วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568

โลกเป็นไรหรือเพราะเราให้เป็นแบบนี้

 

โลกเป็นไรหรือเพราะเราให้เป็นแบบนี้

>>> ผู้ที่รู้จักตน ย่อมเป็นผู้มีปัญญา ผู้ที่ชนะตนเอง ย่อมเป็นผู้กล้าหาญ”  คัมภีร์เต๋า <<<

ท่ามกลางความขัดแย้งในดินแดน ในขอบเขตที่ยึดครอง จนทำให้บ้านเมืองเราตกอยู่ในภาวะการสู้รบกับประเทศเพื่อนบ้าน นำมาซึ่งการสูญเสียชีวิตผู้คนเป็นจำนวนมาก ยังไม่สามารถรู้ได้ถึงจุดสุดท้ายว่าจะลงเอ่ยกันอย่างไร? ภัยพิบัติก็เริ่มรุนแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม แผ่นดินไหว สึนามิ และอื่น ๆ ปีนี้โลกเป็นอะไรไม่รู้ดูเหมือนตกอยู่ในภาวะตกต่ำไปในทุก ๆ ด้าน หรือว่าโลกนี้ไม่ได้เป็นอะไรเลย มันก็หมุนไปตามวาระของมัน เพียงแต่เรามนุษย์นี่แหละ ที่เป็นตัวการทำให้โลกตกต่ำลง จิตใจผู้คนต่ำเตี้ยใช่หรือไม่ เราต่างฝ่ายต่างเห็นแก่ตัว ยึดโยงทุกสิ่งอย่างมาเป็นของตน เพื่อให้ตัวเองมีมาก เราต่างก็โลภสะสม โอ้อวด โดยมิสนใจเลยว่าสิ่งที่ทำไปนั้นมันส่งผลกระทบกระเทือนไปทั้งโลก ถึงสวรรค์ชั้นฟ้า พระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็ต้องพลอยเดือดร้อน ตามคำวอนขอของผู้คน

คนที่โลภ อยาก หวัง จะสรรหาสะสม มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ อยากมีไปเรื่อย ๆ ไม่สิ้นสุด ก่อเกิดทุกข์ กิเลสมากมายในใจ เวลาในชีวิตของแต่ละคนเหลือกันเท่าไหร่  ไม่มีใครรู้ได้ แล้วจะเสียเวลาไปกับความทุกข์ที่เป็นเหมือนกำแพงกั้นนี้กันอยู่ทำไม เมื่อพอเพียง สร้างความสุขให้เราได้ เหตุใดจึงไม่รู้จักพอกันบ้าง แสวงหากันมากมาย สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้อะไรกันเลย

ใช่หรือไม่ คนเราย่อมมีความอยากด้วยกันทุกคน แต่ไม่ควรมีความโลภ เราย่อมมีความรัก โลภ โกรธ หลง แต่ก็ต้องรู้จักที่จะระงับและควบคุมอารมณ์เหล่านั้นให้ได้ เราทุกคนย่อมมีบาป แต่ควรละอายและเลี่ยงการสร้างความชั่ว ควรสร้างแต่ความดี ไม่มีใครจะได้ทุกอย่างที่ตัวเองต้องการ แน่ล่ะ หวังได้ แต่ก็ใช่จะต้องสมหวังทุกเรื่อง ไม่มีใครที่มีแต่ความสุข และเช่นกันก็ไม่มีใครที่มีแต่ความทุกข์ตลอด อย่าหลงกับความสุขจนเกินไป และอย่าจมกับความทุกข์จนกลายเป็นเศร้า  ลดตัวตนลงบ้าง ความอยาก ความโลภ ก็จะลดลงตาม เราต้องค่อย ๆ เรียนรู้ และเข้าใจด้วยตัวเอง จากการฝึกฝนรู้จักที่จะก้าวข้ามผ่านความโลภไปให้ได้

 ชายคนหนึ่งเขาบอกทุกคนว่า “โลกนี้เต็มไปด้วยทางตัน มีแต่ความเจ็บ มีแต่ความแคบ มีแต่ความมืด” เขาตื่นเช้ามาทำสิ่งเดิม ๆ พูดกับคนเดิม ๆ คิดเรื่องเดิม ๆ อยู่ในวังวน เหมือนอยู่ในห้องขังไม่มีประตู เหนื่อย แต่ไม่ยอมพัก กลัว แต่ไม่กล้ายอมรับ ท้อ แต่ก็ยังฝืนทำให้เหมือนปกติ เขาเคยลอง “ทลายปัญหา” ด้วยแรง ทุบกำแพงด้วยกำปั้น แต่กำแพงแข็งกว่า และมือเขาก็บาดเจ็บเลือดไหล

วันหนึ่งในความเงียบ เขานั่งอยู่คนเดียวในห้องนั้น และเพิ่งสังเกตเห็นว่า ประตูเปิดอยู่แล้ว เพียงแค่เขา “หันกลับไปมอง” จึงพบว่าที่เขาติดอยู่ไม่ใช่เพราะไม่มีทางออก แต่เพราะไม่เคยเชื่อว่าตัวเองออกไปได้ เพราะมีแต่ของที่สะสมกางกั้น คนจำนวนมากไม่ได้แพ้เพราะไม่มีทางออก แต่แพ้ใจตัวเอง และต้องทนอยู่กับความทุกข์ ความกล้าไม่ใช่แค่เดินหน้า บางทีมันคือการยอมรับ การไม่มีบางอย่าง แต่เราจะพบหลายอย่างด้วยซ้ำไป ไม่ต้องมีเหมือนคนอื่น เราจะกลายเป็นน่ารักในสายพระเนตรของพระเจ้า

สงคราม ความรุนแรง สภาพเศรษฐกิจ สภาพสังคม เหตุการณ์บ้านเมือง ความโลภ ความโกรธ ความหลง จิตใจ และพฤติกรรมของผู้คน ไม่ได้อยู่ในวิสัยที่เราจะกะเกณฑ์ได้ แต่ใช่ว่าเราจะทำอะไรไม่ได้เลย เพียงแค่เราต่างต้องดูแลความโลภ ความโกรธ ความหลงของตัวเองให้ดี ดูแลความคิด คำพูด และการกระทำให้สะอาดเท่าที่ทำได้ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับโลกร้อน ๆ ใบนี้ และเราจะได้พบสวรรค์ตั้งแต่บนโลกนี้....

ไม่มีความคิดเห็น: