วันศุกร์ที่ 10 เมษายน พ.ศ. 2558

เมื่ออุโมงค์หัวใจเปิดออก

เมื่ออุโมงค์หัวใจเปิดออก
            ไปไหนมาไหนได้ยินแต่ผู้คนบ่นว่า “อากาศร้อนสุด ๆ ” บ่นกันอยู่ 2-3 วัน ฟ้าฝนเห็นใจเลยตกกระหน่ำตั้งแต่เช้า สร้างความชุ่มฉ่ำจนเกินงาม กลายเป็นเพิ่มทุกข์ให้คนกรุงในการสัญจรไปทำงาน ไปทำธุระ จากร้อนสุดเป็นท่วมเจิ่งนองกันทั่วหน้ามหานคร ดูเหมือนไม่มีความสมดุลเอาเสียเลย แต่หากเรามองด้วยใจที่เป็นสุขความทุกข์ร้อนใดเล่าจะมากล้ำกราย  ในสิ่งสร้างนั้นจะมีความยุติธรรมเสมอ เมื่อร้อนสุดย่อมเกิดฝนตกหนักสุดด้วยเช่นกัน ไม่มีใครที่จะบังคับความเท่าเทียมของธรรมชาติได้ มีแต่ต้องน้อมรับปรับตัวให้อยู่กับธรรมชาติให้ได้ เพราะสิ่งเหล่านั้นล้วนเตือนให้คนเราต้องคิดว่า เราเองก็ทำร้ายธรรมชาติมามากเพียงใด เมื่อสิ่งที่ปกป้องเราถูกทำลายแล้วเราจะมีอะไรเป็นเกราะคุ้มกันเล่า
ภาพ : อินเตอร์เน็ต
            ในแง่ของการดำเนินชีวิตก็เช่นกัน เราเป็นผู้ทำลายความสมดุลในตัวเรามากน้อยเพียงใด ยิ่งเราทำลายล้างมาก ความอ่อนแอย่อมมีมากมาย ภูมิคุ้มกันย่อมบกพร่อง โดยเฉพาะเรื่องของจิตวิญญาณ หากเราปล่อยให้จริตความอยาก ความโลภ ความหยิ่งยโส เข้ายึดครอง หัวใจแห่งเมตตาย่อมลดหายไป ความว้าวุ่นก็จะตามมา เมื่อนั้นหัวใจแห่งซาตานก็จะงอกเงยขึ้นและเข้าครอบครองจนเรากลายเป็นสมุนของมันอย่างง่ายดาย ทั้ง ๆ ที่เราเกิดมาพร้อมกับความงดงาม แต่ยิ่งวันความงามกลับยิ่งห่างหายไปจากชีวิต เราอาจจะบ่นว่าเพราะมีปัจจัยล่อลวงมากมายก่ายกองจนไม่สามารถจะบังคับจิตใจได้ เพราะสิ่งแวดล้อมนำไปจึงต้องเลยตามเลย เราไม่กล้าที่จะปฏิเสธสิ่งทำลายด้านคุณงามความดีไปจากชีวิตเรา เพราะคิดว่า ทำดีไปก็เท่านั้น เมตตาไปก็ไม่เห็นจะมีอะไรดีตามมา ให้อภัยก็ไม่เห็นการสำนึกผิด
            เมื่อพูดถึงตรงนี้ ทำให้คิดถึงห้วงเวลาก่อนที่พระเยซูเจ้าจะทรงสิ้นพระชนม์บนกางเขน ท่ามกลางคนร้ายสองคนนั้น ท่ามกลางคนที่ทำลายพระองค์ด้วยการทรมานอย่างแสนสาหัส แต่พระองค์กลับตรัสว่า “ให้อภัยพวกเขาเถิด เพราะเขาไม่รู้ว่าได้ทำอะไรลงไป” ดูเหมือนว่าเป็นคำพูดของเทพ ของพระเจ้าที่สามารถพูดได้ แต่ ณ เวลานั้นพระองค์คือมนุษย์คนหนึ่ง ที่มีเลือดมีเนื้อและกำลังเจ็บปวดจากเลือดเนื้อนั้นอยู่ เราอาจจะคิดว่าเพราะนั่นเป็นแผนการไถ่กู้ที่พระองค์รู้ว่าอย่างไรเสียต้องเป็นเช่นนี้ และพระองค์ต้องเตรียมใจรับสภาพนี้มาก่อนแล้ว ใช่หรือไม่บางทีการรู้ว่าอะไรจะเกิดกับเราก่อน ยิ่งสร้างความเจ็บปวดมากกว่าการที่ไม่รู้อะไรเลย พระองค์ยอมเจ็บปวดกว่าคนธรรมดาอย่างเรา ๆ เป็นหลายเท่า แต่พระองค์ก็ให้อภัย เพราะหัวใจของพระองค์นั้นยิ่งใหญ่และพระองค์ก้าวข้ามผ่านหัวใจของตัวเองเพื่อเปิดกว้างให้ผู้อื่นอย่างเต็มหัวใจ เหมือนดั่งที่ปากอุโมงค์ฝังพระศพเปิดออก แล้วแสงสว่างก็บังเกิดขึ้น
ภาพ : อินเตอร์เน็ต
            สิ่งเหล่านี้ใครที่มีหัวใจประเสริฐย่อมข้ามผ่านความเจ็บปวดจากความทุกข์ได้ ในขณะที่ได้ฟังเหตุการณ์พระมหาทรมานเมื่อวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์นั้น ทำให้นึกถึงข่าว ๆ หนึ่ง ที่มีพระหมอถูกยิงตายต่อหน้าต่อตาหลวงปู่สุขผู้เป็นพระพ่อ ทั้งสองรูปออกบวชพร้อม ๆ กัน จนพระหมอ (ลูกชาย) ได้เป็นเจ้าอาวาสในวัด ๆ หนึ่งในจังหวัดอุดรธานี จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป อยู่ ๆ ก็มีคนร้ายมาลอบยิงในขณะที่ทั้งสองออกบิณฑบาต พระลูกชายสิ้นใจท่ามกลางอ้อมอกของพระพ่อที่ประคองร่างที่ไร้วิญญาณ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ และได้นำตัวชายคนนั้นถือดอกไม้ธูปเทียน มากราบขอขมาหลวงปู่สุข พร้อมกล่าวเพียงสั้นๆ ว่าผมผิดไปแล้วครับ
            จากนั้นได้ถวายดอกไม้ธูปเทียนให้กับมือหลวงปู่สุข แล้วกราบ 3 ครั้ง โดยทางหลวงปู่สุขได้แตะมือชายคนนั้น พร้อมกับกล่าวเทศนาว่าก็รู้สึกว่าเป็นผู้ที่รู้บุญรู้บาป รู้จักสำนึกบุญบาป สิ่งใดที่ทำไปแล้ว แม้จะได้ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ หลวงพ่อก็ขออโหสิกรรมให้ โดยไม่มีความติดใจหรืออาฆาตมาตร้ายแต่อย่างใด ทุกคนสัตว์โลก ไม่ว่าสัตว์หรือมนุษย์ หลวงพ่อก็มีแต่เมตตา มีแต่ให้อภัย ไม่ถือโทษโกรธเคือง สิ่งใดทำไปแล้ว ก็ขอให้เป็นสิ่งที่จบไป ขอกุศลผลบุญอันนี้ จงส่งให้ผู้ที่สำนึกผิดนี้ จงได้รับผลบุญอานิสงค์ ที่ได้สำนึกว่า ได้พลั้งเผลอกระทำไป แม้จะได้ตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม ขอให้ท่านจงประสบความสุขความเจริญในอนาคตข้างหน้า โดยทั่วทุกทั่วหน้ากาลนานเทอญ

           
ภาพ : อินเตอร์เน็ต
หลวงปู่สุขไม่เพียงให้อภัย ยังให้พรอีกด้วย หัวใจของคนเช่นนี้ยิ่งใหญ่นัก แม้พระท่านจะเป็นเพียงพระสงฆ์ที่ชราธรรมดารูปหนึ่ง แต่การกระทำเช่นนี้ของท่านมันยิ่งใหญ่เท่าเทียมกับวีรบุรุษคนหนึ่งเลยทีเดียว เห็นใช่ไหมว่า คน ๆ หนึ่งหากข้ามผ่านความทุกข์ของตัวเองได้ เปิดอุโมงค์หัวใจออกแสงสว่างแห่งการเกิดใหม่ย่อมบังเกิดขึ้น เมื่อร้อนยังมีฝนฉ่ำ เมื่อฝนตกหนักก็ยังมีวันหยุด ทุกข์หนักแค่ไหน เปิดใจรับมัน เมื่อถึงเวลามันก็จากชีวิตเรา จะให้จากไปด้วยหัวใจที่อิ่มเอม หรือจากไปเพราะจำใจ จากไปอย่างไรนั้น เราสามารถเลือกได้ ขึ้นอยู่กับวิธีการเปิดอุโมงค์หัวใจของเรา...อัลเลลูยา

ไม่มีความคิดเห็น: