วันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2556

วงล้อเดิมที่กำลังตั้งวง

วงล้อเดิมที่กำลังตั้งวง
            อากาศหัวค่ำและหางค่ำเริ่มเย็นลง ท้องฟ้าเริ่มปิดงานเร็วขึ้นและขี้เกลียดที่จะเปิดในยามเช้าตรู่ บรรยากาศขมุกขมัวสลัวๆ พาให้ใจเศร้าเหงาๆหงอยๆ แต่เมื่อมองดูดวงอาทิตย์กลับมีสีสวยและดวงโต มีความใกล้ชิดกับโลกมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ส่งสัญญาณบอกว่า ขวบปีนี้เริ่มนับถอยหลังส่งท้ายแล้ว วันเวลาผ่านมาผ่านไป ปฏิทินเก่าหมดค่าคู่ควรมอง และถูกทิ้งร้างไปวันแล้ววันเล่า ไม่นานเราก็จะร่วมฉลองรับปีใหม่ บรรยากาศเก่าๆของปีใหม่ก็วนเวียนมาอีกครั้ง จะเป็นครั้งที่เท่าไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับวันเวลาของแต่ละคนบนโลกนี้ สิ่งหนึ่งผ่านไปสิ่งหนึ่งเข้ามา แต่สำหรับชีวิตของเรานั้นไม่มีอะไรเก่า ไม่มีอะไรใหม่ มีแต่ความดีงาม ความงดงามของวันเวลาเท่านั้นที่เราควรนำมาประดับสวมใส่ในวงปีชีวิต
ภาพ : อินเตอร์เน็ต
            ต้นไม้หน้าบ้านที่รดน้ำในทุกๆเช้า ใบเริ่มเหลือง เริ่มแดง แล้วร่วงหล่น ด้วยความเป็นมือใหม่หัดปลูกก็คิดว่า มันกำลังจะตายหรือเปล่า ครั้นมาเห็นต้นไม้รอบๆวัดของเราใบเริ่มเปลี่ยนสีและร่วงหล่นเหมือนกัน เจ้าหน้าที่วัดต้องปัดกวาดกันมากขึ้นในทุกๆเย็น รถที่มาจอดใต้ร่มไม้ ไม่นานก็เต็มไปด้วยใบที่หล่นร่วงมากอง การที่ใบไม้ร่วงในฤดูนี้เป็นเรื่องปกติ เพราะทางตำราได้บอกไว้ว่า
การร่วงของใบไม้นั้นจะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว ทั้งนี้เพราะเป็นการปรับตัวให้ชินกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป ซึ่งเป็นวิธีหนึ่งของต้นไม้ในการต่อสู้กับความหนาวเหน็บของบรรยากาศ ทั้งนี้เพราะตามผิวของใบไม้นั้นมีรูอากาศมากมายเพื่อระบายความชื้น หากอากาศแห้งเพียงใดความชื้นก็ยิ่งระเหยเร็วมากขึ้นเพียงนั้น และในยามที่มีอากาศหนาวเย็น ความชื้นภายในใบไม้ก็จะระเหยไปในปริมาณมาก  ซึ่งความชื้นของใบไม้นี้มาจากการดูดน้ำของรากของต้นไม้นั่นเอง แต่พออากาศหนาวเย็นบทบาทของรากก็จะลดหย่อนลง ความชื้นที่ดูดรับไว้ก็จะไม่พอต่อการบำรุงเลี้ยงลำต้น อันเป็นอันตรายต่อชีวิตของต้นไม้นั้น ๆ ได้ ดังนั้น เพื่อความอยู่รอด ต้นไม้จึงใช้วิธีทำให้ใบร่วง 
โดยในระหว่างที่ต้นไม้กำลังผลัดใบนั้นก็จะมีเซลล์อ่อน ๆ เกิดขึ้นระหว่างก้านใบกับกิ่ง ซึ่งในระยะแรกผนังของเซลล์จะบางและอ่อนนุ่ม ทำให้ความชื้นและสิ่งหล่อเลี้ยงผ่านท่อของขั้วกิ่งก้าน ผ่านเข้าไปสู่ใบได้ แต่เมื่อใบแก่ เซลล์ตัวนี้ ก็จะแข็งและเน่าตาม ใบไม่สามารถรับความชื้นและสิ่งหล่อเลี้ยงได้ทำให้ขาดแคลนวัตถุดิบ (น้ำและเกลือแร่) ที่ใช้ในการสังเคราะห์แสง จึงไม่สามารถสร้างสิ่งหล่อเลี้ยงเองได้ ทำให้ใบเหลืองและเหี่ยวแห้ง เซลล์ตัวนี้ก็จะพลอยเหี่ยวแห้งตามไปด้วยเพราะขาดน้ำ พอถูกลมกระหน่ำใบก็จะร่วงเกลื่อนพื้นไปหมด นอกจากนี้แล้วการร่วงของใบไม้นั้นยังเกิดจากการขับสิ่งปฏิกูลออกไปอีกด้วย

ธรรมชาติมีระบบหมุนเวียนเป็นกงล้อเมื่อครบปีตามฤดูกาล  แล้วคนเราเล่า...มีการสลัดใบเก่า นิสัยเก่า ความประพฤติด้านลบออกจากชีวิตบ้างไหม ??? หรือมีแต่เก็บสะสมไว้เป็นเชื้อเพลิงเพื่อสู่ไฟนรก ใบไม้ที่ร่วงหล่นอาจกำลังจะบอกเราว่า หากไม่รู้จักสลัด ปลดปล่อยบางส่วนออกมาบ้าง ชีวิตเราก็ไม่มีทางเจริญเติบโต แน่นอนวันนี้เราอาจจะบอกว่า การเจริญเติบโตของคนเรานั้น เขาวัดกันที่การมีมากมีน้อยในสิ่งอำนวยความสะดวก จนมีการนิยามคำใหม่ๆกันว่า
ใช้ของแบรนด์เนม + เครื่องสำอางนำเข้า ความงาม
รถรุ่นนิยม + สร้อยทอง = ความหล่อ
โน๊ตบุ๊ค + ไอแพด = ความฉลาด
วิตามินบำรุง + ฟิตเนต = สุขภาพดี
ผลงาน + ข่าวฉาว = แผนการประชาสัมพันธ์
เคารพบูชา + เงินทอง = ศรัทธา
สภาสูง + เสื้อสูท = เทวดา
ภาพ : อินเตอร์เน็ต
นี่เป็นส่วนหนึ่งของการวัดความเจริญเติบโตของสังคมในยุคปัจจุบัน ยุคที่คนสะสมเปลือก เก็บรักษาใบไม่ให้ร่วงหล่น กอดรัดไว้ให้มั่นไม่หมายให้หายไปจากตน แล้วก็เที่ยวโอ้อวดถึงความมี ความเด่น ความดัง โดยไม่ใส่ใจต่อความดีกันแม้แต่น้อย เราถูกกลืนกินด้วยค่านิยมที่ไม่รู้จักพอ ค่านิยมที่ต้องไม่เป็นรองใคร ต้องนำสมัยด้วยสิ่งเสพภายนอก ถูกหลอมหล่อให้บูชาเศรษฐศาสตร์มากกว่าศาสนา ให้เทิดทูนเงินตรามากกว่าพระเจ้า จะทำสิ่งใดต้อง บวก ลบ คูณ หาร ของผลกำไร ในชีวิตคิดทำอะไรต้องมีคำว่า ฉันจะได้เท่าไหร่ เสพติดการใช้จ่ายล่วงหน้าด้วยการถูกยกให้มีเครดิต แล้วถึงวันหนึ่งวันที่วงล้อที่ต้องเปลี่ยนผ่านมาถึง เรากลับไม่สนใจ ไม่สลัดผลัดใบแห่งความอยากได้ใคร่มีออกไป เก็บไว้เป็นส่วนเกิน ที่ก่อให้เกิดโรคร้าย และนำความทุกข์มาสู่ชีวิตเรา

ทุกสรรพสิ่งบนโลกนี้ต้องน้อมรับการเปลี่ยนผ่าน และในระหว่างทางนั้นย่อมมีบ้างที่ต้องสูญเสีย สละ สลัด บางสิ่งบางอย่างออกไปบ้าง วันเวลา วงล้อฤดูกาลมักสอนให้เราเห็นความเป็นสัจจะอยู่เสมอๆ แต่จะมีเวลาสักกี่ครั้งที่เรามองเห็นมัน หรือเห็นแล้วก็มิได้นำพามาเป็นบทสอนให้ชีวิตก้าวหน้าเดินต่อไป อาจจะเป็นเพราะว่าเราเห็นสิ่งอื่นที่สำคัญกว่า อาจจะเป็นเพราะว่าเรื่องจิตใจเป็นเรื่องที่มิอาจจะชี้วัดความสำเร็จได้หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเรายังไม่พบความทุกข์ที่เกิดจากสิ่งเหล่านี้ แล้วเราจะรอให้พบเจอโดยไม่ได้มีการเตรียมตัว เตรียมตั้งรับไว้เลยหรือ ....

ไม่มีความคิดเห็น: