วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557

มากกว่าคำพูด

มากกว่าคำพูด
            คำพูดคือ สิ่งมหัศจรรย์หนึ่งของสิ่งสร้างเล็ก ๆ อย่างมนุษย์เรา คำพูดนอกจากจะใช้เพื่อการสื่อสารแล้ว ยังเป็นเหมือนอาวุธที่คมกริบใช้เชือดเฉือนผู้คน ใช้เพื่อเสริมสร้างคนให้กลายเป็นคนยิ่งใหญ่ได้  ในโลกนี้ทุกสิ่งย่อมมี 2 ด้านเสมอ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้ด้านไหน ส่วนมากแล้วเรามักใช้ด้านร้ายมากกว่าด้านดี ไม่เว้นแม้กระทั่งคำพูด ใกล้เวลาสิ้นปีมาทุกขณะ ชีวิตก็ยังดำเนินต่อไป ในแต่ละวันผ่านพ้นจะมีสักกี่คนที่ได้รับของขวัญอันล้ำค่า ของขวัญที่ส่งเสริมให้ชีวิตก้าวผ่านไปอย่างงดงาม ในนามของการ “ให้” เพียงคำพูดไม่กี่คำที่อาจจะสร้างหัวใจอันยิ่งใหญ่ให้ใครบางคนได้
ภาพ  : อินเตอร์เน็ต
            ครั้งแรกในการเข้าร่วมการประชุมผู้ปกครอง คุณครูชั้นอนุบาลพูดว่า “ลูกชายของคุณเป็นโรคอยู่ไม่สุข ไม่สามารถนั่งสงบนิ่งบนเก้าอี้ แม้เพียงสามนาที คุณควรพาไปตรวจเช็คที่โรงพยาบาล”
            ตอนเดินทางกลับบ้าน ลูกชายถามเธอว่า คุณครูพูดอะไรบ้าง เธอเจ็บปวดหัวใจ น้ำตาแทบจะไหลรินออกมา เพราะว่าในบรรดาเด็กทั้งห้องลูกเธอแย่ที่สุดคุณครูแสดงออกถึงความดูแคลน แต่เธอยังคงบอกกับลูกชายว่า
            “คุณครูชื่นชมเธอ บอกว่าเดิมทีเธอไม่สามารถนั่งสงบนิ่งบนเก้าอี้แม้แต่นาทีเดียว ตอนนี้สามารถนั่งได้สามนาทีแล้ว ส่วนคุณแม่คนอื่นๆ ต่างก็อิจฉาแม่ เพราะว่า ทั้งห้องมีลูกเพียงคนเดียว ที่มีการพัฒนาที่ดีขึ้น”
            ค่ำวันนั้น ลูกชายของเธอกินข้าวหมดสองถ้วย ซึ่งไม่เคยเป็นมาก่อน อีกทั้งไม่ต้องให้เธอป้อน
            ต่อมาเมื่อลูกชายขึ้นชั้นประถมแล้ว ในการประชุมผู้ปกครอง คุณครูพูดว่า......
            “นักเรียนทั้งชั้นห้าสิบคน ผลการสอบคณิตศาสตร์ครั้งนี้ ลูกชายของคุณได้อันดับที่สี่สิบ พวกเราสงสัยว่า สติปัญญาของเขาอาจจะมีปัญหา คุณควรพาเขาไปตรวจเช็คที่โรงพยาบาลบ้าง”
            ระหว่างเดินทางกลับบ้าน น้ำตาเธอไหลรินออกมา เมื่อกลับถึงบ้านแล้ว เธอพูดกับลูกชายว่า “คุณครูเชื่อมั่นในตัวเธอมาก เขาบอกว่า เธอไม่ใช่เด็กที่โง่เขลา ขอเพียงแต่เพิ่มความละเอียดรอบคอบให้มากขึ้น ก็จะเหนือกว่าคนที่นั่งโต๊ะเดียวกันกับเธอ เพราะครั้งนี้ เขาสอบได้อันดับที่ยี่สิบเอ็ด”
         
