก่ ๑ ฟอง เมล็ดกาแฟสดจำนวนหนึ่ง
พอน้ำเดือด พ่อครัวเอาแครอทลงไปในหม้อที่ ๑ ไข่ไก่ลงไปในหม้อที่ ๒ เมล็ดกาแฟสดลงไปในหม้อที่
๓ แล้วก็ปล่อยให้เดือดพล่าน สัก ๑๐ กว่านาที พอเสร็จก็เอาแครอท ไข่ไก่ และเมล็ดกาแฟสดออกมา
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
พ่อชี้ให้ลูกเห็น ดูสิลูก ธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน เดิมทีแครอทเป็นผักที่แข็ง
แต่พอเจอน้ำเดือดกลายเป็นของอ่อนปวกเปียก
ส่วนไข่ไก่ เดิมเป็นของแตกง่าย ข้างในอ่อน แต่พออยู่ในน้ำเดือดนาน ๆ มันกลายเป็นของแข็งเลย
ส่วนเมล็ดกาแฟสด ใส่ลงไปในน้ำอย่างไรเอาออกมาก็อย่างนั้น มันไม่เปลี่ยน ยังรักษาความเป็นเมล็ดกาแฟของมันไว้
กลายเป็นน้ำต่างหากที่เปลี่ยนเป็นน้ำที่มีรสและกลิ่นหอม
จิตใจของมนุษย์ก็เหมือนกันนะลูก พอมีการขยายความ บางคนดูแข็งแกร่ง แต่พอเจอความทุกข์ซึ่งพ่อเปรียบเหมือนน้ำร้อน
ก็หมดกำลังใจ อ่อนปวกเปียกเหมือนแครอท บางคนเริ่มต้นอ่อนไหว เปราะบาง พอเจอปัญหา เจอความทุกข์
ก็เปลี่ยนเป็นคนแข็งกระด้าง ขึงขัง ตึงเครียด เหมือนไข่ไก่ที่ต้มน้ำแล้ว
แต่บางคนเหมือนเมล็ดกาแฟ เจอน้ำร้อนก็ไม่เปลี่ยนสภาพความเป็นเมล็ดกาแฟ และยังสามารถปล่อยรสชาติเข้าไปในน้ำได้ ทำให้น้ำนั้นเปลี่ยนเป็นน้ำที่มีรสน่าดื่ม
น้ำที่หอม ตัวเมล็ดกาแฟก็เหมือนเดิมให้ลูกคิดดี ๆ ว่าต้องการเป็นคนแบบไหน ต้องการเป็นคนแบบแครอทไหม
หรือจะเป็นคนแบบไข่ไก่ หรือจะเป็นคนแบบกาแฟสดดี
ภาพ : อินเตอร์เน็ต |
ลูกก็ยอมรับว่าเหมือนกาแฟสดดี คือเราจะอยู่ในโลกที่ไม่มีปัญหา อย่าไปหวังเลยเหมือนกับหวังให้ทะเลไม่มีคลื่น
ทะเลต้องมีคลื่น ชีวิตต้องมีปัญหา โลกสรรเสริญอยู่ที่ไหน นินทาอยู่ที่นั่น ลาภอยู่ที่ไหน
เสื่อมลาภอยู่ที่นั่น อย่าไปหวังจะเอาแต่กำไรคือลาภ ยศ สรรเสริญ สุข อย่างเดียว โดยไม่ต้องขาดทุนเลย
คิดอย่างนี้เจอทุกข์แน่ ๆ (ที่มา: หนังสือ Why ไหว้
– ชยสาโรภิกขุ)
ในโลกยุคก้มหน้ากดปุ่ม ผู้คนมักแสวงหาเทคนิควิธีที่ง่ายและเร็ว เพื่อแก้ปัญหาหรือทำเรื่องต่าง
ๆ ให้ทันใจ ทว่าหลายเรื่องในชีวิตไม่ได้เกิดขึ้นง่าย ๆ ไม่มีสูตรสำเร็จ เราต้องเรียนรู้จักที่จะสลัดทุกข์ออกมาทิ้งไว้กลางทางบ้าง
แล้วเดินหน้าต่อไป เจอทุกข์คราวใดก็ทำแบบนี้ ชีวิตย่อมเดินสู่ปลายทางอย่างเป็นสุข...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น