หามุมต่าง
ความสุขอีกอย่างหนึ่งคือการได้ท่องเที่ยว หลายปีที่ผ่านมาจึงมักจะใช้ช่วงหลังวันอาทิตย์ปัสกา
เป็นช่วงวันหยุดพักผ่อนและออกท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่จะไปท่องเที่ยวต่างประเทศ ครั้งนี้ก็เช่นกันเลือกเดินทางไปยังแถว
ๆ ยุโรป จุดประสงค์ของการเดินทางท่องเที่ยวส่วนหนึ่งเพื่อหามุมมองใหม่ ๆ หาบทเรียน
เรียนรู้ถึงวิถีการดำเนินชีวิตของผู้คน เรียนรู้ความเป็นมาของผู้คนในท้องถิ่นแดนไกลได้รับรู้ถึงความรักอันกว้างใหญ่ไพศาลของพระเจ้าต่อผู้คนบนโลกใบนี้
และที่สำคัญในครั้งนี้ที่ได้ไปยังนครปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อพบเจอกับคุณพ่อเกรียงชัย
ตรีมรรคา และคุณพ่อนัฏฐวี กังก๋ง คุณพ่อทั้งสองเคยมีวันเวลาอยู่ในอ้อมรั้ววัดเซนต์หลุยส์ด้วยกัน
ตามกำหนดนัดหมายคร่าว ๆ เรานัดเจอกันที่หอคอยไอเฟล คณะของเราจะเดินทางไปถึงในตอนบ่าย
เมื่อเราเดินทางมาต่างประเทศการติดต่อสื่อสารย่อมมีความลำบากมากยิ่งขึ้น ด้วยว่าหอไอเฟลซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญและโด่งดัง
ทำให้มีผู้คนมากมายเหลือเกิน จะโทรศัพท์หากันก็ใช้การไม่ได้ ต้องวิ่งหาไวไฟ เพื่อส่งข้อความหากัน
สรุปสุดท้ายเป็นไปได้ยากมากที่จะมาเจอกันตรงนั้น จึงมีการนัดหมายใหม่ไปเจอกันที่โรงแรมที่พักค่ำคืนนั้น
และจะได้มีเวลานั่งพูดคุยกันได้พอสมควร คุณพ่อทั้งสองฝากความคิดถึงมายังพี่น้องทุกคนในโอกาสนี้ด้วย
การใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศนั้นหากมีคนไทยไปเยี่ยมเยือน นั่นเป็นความสุขอย่างมากเลยทีเดียว
แล้วเราก็ได้รับมุมมองใหม่ ๆ ในการพบกันในต่างแดนเสมอบนความสัมพันธ์เดิม ๆ ที่เติมกำลังใจให้แก่กันและกัน
เมื่อพูดถึงมุมมองใหม่ ๆ แล้ว ทำให้อดคิดถึงการท่องเที่ยวที่หอไอเฟลไม่ได้ ครั้งนี้นับว่าเป็นครั้งที่สี่แล้วที่ได้มาเยือน
ในแต่ละครั้งที่มานั้นไม่เคยซ้ำมุมกันเลย ครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่เราได้มาเดินอยู่ใต้หอคอย
มาอยู่ในมุมใกล้ ๆ พอรุ่งขึ้นอีกวันมาลงเรือล่องแม่น้ำแซน ก็เห็นหอไอเฟลอีกมุมหนึ่ง
ในแต่ละมุม ต่างมุมมอง ต่างเวลา เราก็พบความงามและความยิ่งใหญ่ของสิ่งเดียวกันที่แตกต่างกันออกไป
ใช่หรือไม่ หากเรารู้จักที่จะหามุมเพื่อมองความงามในความต่าง เราย่อมพบความยิ่งใหญ่ของสิ่งสร้างเสมอ
บนความสัมพันธ์ของคนเราก็เช่นกัน หากเราพยายามที่จะมองทุกผู้คนที่พบผ่าน ที่คุ้นเคยที่คุ้นชิน
แล้วเลือกมุมมองที่สวยงามที่พอเหมาะพอควร เราย่อมอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก แต่ก็นั่นแหละ... เมื่อเรามีชีวิตเป็นของตัวเอง เลือกที่จะใช้จริตตนนำหนทางแล้วไซร้
หัวใจก็มักปิดกั้น ไม่ยอมรับในความต่างของผู้อื่น ยิ่งระบบในสังคมแบบใหม่ที่พร้อมจะอยู่บนความคิดของตัวเองฝ่ายเดียว
ที่ปลูกฝังความเชื่อมั่นในตัวเองแบบผิด ๆ ที่มักคิดถึงแต่เสรีภาพของตัวเอง ที่เฝ้าแต่เรียกร้องความยุติธรรมเมื่อตัวเองไม่สมประโยชน์
เราจึงมีแต่มุมมองเดิม ๆ ตกอยู่ในสภาวะที่ยึดโยงอยู่แต่ความคิดเห็นของตัวเอง อยู่ในโลกส่วนตัวที่มักกวักมือเรียกให้คนอื่นเดินเข้ามาหาโดยไม่ยอมเปิดประตู
ไม่ค่อยคุ้นเคยในการเปิดประตูบ้านแล้วเดินออกไปสานความสัมพันธ์กับผู้คนด้วยหัวใจ จึงมักจะใช้ชีวิตวิพากษ์วิจารณ์คนอื่นด้วยมุมมองของตัวเอง
ด้วยการส่งสารในมุมซ่อนเร้นบนโลกสมมุติโลกเสมือนจริง แล้วเลือกรับสารบนความเชื่อด้านเดียวมุมเดียวมาโดยตลอด
วันนี้เราจึงพบแต่คนที่ชอบโอ้อวดความรู้ มากกว่าคนที่แสดงความรู้แจ้ง
ในนครปารีส นครที่สร้างนักคิดนักเขียน นักปราชญ์ ศิลปิน ที่มีชื่อเสียงหลาย
ๆ คน ท่านเหล่านี้ล้วนมีวิถีชีวิตแนวคิดเป็นตัวของตัวเอง แต่บ่อยครั้งมักนำแนวคิด วิถีชีวิตที่ยึดโยงนั้นมานั่งถกเถียง
แลกเปลี่ยนกันตามร้านกาแฟ ตามลานถนน จึงเป็นที่มาของผลงานอันลือชื่อหลาย ๆ ผลงาน การนั่งดื่มกาแฟไม่ใช่นั่งดื่มเพื่อให้ดูดีมีฐานะ
ไม่ใช่เพียงเพื่ออวดอ้างรสนิยม แต่เพื่อนั่งจิบกาแฟไป พูดคุยแลกเปลี่ยนมุมมองกันไป
ร้านกาแฟเดิม ๆ แต่มักเกิดมุมมอง แนวคิดใหม่ ๆ เสมอ การเปิดหัวใจรับฟังคนอื่นนั้นเป็นเรื่องสำคัญของมนุษย์ เป็นการพัฒนาความเจริญทั้งทางด้านจิตใจ
ด้านการเมือง และด้านสังคมมาในทุกยุคทุกสมัย
แต่พอสมัยใหม่ในสมัยของเรานี้ เรามักเห็นการพัฒนาเพียงด้านเดียว คือการพัฒนาทางด้านเครื่องมือสื่อสาร
แต่ไม่มีการพัฒนาด้านการสื่อสารกันเท่าที่ควร ความเจริญด้านจิตวิญญาณเราจึงถอยหลังลงไปมาก
เราให้ความสำคัญกับเครื่องมือ เราจึงอยู่กับเครื่องมือไม่ค่อยใส่ใจกับเนื้อหาและแนวคิดใหม่
ๆ ในการดำเนินชีวิตกันเสียเท่าไหร่ เปิดหัวใจแล้วหามุมมองใหม่ ๆ กับสิ่งเดิม ๆ ยังมีอะไรอีกมากมายเพื่อให้เราเรียนรู้
เพื่อให้เราใส่ใจและเข้าใจ กับคนคุ้นเคยรอบข้างกายเรา ลองมองด้วยหัวใจรัก มองใกล้ ๆ
ให้ใจสัมผัสใจ แล้วเราจะพบว่าชีวิตเรามีความงามอยู่เคียงคู่เสมอ ก้าวเดินทางไปบนโลกใบเดิมด้วยการหามุมมองที่ต่างออกไป
เราจะได้อยู่ในโลกที่มีความสุขสันติด้วยกัน.....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น