ภาพ  : อินเตอร์เน็ต
   ตอนที่เธอพูดคำพูดเหล่านี้ เธอเห็นดวงตาของลูกชาย ค่อย ๆ เปล่งประกายขึ้น ใบหน้าที่เศร้าสร้อยเมื่อครู่ก็ร่าเริงขึ้นมาทันที อีกทั้งลูกชายก็อ่อนโยนจนทำให้เธอตกใจ คล้ายดั่งเขาได้เติบใหญ่ขึ้นมากในทันที วันรุ่งขึ้นก็ไปโรงเรียนเช้ากว่าปกติ                                      
เมื่อลูกชายขึ้นชั้นมัธยมต้น เป็นอีกครั้งของการประชุมผู้ปกครอง เธอนั่งรอคอยคุณครูขานชื่อของลูกชายเธอ เพราะว่าการประชุมผู้ปกครองทุกครั้งที่ผ่านมา รายชื่อของนักเรียนที่มีผลการเรียนย่ำแย่ จะมีรายชื่อของลูกชายเธอทุกครั้ง แต่ครั้งนี้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเธอ จวบจนสิ้นสุดก็ไม่ได้ยินชื่อของลูกชายเธอ ก่อนกลับจึงไปถามคุณครู คุณครูบอกกับเธอว่า
            “ดูจากผลการเรียนของลูกคุณแล้ว หากไปสอบเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียง ยังพอมีความเสี่ยงอยู่ ”
            เธอเดินออกจากโรงเรียนด้วยความดีใจ ยามนี้เธอเห็นลูกชายยืนรอคอยเธออยู่ ระหว่างทางเธอจับไหล่ของลูกชาย ภายในจิตใจรู้สึกหวานชื่นยิ่ง เธอบอกกับลูกชายว่า
            “คุณครูประจำชั้น พอใจในตัวเธอมาก เขาบอกแล้วว่า ขอเพียงลูกมีความพยายามก็จะมีหวังยิ่งขึ้น ที่จะสอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายที่มีชื่อเสียง ”
            จบมัธยมปลายแล้ว รายชื่อนักเรียนชุดแรกที่ทางมหาวิทยาลัยได้แจ้งผลการสอบผู้คัดเลือกได้ เธอมีลางสังหรณ์ว่า ลูกชายของเธอจะต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแน่ เพราะว่าตอนที่ไปสมัครสอบเธอได้พูดกับลูกชายว่า เธอเชื่อและมั่นใจว่า เขาต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยนี้แน่นอน ลูกชายนำจดหมายที่มีตราประทับ จากสำนักงานของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงโด่งดังยื่นให้เธอ จากนั้นร้องไห้ด้วยเสียงอันดัง ร้องไปก็พูดไปว่า
            “แม่ครับผมรู้ว่าผมไม่ใช่เด็กที่เฉลียวฉลาด แต่บนโลกนี้ มีเพียงแม่ที่ชื่นชมผม.........Page : เรื่องดี ๆ มีข้อคิด

            เธอสุดแสนดีใจ จนไม่สามารถกลั้นน้ำตาที่อัดอั้นมาสิบกว่าปีอีกต่อไปได้ จึงปล่อยให้ไหลรินร่วงลงมา คำพูดที่ให้กำลังใจ สามารถแปรเปลี่ยนทัศนคติ และพฤติกรรมของคนคนหนึ่งได้ หรือแม้กระทั่งแปรเปลี่ยนโชคชะตาของคนคนหนึ่ง คำพูดร้าย ๆ ก็ทิ่มแทงหัวใจและร่างกายของคนคนหนึ่งจนบาดเจ็บชอกช้ำได้ สามร้อยกว่าวันที่ผ่านมา คำพูดของเราสร้างหรือทำลายผู้คน แบบไหนเล่าที่มากกว่ากัน....

ไม่มีความคิดเห็น: