หากถ้ำนั้นเป็น...
คืนพรุ่งนี้แล้วสิ... ค่ำคืนแห่งความชื่นชมยินดี
ค่ำคืนแห่งการเฉลิมฉลองการบังเกิดมาของเด็กน้อยในถ้ำเลี้ยงสัตว์ สีสันและบรรยากาศคริสต์มาสเต็มไปทุกหนทุกแห่ง
ภายในวัดของเราก็มีการประดับตกแต่งวัด ติดไฟอย่างสวย และยังมีกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นมากมาย
โดยอาศัยผู้เสียสละเวลา มาช่วยตระเตรียมงาน กิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจคือ “การประกวดถ้ำ” หรือเรียกว่า “การทำถ้ำมาประกวดกัน” มีการประชาสัมพันธ์ เชิญชวนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยมาสักระยะหนึ่งแล้ว
ที่น่าสนใจไม่ใช่อยู่ที่การแข่งขันเพื่อช่วงชิงเงินรางวัล แต่กิจกรรมนี้หากมองให้ลึกลงไปแล้ว
มีบทสอนเราหลายเรื่อง
ประการแรก การทำถ้ำให้พระมาบังเกิดนั้นมันสะท้อนถึงว่า
เราปรารถนาจะให้พระมาบังเกิดแบบไหน แน่หล่ะ...เรามีความเชื่อว่าองค์พระกุมารบังเกิดในถ้ำเลี้ยงสัตว์
ตามสภาพแวดล้อมของประเทศอิสราเอล และตามประเพณีที่มีการปฏิบัติสืบต่อกันมา นั่นคือ
ในพระคัมภีร์ พระเยซูเกิดในรางหญ้า (ลก. 2:7)
ซึ่งว่ากันจริงๆแล้วเราก็ไม่แน่ใจว่าอยู่ตรงไหน แต่เนื่องจากในแถบเมืองเบธเลเฮมมีถ้ำอยู่มากมาย
ที่พวกดูแลฝูงแกะใช้เป็นที่พักของสัตว์(รางหญ้า)และตัวเอง จึงเป็นเหตุทำให้เราเชื่อว่า
รางหญ้าที่พระวรสารอ้างถึงนั้นคงอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่งในเมืองเบธเลเฮมนั่นเอง
สำหรับประเพณีการทำถ้ำนั้นมาจากอิตาลีโดยนักบุญฟรังซีส
อัสซีซี เป็นผู้เริ่ม โดยในวันคริสต์มาส ปี ค.ศ. 1223 ท่านนักบุญฟรังซีส
เชิญชวนชาวบ้านทุกคนในหมู่บ้าน Greccio ที่ท่านอยู่ร่วมแสดงละคร
มีการเตรียมถ้ำพระกุมารและใช้สัตว์จริงๆเช่น วัวและลา อยู่ในถ้ำด้วย
จากนั้นก็จุดเทียนยืนรอบๆถ้ำที่ทำขึ้น ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าจนถึงสว่าง
และฟังมิสซาด้วยกัน นับตั้งแต่นั้นมาประเพณีการทำถ้ำพระกุมารก็แพร่หลายไปทั่วทุกแห่ง
ประเพณีการประดับตกแต่งเป็นพิเศษในวันคริสต์มาสนี้มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานเช่นกัน
ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 มีบันทึกว่าในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีประเพณีการประดับตกแต่ง สำหรับทุกบ้าน
และทุกวัดในวันคริสต์มาสที่ต้อง “ตกแต่งด้วยโอ๊กโฮล์ม ไอวี
เบย์ลอเรลและอะไรก็ตาม ที่ในฤดูกาลนี้ที่ออกผลผลิตเป็นสีเขียว” เช่น ใบไอวีรูปหัวใจ กล่าวกันว่าเป็นสัญลักษณ์การเสด็จมายังโลกมนุษย์ของพระเยซู
สิ่งประดับตกแต่งหลายๆประเภทได้พัฒนาขึ้นทั่วโลกที่เป็นคริสตชน และสิ่งตกแต่งเหล่านั้นขึ้นอยู่กับประเพณีท้องถิ่นและทรัพยากรที่หาได้
สำหรับของประดับที่ผลิตขึ้นเชิงพาณิชย์ครั้งแรกปรากฏในเยอรมนี ในคริสต์ทศวรรษ 1860
โดยได้รับแรงบันดาลใจจากโซ่กระดาษที่เด็กทำในประเทศ ซึ่งเป็นการแทนฉาก
(ถ้ำ) คริสตสมภพ เป็นที่นิยมมาก ผู้คนต่างได้รับการสนับสนุนให้ประกวด และสร้างฉาก
(ถ้ำ) เหมือนดั้งเดิมหรือเหมือนจริงที่สุด ในบางครอบครัว แม่พิมพ์ที่ใช้ทำฉาก
(ถ้ำ) นั้นถูกมองว่าเป็นมรดกมีค่าประจำตระกูลทีเดียว นี่จึงเป็นเหมือนมรดก “ศรัทธา”
ที่สืบทอดมาถึงพวกเรา ให้เราได้มีส่วนร่วมในการบังเกิด
แม้ว่าสิ่งต่างๆเหล่านั้นเป็นเพียงสัญลักษณ์ก็ตาม แต่หากเราได้สร้างสีสันความงดงาม
สร้างบรรยากาศให้เกิดขึ้น ใช่หรือไม่ อย่างน้อยก็ทำให้ผู้คนที่ผ่านไปมาได้รำลึกถึงและถามไถ่ถึงการบังเกิดมาของ
“พระเยซูคริสตเจ้า”
และเพื่อให้มีบรรยากาศในการมีส่วนร่วมมากยิ่งๆขึ้น
ในหลายๆแห่งจึงจัดให้มีการประกวดความงดงาม ความคิดสร้างสรรค์ ของถ้ำพระกุมาร
และที่ยังคงเอกลักษณ์ของความเป็นถ้ำ ก็เพื่อเชื่อมโยงยึดว่าสถานที่เกิดของพระผู้ไถ่นั้น
“เรียบง่ายถึงขั้นขัดสน” เสียด้วยซ้ำไป ทำให้คิดต่อไปว่า
“แล้วทำไมพระองค์ไม่เลือกเกิดในปราสาทราชวังเล่า”
ทั้งๆที่มีสิทธิที่จะเป็นดั่งนั้นได้ ข้อนี้สอนเราว่า ภารกิจการเกิดมาของเรานั้นแท้จริงแล้วเพื่อผู้อื่น
หาใช่การเกิดเพื่อให้ผู้อื่นมารับใช้เรา ใช่หรือไม่ ประเด็นนี้เองเราเห็นถึงความผิดเพี้ยนของการมีชีวิตบนโลกนี้ในยุคสมัย
ที่ต้องการให้ทุกสรรพสิ่งมารับใช้เราและตอบสนองเรา จึงเกิดการดิ้นรนแข่งขัน และทำทุกสิ่งให้ได้ดั่งหวัง
วิถีชีวิตแห่งสังคมองค์รวมจึงค่อยๆพังเพราะความคาดหวังจากคนอื่นมากไป
โดยมิได้มีสิ่งใดออกจากเราหยิบยื่นให้ผู้อื่น สรุปแล้วมันก็คือความเห็นแก่ตัวของเรานั่นเอง
สถานที่เกิดบางทีไม่สำคัญเท่ากับเกิดมาแล้วทำอะไรที่งดงามให้กับคนรอบข้างบ้าง
ที่สุดเราเชื่อว่าพระประทับอยู่ในจิตใจของเรา
ฉะนั้นแล้วจิตใจของเราก็เป็นถ้ำๆหนึ่งที่พระจะเสด็จลงมาบังเกิด แล้วภายในจิตใจของเราเป็นถ้ำแบบไหน
เป็นที่ประทับอย่างไรเล่า เราเคยออกแบบเคยสร้างถ้ำน้อยๆนี้มากี่ร้อยกี่พันครั้ง
มีความเรียบง่ายหรือรกไปด้วยสิ่งประดับประดา หรือมีแต่สิ่งงดงามล้อมรอบ
แต่แก่นแท้แล้วเป็นเพียงการโอ้อวด เป็นถ้ำที่มีความอบอุ่นที่พร้อมสำหรับการบังเกิดของพระตลอดเวลา
หรือเป็นถ้ำที่ปิดมิดชิดสนิทแนบในความมืดมนหาหนทางเปิดประตูไม่เจอ จะเป็นสถานที่บังเกิดที่เปิดต้อนรับทุกคนในทุกสถานการณ์
หรือเป็นเพียงที่แคบๆที่มิอาจจะให้ใครเข้ามาพักอาศัยหรือล่วงล้ำเข้าไปได้ หรือใจของเราเป็นถ้ำที่มีคุณค่าสร้างรากฐานด้วยคุณธรรมความดีงาม
ห่อหุ้มด้วยความวางใจในพระเสมอ หรือเป็นเพียงถ้ำสำเร็จรูป ไม่ชอบออกแรงสร้างสรรค์ กลัวเหนื่อย
อะไรที่ง่ายๆสะดวกเร็วๆคือคำตอบ ไม่ต้องตรวจสอบรายละเอียดให้มากเรื่อง
หัวใจจึงหยาบและไร้การกลั่นกรอง หากถ้ำนั้นเป็นหัวใจเรา วันนี้เราจะเป็นถ้ำแบบไหน ลองช่วยกันออกแบบ
เพราะถ้ำแห่งจิตวิญญาณนี้ไม่มีการแข่งขัน มีแต่การแบ่งปันให้กันและกัน....Merry Christmas แด่ทุกๆท่านนะครับ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น