วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2557

หลงลืม ลุ่มหลง

หลงลืม ลุ่มหลง
                นับว่าเป็นความโชคดีอย่างหนึ่งของชีวิตที่มีผู้ใหญ่ใจดี มีอุปการคุณส่งข้าวสารมาให้เป็นประจำทุกเดือน ทำให้มีข้าวสวยหอมอร่อยรับประทาน แต่ด้วยความเร่งรีบผสมกับความรักสบายมากไปหน่อยกระมัง บ่อยไปก็ไม่ได้สนใจที่จะหุงข้าวสวยทาน มีไม่น้อยครั้งเลยที่เที่ยวหาของทานอย่างอื่นแทนข้าวสวย ถามว่าเบื่อข้าวสวยหรือ ก็ไม่ใช่นะ คงเป็นเพราะว่าทานอยู่เป็นประจำทุกมื้อทุกวันก็อาจจะรู้สึกเฉย ๆ กับข้าวสวย และพอได้ไปทานอาหารอะไรที่แปลก ๆ ใหม่ ๆ เราก็อาจจะรู้สึกว่าอาหารนั้นมีคุณค่า น่าสนใจ และน่าให้ความสำคัญมากกว่า ถามว่าถ้าให้ทานอาหารแบบนั้นทุกมื้อเลยจะเอาไหม ก็คงไม่เอา ในขณะที่เราทานข้าวสวยธรรมดา ๆ ทุกมื้อทุกวัน เราก็หลงลืมความหอมอร่อย และคุณค่าของมันไป
ภาพ  :  อินเตอร์เน็ต
                ในชีวิตของคนเรานั้น บางทีก็มองข้ามความสำคัญของสิ่งที่มีอยู่กับเราไป ซึ่งหลายครั้งที่เรารู้สึกเฉย ๆ กับมัน อาจเป็นเพราะว่าสิ่งนั้นยังไม่เคยขาดหายไปจากชีวิตเรา ต่อเมื่อสิ่งนั้นขาดหายไปแล้ว เราจึงเริ่มมองเห็นความสำคัญของสิ่งนั้น ๆ ในทางกลับกัน เราอาจจะให้ความสำคัญกับสิ่งที่ไม่ได้อยู่กับเราเป็นประจำ ด้วยความที่นาน ๆ เราไม่ได้พบเห็นสิ่งนั้นที  เราจึงเห็นว่าสิ่งนั้นเป็นของแปลกใหม่ และให้ความสำคัญกับสิ่งนั้น ๆ อย่างมากมายจนกลายเป็นความลุ่มหลง
                ในยุคที่เรามักมีของใหม่ ๆ ให้ใช้สอยเพิ่มความสะดวกสบายได้อย่างทันใจ ทำให้หลงลืมสิ่งต่าง ๆ ได้ง่ายดายขึ้น มีความหน่ายเร็วเป็นอุปนิสัยใหม่เพิ่มเข้ามาในชีวิต ใช่หรือไม่เรามีเทคโนโลยีสื่อสาร โทรคุย แชทพิมพ์ผ่านตัวอักษรผ่านตัวสัญลักษณ์ ส่งผ่านไป ในหลายครั้งหลายหนเรามิได้ใส่หัวใจ  ใส่ความห่วงใยที่แท้จริงลงไปด้วย เมื่อบ่อยครั้งเข้าหัวใจที่ต้องสัมผัสด้วยหัวใจก็ลืมหายไปในอากาศเราลุ่มหลงวิธีการสื่อสารแบบใหม่จนหลงลืมการพบปะแบบเห็นหน้า การเยี่ยมเยียนกันถูกหมางเมินเพราะเพียงนึกถึง ก็ส่งผ่านคลื่นไปได้
                ใช่หรือไม่ หนุ่มสาวบางคนกำลังลุ่มหลงตกอยู่ในช่วงรักแรกแย้มงาม ทำทุกอย่างให้คนรัก แต่กลับหลงลืมคนที่รักเขาหรือเธอ ที่เฝ้าถนอมให้กำเนิดและเลี้ยงดูตนเองมาตั้งแต่เล็กจนโต คอยให้ความช่วยเหลือดูแลทุกอย่างมาโดยตลอด ซึ่งแน่นอนพ่อแม่ไม่ได้ต้องการให้หนุ่มสาวเหล่านั้นต้องมาดูแลทุกอย่าง แต่สิ่งที่พ่อแม่ปรารถนาคือการไม่หลงลืมคำสั่งสอน ไม่หลงลืมที่จะกลับมาหา เยี่ยมเยียนพวกท่านบ้างในบางโอกาส
                เป็นเรื่องจริงเลยทีเดียวที่เราถูกฝึกให้ตรงไปข้างหน้าสู่สิ่งที่เรียกว่า ความสำเร็จในชีวิตและความสำเร็จก็ทำให้เราหลงลืม ละเลยสิ่งรอบข้างไม่ได้พิถีพิถันในการใช้ชีวิตเท่าที่ควร มองข้ามและหลงลืมไปว่า บนถนนหนทางของชีวิตนั้น ไม่ได้ตัดเป็นเส้นตรงมุ่งสู่เป้าหมายเพียงอย่างเดียว มีสิ่งอื่นอยู่ระหว่างทางก็มากมี ช้าบ้างและเสียเวลาหน่อย อ้อมสักนิด ก็ทำให้ชีวิตสำราญและมีความสุขมากขึ้นได้
ภาพ  :  อินเตอร์เน็ต
                หลายคนเลือกที่จะใช้เวลา เสียเวลา ให้เวลา ในแต่ละวันหมดไปเพื่อค้นหาหนทางลัดสู่ความสำเร็จ ความงามที่ผ่านทางกาลเวลา ผ่านทางผู้คน ผ่านทางความห่วงใยของบางคน กลายเป็นสิ่งไร้ค่า การที่จะก้าวขึ้นสูงโดยไม่ได้หัวใจของใครเลยจะมีความหมายอันใดเล่า??? มีแต่จะนำความทุกข์มาสู่หัวใจอันเดียวดาย อย่าลุ่มหลงความสุขชั่วขณะที่มาพร้อมกับความสำเร็จของชีวิต เพราะทุกครั้งที่ความสุขหมดลงความทุกข์ก็เข้ามาแทนที่ เป็นอยู่อย่างนี้ วนเวียน ไม่รู้จบ             บางครั้ง เมื่อเราทุกข์ท้อใจมาก ๆ กับปัญหาในชีวิต เราก็คิดถึงบางคน ปรารถนาที่จะให้ใครสักคนมาอยู่เป็นเพื่อน ต้องการกำลังใจพลังใจจากการเยี่ยมเยียนของมิตรสหาย ในขณะเดียวกันเราก็ควรที่จะต้องคำนึงถึงว่าในบรรดาญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ที่ผ่านเข้ามาบนหนทางชีวิตนั้น ต้องมีสักครั้งที่พวกเขาต้องพบเจอกับความทุกข์ หากเราใส่ใจต่อกัน ช่วยเหลือกันยามทุกข์ท้อ ความงามแห่งการให้ ความหวังของผู้คนย่อมได้รับการเติมเต็ม

                บางทีมนุษย์เราก็หลงลืมไปว่า หน้าที่หลักที่แท้จริงของเรานั้นคืออะไรการที่เราทำงานหาเงิน หาเลี้ยงชีพ มุ่งมั่นสร้างความสำเร็จ ความร่ำรวย ความมีชื่อเสียงให้กับตัวเองนั้น เป็นเพียงหน้าที่รองทั้งสิ้นแต่เรากลับใช้เวลาส่วนใหญ่ลุ่มหลงไปกับสิ่งเหล่านี้ จนเข้าใจผิดคิดว่ามันคือ หน้าที่หลักของชีวิต เรากำลังหลงทางและปล่อยให้ชีวิตตัวเอง ต้องไล่ล่าอยู่กับสิ่งภายนอกโดยไม่สิ้นสุด เพราะเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้คือสิ่งเติมเต็มให้ชีวิตเรานั้นสมบูรณ์ได้ ซึ่งเป็นเพียงความลุ่มหลงทั้งสิ้น ช่วงเวลาปลายปีแบบนี้เป็นโอกาสที่เราจะหันมาสำรวจตรวจสอบ เพื่อให้ชีวิตของเราหลุดพ้นจากความลุ่มหลงโดยไม่หลงลืม สิ่งที่มีค่าที่อยู่กับเราในทุก ๆ วัน แล้วความชื่นชมยินดีจะมีขึ้นในชีวิตเราตลอดไป...

ไม่มีความคิดเห็น: