วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

พระอาทิตย์ยังขึ้นทางตะวันออกอยู่ใช่ไหม


พระอาทิตย์ยังขึ้นทางตะวันออกอยู่ใช่ไหม
คงจะน่าตกใจไม่ใช่น้อยที่อยู่ๆเราตื่นนอนขึ้นมาพระอาทิตย์ย้ายทิศไปขึ้นฝังตรงข้าม พอยามเย็นก็ไปตกยังทิศที่เคยขึ้นมาชั่วนาตาปีสิ่งเหล่านี้คงเป็นไปไม่ได้ เพราะด้วยกฎระเบียบแห่งธรรมชาติย่อมซื่อตรงในครรลองเสมอไม่เหมือนความเป็นมนุษย์ที่มักเปลี่ยนแปลงกลับทิศกลับทางได้เสมอๆ ครรลองที่งดงาม ความดีคุณธรรมของวันวานวันนี้กลายเป็นเรื่องไร้สาระเป็นเรื่องกลายพันธุ์ ความรู้สึกหวาดเสียวแปล๊บเข้ามาในจิตใจ เมื่อได้เห็นโพลล์ที่ว่าด้วยเห็นอย่างไรกับการโกงการคอร์รัปชั่น ผลออกมาในแต่ละครั้งมันเริ่มพลิกขั้วกลับด้านไปอยู่ในฝ่ายที่เห็นด้วยกับการโกงมากขึ้นเรื่อยๆ    ผลโพลล์เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา (ก็อย่าไปรู้เลยว่าสำนักไหน)เพราะเดี๋ยวนี้หัวข้อแบบนี้ผลออกมาใกล้เคียงกันอย่างมาก เกือบ ๗๐% เห็นดีเห็นงามยอมรับการคอร์รัปชั่น ถ้าตัวเองได้ประโยชน์ด้วย คือ โกงมาก็ขอแบ่งกันมั่ง แล้วจะเหยียบให้มิดไม่ปากโป้ง อะไรทำนองนั้น  โกงกับไม่โกง มันช่างต่างกันมากมายเหลือเกินแต่สังคมไทยโดยรวมกลับแยกไม่ออก ศีลธรรมเราเสื่อมถึงขนาดนั้นจริงหรือ...
ในสังคมวันนี้หลายสิ่งหลายอย่างมันเริ่มกลับตาลปัตรก็เพราะวิถีชีวิตแห่งการแข่งขันปลูกฝังกันตั้งแต่ซื้อที่ให้ลูกเข้าเรียนในโรงเรียนดีๆคุณธรรมที่สอนสั่งก็เป็นเพียงบทท่องจำให้นำไปสอบให้ผ่าน โตขึ้นก็ซื้อตำแหน่งยัดเงินหมื่นเงินแสนเพื่อแลกตำแหน่งที่ได้รับเงินเดือนเพียงหลักพัน ประกันได้เลยวิถีเยี่ยงนี้นำไปสู่การรีดไถและกอบโกงทุกวิถีทางเพื่อให้ได้กำไรจากสิ่งที่ลงทุนไป  ยามพลาดยามเผลอทำผิดแทนที่จะยอมรับยอมถูกปรับก็อวดเบ่งอวดเก่ง อ้างบารมีใช้ฐานะตำแหน่งชื่อเสียงเพื่อให้พ้นข้อกล่าวหาและเมื่อทำได้บ่อยๆก็กลายเป็นนิสัยและการโม้โอ้อวดว่าข้านี้ใหญ่ มีเส้นมีสายเที่ยวเดินกร่าง ไม่กลัวเกรงกฎหมาย ไม่กลัวเกรงกฎแห่งกรรมยิ่งทำยิ่งเพิ่มดีกรีความต่ำลงไปเรื่อยๆ สังคมกำลังบูชาสิ่งเหล่านี้ เทิดทูนยกย่องคนเหล่านี้วิกฤติในใจคนกำลังก่อร่างสร้างให้เป็นกำแพงหนา... จิตวิญญาณกลวงโบ๋ความสัมพันธ์มิตรภาพเป็นเพียงข้อแลกเปลี่ยน คบกันก็เพื่อมุ่งหวังผลประโยชน์ความเป็นมิตรสหายมันสูญหายตายไปจากผู้คน จนทำให้วันนี้เราแต่ละคนอยู่อย่างโดดเดี่ยวเหลียวมองหาคนจริงใจด้วยยากยิ่ง ซ้ำร้ายเมื่อความจริงใจที่เรามีให้ไปถูกข่มขืน ข่มขู่จนเกิดความหวาดระแวงในทุกความข้องเกี่ยวบนเส้นทางสู่ประตูสวรรค์จึงเห็นเพียงต่างคนต่างเดิน ไม่เห็นใครจูงใครเราอยากเห็นสังคมชุมชนแห่งความเชื่อของเราไหลล่องไปตามกระแสอย่างนี้หรือ
ในสถานการณ์โลกที่คนไม่รู้ทิศรู้ทางถูกครอบงำด้วยแรงยั่วยุด้วยความเห็นแก่ตัวของคนไม่กี่คน สามารถที่จะพาโลกไปสู่ความรุนแรง การนำเอาศาสนามาเป็นเครื่องมือเพื่อนำไปสู่สงครามแย่งชิงทรัพยากรโลก เป็นเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นในนามของเสรีภาพ หลายคนพูดว่าสันติภาพมักเริ่มต้นด้วยสงคราม เป็นเช่นนั้นจริงหรือ ใช่เป็นสิ่งที่มนุษย์ถูกเพาะปมค่านิยมนี้จนหลงลืมหลักความเป็นจริงที่ว่า สันติภาพต้องเริ่มต้นด้วยความรักและความเข้าใจพูดคุยกันฉันมิตร
ในขณะที่โลกของเรากำลังระอุด้วยความแค้นเคืองเนื่องด้วยมีผู้กล่าวอ้างว่าเป็นชาวคริสต์นิกายคอปติกออร์โธด็อกซ์คนหนึ่งชื่อว่า นาย นาโคอูลา บาเซลีย์ นาโคอูลาชายชาวอเมริกันเชื้อสายอียิปต์ วัย 55 ปี หรือใช้นามแฝงว่าแซม บาไซล์  สร้างภาพยนตร์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือดูถูกหยามเหยียดคนต่างความเชื่อทั้งๆที่รู้อยู่แล้วว่าความคิดเยี่ยงนี้จะนำไปสู่ความรุนแรง ก็สร้าง ก็ยังปล่อยให้มีการเผยแพร่ศาสนาจึงกลายเป็นเครื่องมือสร้างความเกลียดชังไป (นิกายคอปติกออร์โธด็อกซ์ : Coptic Orthodox Church ofAlexandria เป็นชนกลุ่มใหญ่ในประเทศเอธิโอเปีย เอริเทรีย และเป็นหนึ่งในชนกลุ่มน้อยที่มีจำนวนมาก( 10 %) ของประเทศอียิปต์ ศาสนาคริสต์นิกายคอปติกนี้แยกตัวออกไปในปี ค.ศ.451 ชาวคอปติกเป็นผู้ก่อตั้งอารามแห่งแรกในโลกและหลักปฏิบัติในการถือสัญโดษ เป็นส่วนสำคัญของความศรัทธา นิกายคอปติกเป็นนิกายใหญ่ที่ผู้คนนับถือกันมากในอียิปต์ )ซึ่งการกระทำดังกล่าวไม่เกี่ยวกับทางศาสนาคริสต์คาทอลิกแต่ประการใด
ขณะเวลาเดียวกัน ในวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา องค์สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ที่ 16 ได้เสด็จเยือนประเทศเลบานอนประเทศมุสลิม จึงทำให้บรรยากาศแห่งความร้อนระอุของความแค้นเคืองผ่อนคลายลงไปบ้าง พระองค์ได้ตรัสไว้ในระหว่างพบปะกับเยาวชนไว้ว่าพ่อขอทักทายเยาวชนมุสลิมที่มาร่วมงานกับเราในเย็นวันนี้การแสดงออกของพวกเธอ (เยาวชนมุสลิม)นับว่าสำคัญมากๆ  พ่อต้องการให้กำลังใจพวกเธอทุกคน(คริสต์และมุสลิม)จงกลับไปบอกคนในครอบครัวและเพื่อนๆด้วยว่า พระสันตะปาปาส่งความปรารถนาดีมาให้พระองค์ไม่เคยลืมพวกเขาในคำภาวนา จงบอกพวกเขาว่าพระสันตะปาปาเป็นทุกข์เมื่อได้ยินข่าวร้ายๆในทวีปนี้เฉพาะอย่างยิ่งในซีเรียและการสร้างภาพยนตร์ดูหมิ่นศาสดามูฮัมหมัด สำคัญสุดพ่ออยากบอกพวกเธอทุกคนว่านี่คือช่วงเวลาที่ชาวมุสลิมและชาวคริสต์ต้องก้าวไปด้วยกันเพื่อจะได้ทำให้สงครามและความรุนแรงต่างๆนั้น สิ้นสุดลงเสียที แปลโดย Pope Report
ศาสนาที่แท้จริง คือ ความจริงที่พระอาทิตย์ยังขึ้นในทิศทางเดิมๆอยู่เสมอคือหนทางที่จะพยุงโลกนี้ให้พบกับความผาสุก แล้วเราจะอยู่ในโลกแบบไหนกัน โลกที่ยังมีพระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันออกหรือเรากำลังไปหลงเชื่อว่าพระอาทิตย์ขึ้นทางตะวันตกกันเล่า??? อย่าโกหกตัวเองอย่าหลอกลวงผู้อื่นและอย่าเอามือปิดตาเพื่อบังโลกนี้เลย หันคืนสู่ความเป็นสัจธรรมปลุกคุณธรรมให้คืนสู่จิตใจเราและทำให้มันเข้มแข็งยิ่งๆขึ้น เพื่อวันใหม่เราจะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกและรับไออุ่นแห่งแสงอรุณรุ่งพร้อมๆกัน....

ไม่มีความคิดเห็น: