วันศุกร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2555

หากถ้ำนั้นเป็น...


หากถ้ำนั้นเป็น...
คืนพรุ่งนี้แล้วสิ... ค่ำคืนแห่งความชื่นชมยินดี ค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองการบังเกิดมาของเด็กน้อยในถ้ำเลี้ยงสัตว์ สีสันและบรรยากาศคริสต์มาสเต็มไปทุกหนทุกแห่ง ภายในวัดของเราก็มีการประดับตกแต่งวัด ติดไฟอย่างสวย และยังมีกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นมากมาย โดยอาศัยผู้เสียสละเวลา มาช่วยตระเตรียมงาน กิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจคือ การประกวดถ้ำ หรือเรียกว่า การทำถ้ำมาประกวดกัน มีการประชาสัมพันธ์ เชิญชวนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยมาสักระยะหนึ่งแล้ว ที่น่าสนใจไม่ใช่อยู่ที่การแข่งขันเพื่อช่วงชิงเงินรางวัล แต่กิจกรรมนี้หากมองให้ลึกลงไปแล้ว มีบทสอนเราหลายเรื่อง
ประการแรก การทำถ้ำให้พระมาบังเกิดนั้นมันสะท้อนถึงว่า เราปรารถนาจะให้พระมาบังเกิดแบบไหน แน่หล่ะ...เรามีความเชื่อว่าองค์พระกุมารบังเกิดในถ้ำเลี้ยงสัตว์ ตามสภาพแวดล้อมของประเทศอิสราเอล และตามประเพณีที่มีการปฏิบัติสืบต่อกันมา นั่นคือ ในพระคัมภีร์ พระเยซูเกิดในรางหญ้า (ลก. 2:7) ซึ่งว่ากันจริงๆแล้วเราก็ไม่แน่ใจว่าอยู่ตรงไหน แต่เนื่องจากในแถบเมืองเบธเลเฮมมีถ้ำอยู่มากมาย ที่พวกดูแลฝูงแกะใช้เป็นที่พักของสัตว์(รางหญ้า)และตัวเอง จึงเป็นเหตุทำให้เราเชื่อว่า รางหญ้าที่พระวรสารอ้างถึงนั้นคงอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งในเมืองเบธเลเฮมนั่นเอง
สำหรับประเพณีการทำถ้ำนั้นมาจากอิตาลีโดยนักบุญฟรังซีส อัสซีซี เป็นผู้เริ่ม โดยในวันคริสต์มาส ปี ค.ศ. 1223 ท่านนักบุญฟรังซีส เชิญชวนชาวบ้านทุกคนในหมู่บ้าน Greccio ที่ท่านอยู่ร่วมแสดงละคร มีการเตรียมถ้ำพระกุมารและใช้สัตว์จริงๆเช่น วัวและลา อยู่ในถ้ำด้วย จากนั้นก็จุดเทียนยืนรอบๆถ้ำที่ทำขึ้น ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าจนถึงสว่าง และฟังมิสซาด้วยกัน นับตั้งแต่นั้นมาประเพณีการทำถ้ำพระกุมารก็แพร่หลายไปทั่วทุกแห่ง
ประเพณีการประดับตกแต่งเป็นพิเศษในวันคริสต์มาสนี้มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานเช่นกัน ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 มีบันทึกว่าในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีประเพณีการประดับตกแต่ง สำหรับทุกบ้าน และทุกวัดในวันคริสต์มาสที่ต้อง ตกแต่งด้วยโอ๊กโฮล์ม ไอวี เบย์ลอเรลและอะไรก็ตาม ที่ในฤดูกาลนี้ที่ออกผลผลิตเป็นสีเขียวเช่น ใบไอวีรูปหัวใจ กล่าวกันว่าเป็นสัญลักษณ์การเสด็จมายังโลกมนุษย์ของพระเยซู สิ่งประดับตกแต่งหลายๆประเภทได้พัฒนาขึ้นทั่วโลกที่เป็นคริสตชน และสิ่งตกแต่งเหล่านั้นขึ้นอยู่กับประเพณีท้องถิ่นและทรัพยากรที่หาได้ สำหรับของประดับที่ผลิตขึ้นเชิงพาณิชย์ครั้งแรกปรากฏในเยอรมนี ในคริสต์ทศวรรษ 1860 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโซ่กระดาษที่เด็กทำในประเทศ ซึ่งเป็นการแทนฉาก (ถ้ำ) คริสตสมภพ เป็นที่นิยมมาก ผู้คนต่างได้รับการสนับสนุนให้ประกวด และสร้างฉาก (ถ้ำ) เหมือนดั้งเดิมหรือเหมือนจริงที่สุด ในบางครอบครัว แม่พิมพ์ที่ใช้ทำฉาก (ถ้ำ) นั้นถูกมองว่าเป็นมรดกมีค่าประจำตระกูลทีเดียว นี่จึงเป็นเหมือนมรดก ศรัทธา  ที่สืบทอดมาถึงพวกเรา ให้เราได้มีส่วนร่วมในการบังเกิด แม้ว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้นเป็นเพียงสัญลักษณ์ก็ตาม แต่หากเราได้สร้างสีสันความงดงาม สร้างบรรยากาศให้เกิดขึ้น ใช่หรือไม่ อย่างน้อยก็ทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมาได้รำลึกถึงและถามไถ่ถึงการบังเกิดมาของ พระเยซูคริสตเจ้า
และเพื่อให้มีบรรยากาศในการมีส่วนร่วมมากยิ่งๆขึ้น ในหลายๆแห่งจึงจัดให้มีการประกวดความงดงาม ความคิดสร้างสรรค์ ของถ้ำพระกุมาร และที่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นถ้ำ ก็เพื่อเชื่อมโยงยึดว่าสถานที่เกิดของพระผู้ไถ่นั้น เรียบง่ายถึงขั้นขัดสน เสียด้วยซ้ำไป ทำให้คิดต่อไปว่า แล้วทำไมพระองค์ไม่เลือกเกิดในปราสาทราชวังเล่า ทั้งๆที่มีสิทธิที่จะเป็นดั่งนั้นได้ ข้อนี้สอนเราว่า ภารกิจการเกิดมาของเรานั้นแท้จริงแล้วเพื่อผู้อื่น หาใช่การเกิดเพื่อให้ผู้อื่นมารับใช้เรา ใช่หรือไม่ ประเด็นนี้เองเราเห็นถึงความผิดเพี้ยนของการมีชีวิตบนโลกนี้ในยุคสมัย ที่ต้องการให้ทุกสรรพสิ่งมารับใช้เราและตอบสนองเรา จึงเกิดการดิ้นรนแข่งขัน และทำทุกสิ่งให้ได้ดั่งหวัง วิถีชีวิตแห่งสังคมองค์รวมจึงค่อยๆพังเพราะความคาดหวังจากคนอื่นมากไป โดยมิได้มีสิ่งใดออกจากเราหยิบยื่นให้ผู้อื่น สรุปแล้วมันก็คือความเห็นแก่ตัวของเรานั่นเอง สถานที่เกิดบางทีไม่สำคัญเท่ากับเกิดมาแล้วทำอะไรที่งดงามให้กับคนรอบข้างบ้าง
ที่สุดเราเชื่อว่าพระประทับอยู่ในจิตใจของเรา ฉะนั้นแล้วจิตใจของเราก็เป็นถ้ำๆหนึ่งที่พระจะเสด็จลงมาบังเกิด แล้วภายในจิตใจของเราเป็นถ้ำแบบไหน เป็นที่ประทับอย่างไรเล่า เราเคยออกแบบเคยสร้างถ้ำน้อยๆนี้มากี่ร้อยกี่พันครั้ง มีความเรียบง่ายหรือรกไปด้วยสิ่งประดับประดา หรือมีแต่สิ่งงดงามล้อมรอบ แต่แก่นแท้แล้วเป็นเพียงการโอ้อวด เป็นถ้ำที่มีความอบอุ่นที่พร้อมสำหรับการบังเกิดของพระตลอดเวลา หรือเป็นถ้ำที่ปิดมิดชิดสนิทแนบในความมืดมนหาหนทางเปิดประตูไม่เจอ จะเป็นสถานที่บังเกิดที่เปิดต้อนรับทุกคนในทุกสถานการณ์ หรือเป็นเพียงที่แคบๆที่มิอาจจะให้ใครเข้ามาพักอาศัยหรือล่วงล้ำเข้าไปได้ หรือใจของเราเป็นถ้ำที่มีคุณค่าสร้างรากฐานด้วยคุณธรรมความดีงาม ห่อหุ้มด้วยความวางใจในพระเสมอ หรือเป็นเพียงถ้ำสำเร็จรูป ไม่ชอบออกแรงสร้างสรรค์ กลัวเหนื่อย อะไรที่ง่ายๆสะดวกเร็วๆคือคำตอบ ไม่ต้องตรวจสอบรายละเอียดให้มากเรื่อง หัวใจจึงหยาบและไร้การกลั่นกรอง หากถ้ำนั้นเป็นหัวใจเรา วันนี้เราจะเป็นถ้ำแบบไหน ลองช่วยกันออกแบบ เพราะถ้ำแห่งจิตวิญญาณนี้ไม่มีการแข่งขัน มีแต่การแบ่งปันให้กันและกัน....Merry Christmas แด่ทุกๆท่านนะครับ...

ไม่มีความคิดเห็น: