รังนกน้อยๆนั้น
เมื่อย่างเข้าฤดูฝน
ต้นไม้ใหญ่หลังบ้านก็จะงอกงามเต็มที่ สูงขึ้นเรื่อยๆ
กิ่งก้านมักจะแผ่ขยายสาขาออกมาจนถึงระเบียงหลังบ้าน
ครั้นจะให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ก็กลัวว่าสิ่งที่ไม่พึงปรารถนา งูเงี้ยวเคี้ยวขอ
แมลงสัตว์กัดต่อยที่มีพิษจะเข้ามาเยี่ยมถึงในบ้าน ก่อเกิดอันตรายได้
คนในบ้านจึงต้องมีหน้าที่ช่วยกันตัดแต่งริดกิ่งก้านให้เข้าที่เข้าทาง
และในวันหนึ่งขณะที่กำลังจะตัดกิ่งไม้ที่ยื่นยาวออกมานั้น
พลันมองไปเห็นรังนกเล็กๆที่ซุกซ่อนเกาะเกี่ยวอยู่บนกิ่งไม้กิ่งหนึ่ง
ในรังเห็นลูกนกน้อยๆอยู่สองตัว ดังนั้นแล้วจึงต้องปล่อยกิ่งนั้นไว้
เพื่อให้นกน้อยใช้เป็นที่พักพิง เลี้ยงลูกน้อยให้เติบใหญ่ สิ่งมีชีวิตเล็กๆหลังบ้านจึงกลายเป็นสมาชิกของบ้านไปโดยปริยาย
ในเวลายามว่างๆ
ชอบที่จะไปนั่งมอง ยืนมอง ดูชีวิตน้อยๆนั้น
บางครั้งเห็นแม่นกกำลังนำอาหารมาป้อนลูกๆในรัง ลูกน้อยอ้าปากรอรับอาหาร
ป้อนจากปากสู่ปาก ป้อนเสร็จแม่นกก็บินไปหาอาหารมาให้ใหม่ เป็นอย่างนี้ตลอดเวลา
ครั้นเมื่อฝนตกกลัวว่าใบไม้ที่ริดรอนหายไปนั้นจะทำให้รังนกนั้นต้องเปียกปอน
แต่ทึ่งในความอัศจรรย์ตามธรรมชาติ
รังนกนั้นถูกก่อร่างใต้ใบไม้ที่พอจะปกคลุมไม่ให้เปียกฝน นกน้อยครอบครัวนี้เป็นนกสายพันธุ์อะไรไม่รู้
แต่สิ่งที่เรียนรู้ ได้มองเห็นเป็นสิ่งที่งดงาม สวยงามเหลือเกิน
การรักชีวิตของสรรพสิ่ง การพึ่งพาอาศัยกันตามธรรมชาติ ความรักของแม่นก
ที่มีต่อลูกนก ทำให้คนในบ้านได้เห็นคุณค่าของชีวิตมากขึ้น
ในขณะที่กำลังสังเกตและมีความสุขกับชีวิตนกน้อยๆนี้
ในโลกเสมือนจริงกลับมีเรื่องจริงที่โหดร้าย ที่คนกับคนทำกัน นั่นคือ ข่าวการข่มขืนเด็กหญิง
13 ปี บนรถไฟ และโยนร่างของเธอทิ้งจากรถไฟ
นำมาซึ่งการเรียกร้องเพื่อให้มีการ “ประหารชีวิต” ทันที และมีการรวมตัวกัน
มีการปลุกกระแสบนโลกออนไลน์ในประเด็นนี้มากมาย รวมไปถึงคดีความข่มขืนทุกรูปแบบให้ประหารชีวิตผู้ก่อการกระทำทั้งหมด
มีการสร้างกลุ่มก้อน มีการนำเสนอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจสนองตอบโดยด่วน
เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ด้วยอักษรจนเต็มโลกเสมือนจริง
ตรงนี้แหละที่บางครั้งก็เกินเลย จากบาปหนึ่งทำให้เกิดบาปแห่งความโกรธ เกลียด
แค้นเคือง แล้วก็เผยโฉมความหยาบของจิตใจของผู้คนหลายผู้คน ใช่หรือไม่ บางครั้งจริตเราก็ถูกจริตสังคมชักนำไปได้เหมือนกัน
จนทำให้เราแสดงจริตตนออกมาแบบไร้ทิศไร้ทาง บางคนแสดงความคิดที่น่าขยะแขยง
บางคนแสดงเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้ตัวเอง
มีไม่น้อยที่แสดงความคิดจากความรู้สึกลึกๆของตัวเอง แต่ความคิดเห็นเหล่านั้น
แท้จริง ความจริง เรารู้มามากน้อยเพียงใด
และในส่วนลึกแล้วบอกเราว่าอะไร(เสียงมโนธรรม)
นั่งคิดกันก่อน ไตร่ตรองกรองความคิดกันก่อน แล้วจึงนำมาประมวลหาทางแก้ไข
อย่าปล่อยให้อารมณ์พาไป เพราะไม่แน่ว่าพรุ่งนี้
อาจจะมีเรื่องร้ายๆเรื่องใหม่เกิดขึ้น แล้วทุกคนก็เฮโลกันไปเรื่องนั้น
เรื่องนี้ก็เงียบหายไปตามลม นี่คือ
สิ่งแรกที่เราต้องทำก่อน
แน่นอน คุณค่าของทุกชีวิตย่อมมีค่าเหนือสิ่งอื่นใด
แม่รักลูกสาวมากเพียงใด พี่สาวรักน้องสาวมากเพียงใด ใยใครก็ไม่รู้
อยู่ๆก็มาพลัดพรากคนรักจากไป เหมือนกระชากร่างนั้นจากไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
นกน้อยนั้นรักลูกมันฉันใด เรามนุษย์ย่อมรักลูกหลานตัวเองมากมายฉันนั้น
ความรักชนิดนี้มีอยู่ในทุกสรรพสิ่งสร้าง
ยิ่งถ้าเป็นสิ่งสร้างที่แสนประเสริฐเราต้องเห็นคุณค่าความรักนี้ให้สูงส่ง
สิ่งที่ต้องปลูกฝังในจิตใจทุกผู้คนคือการเคารพในความรัก เคารพในคุณค่าของทุกผู้คน
เหตุการณ์ครั้งนี้หลายฝ่ายต่างออกมาแก้ต่าง
แก้ตัวให้พ้นผิดให้พ้นความรับผิดชอบเพียงเพื่อไม่ให้ตัวเองต้องเป็นคนผิด
โดยอ้างถึงระบบที่ผิดพลาด อ้างกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายที่อ่อนด้อย
แล้วใยเรามัวแต่เฝ้าโทษระบบ โทษกฎหมาย ใยเราไม่หวนกลับมาคิดกันว่า เพราะอะไร
สังคมเราก้าวถลำลงลึกถึงเพียงนี้เล่า??? หรือเพราะเราอยู่ในระบบวัตถุนิยมมากเกินไป
ไม่ได้ไม่ดีเราจึงพูดกันถึงแต่เรื่องทางด้านวัตถุและเปลือกนอกเท่านั้น ระบบจิตใจ
ระบบศีลธรรม ที่เป็นสิ่งสำคัญกลับขาดหายไป มนุษย์ยุคเราขาดความเป็นมนุษย์
ไม่มีคุณสมบัติของความเป็นมนุษย์ จนสู้นกตัวเล็กๆหลังบ้านไม่ได้เลย
ที่เติบโตใต้อ้อมกอดของแม่ ที่เฝ้าดูแลอยู่ไม่เคยห่าง รังใต้ร่มใบไม้
ต่างพึ่งพากัน เห็นแล้วน่าอาย
รังนกน้อยที่แม่นกสร้าง แม้เพียงแค่หลบแดดกันฝนได้
แต่ก็ไม่อาจจะทำให้ลูกนกปลอดภัยจากสิ่งภายนอกได้มากนัก สิ่งสำคัญ คือ นกที่มี “หัวใจแห่งการเป็นแม่”
ต่างหากที่เฝ้าระวัง เฝ้าถนอม ลูกนกน้อยในรังให้ปลอดภัย
นี่เป็นพลังยิ่งใหญ่ที่จะทำให้ลูกนกน้อยเติบโตขึ้น
บ้านที่ดีมิใช่มีเพียงรั้วที่แข็งแรงเท่านั้น สิ่งสำคัญ คือ คนในบ้านต้องได้รับการปลูกฝังอบรม
ให้มีความรัก ให้มีเมตตา อ่อนโยนต่อกัน ช่วยเหลือปกป้องซึ่งกันและกัน บ้านจึงเป็นเพียงสิ่งสร้างเพื่อให้เป็นครอบครัวที่มั่นคง
สังคมโดยรวมมิใช่มีเพียงกฎหมายเท่านั้น แต่คนในสังคมต้องเป็นคนที่มีคุณภาพ
ต้องเป็นคนที่มีหัวใจมนุษย์ ที่จะไม่คิดทำร้ายทำลายกัน
ต้องเคารพสิทธิความเป็นคนของผู้อื่น เคารพในเพศตรงข้ามให้เกียรติกัน เรียนรู้ที่จะมีเมตตาต่อกัน
ต้องมีการสร้างระบบคุณธรรมของคนในสังคมให้เข้มแข็ง
สร้างพื้นที่สังคมให้เป็นพื้นที่ที่ดี ที่อุดมสมบูรณ์
พร้อมที่จะรับเมล็ดพันธุ์ที่ดีที่จะถูกปลูกฝัง
เพื่อที่จะให้ความร่มรื่นแก่กันและกัน
สิ่งเล็กๆหลังบ้านกำลังเติบโตขึ้นทุกๆวัน
และไม่นาน เมื่อลูกนกเติบกล้าโบยบินได้ รังนกนี้ก็จะเป็นเพียงเศษซากบนกิ่งไม้ สิ่งที่เหลือไว้คือความอัศจรรย์ของสิ่งสร้างที่มีชีวิต
ที่ทำให้ชีวิตได้ข้อคิด ได้เห็น ได้ช่วยเหลือพึ่งพากันและกัน โลก สังคม
บ้าน โรงเรียน ที่ทำงาน ควรเป็นพื้นที่เล็กๆในการสร้างความงามในนามของความเมตตาต่อกัน
ใช่หรือไม่ สิ่งนี้ถ้าเริ่มทำกันอย่างต่อเนื่อง
จะเป็นกำแพงที่ปกป้องคุ้มกันทุกชีวิตให้รอดปลอดภัย
และที่สุดไม่ต้องมาสร้างมายาจริตว่า “ใครล่ะ” จะเป็นคนเริ่ม เราเริ่มจากตัวเราเลยในวันนี้ เพื่อเราจะไม่ต้องมาเสียใจกับความโหดร้ายอย่างเช่นวันนี้อีก...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น