เวลาและความเปลี่ยนแปลง
>>> หากโลกยังหมุนอยู่
เวลาและการเปลี่ยนแปลงก็จะคงเดินหน้าต่อไป <<<
และแล้วก็หมดไปอีกปี ยิ่งมีอายุยิ่งรู้สึกว่าเวลาเดินรวดเร็วเหลือเกิน
ดูเหมือนเพิ่งจะฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ไปไม่นาน อ้าว..ฉลองอีกแล้วเหรอ เมื่อพูดถึงเวลาก็ต้องคิดถึงการเปลี่ยนแปลง สองสิ่งนี้คู่กันเสมอ
วันสิ้นปีเช่นนี้เราก็มาทบทวนว่าชีวิตเรานั้นเปลี่ยนแปลงเช่นไร ดีขึ้นมากน้อยเพียงใด
ยิ่งชีวิตภายใน ที่บ่อยครั้งเรามักจะละเลย เพิกเฉย พัฒนาขึ้นหรือแย่ลง สังเกตง่ายๆว่าเรามีความสุขมากขึ้นหรือน้อยลง
...
“เวลา” ไม่เคยรอใครอยู่ข้างหน้าและไม่เคยทิ้งใครไว้ข้างหลัง จะเดินของมันไปเรื่อย ๆ ไม่ช้าไม่เร็วและไม่หยุดเดิน มีแต่ความรู้สึกของเราที่ไปวัดความช้าเร็วของวันเวลา เราต่างหากที่ไม่เคยเที่ยงตรงเหมือนเวลา เวลาไม่มากำหนดกฎเกณฑ์ แต่คนเราต่างหากที่ใช้มันมากำหนดสิ่งต่าง ๆ จนคิดกันไปว่า “เวลา” สำคัญและมีค่ามากกว่า “คน” เวลาช่วยทำให้เรามองเห็นใจคนชัดเจนขึ้น เราอยากจะหยุดเวลาเอาไว้ ในจังหวะที่ทำให้เรามีความสุข จนไม่อยากปล่อยให้ผ่านพ้นไปสักวินาทีเดียว ยามเราทุกข์เกิดเรื่องไม่สบายใจ เรากลับอยากให้เวลานั้นผ่านพ้นไปเร็วที่สุด สุดท้ายแล้ว เวลาก็เดินไปอย่างซื่อสัตย์ ไม่เคยเข้าข้างใคร
“ความเปลี่ยนแปลง” เป็นธรรมดาของโลกนี้ที่เราต้องเรียนรู้
ยอมรับและเตรียมพร้อมที่จะอยู่กับมัน ความเปลี่ยนแปลง อาจจะทำให้เราเจ็บปวดบ้างในบางหน
แต่เราต้องอดทนเข้มแข็ง เฉกเช่นความเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล ที่ทำให้รู้ว่า
ทุกอย่างในชีวิตต้องใช้เวลารอคอยจนกว่ามันจะผ่านไป คนจำนวนไม่น้อยมักคิดว่า เมื่อเลือกอะไรไปแล้วจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
คิดไปกันเองว่าเราเชี่ยวชาญอันนี้ก็ไม่อยากเปลี่ยนแปลง สิ่งที่ได้เลือกไปแล้วมันไม่ได้ทำให้ชีวิตมีความสุข
ก็ต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ก่อนที่จะเลือกก็ต้องคิดอย่างรอบคอบว่า
นี่คือ สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต ทบทวน เรียนรู้ ยอมรับ แล้วเราจะพบว่า
“เรื่องเลวร้ายที่สุด” เกิดขึ้นได้ “เรื่องที่ดีที่สุด” ก็เกิดขึ้นได้ ทุกเวลาทุกการเปลี่ยนแปลง “ยังมีสิ่งดี ๆ รออยู่เสมอ” เพราะพระเจ้าทรงเห็นว่าทุกอย่างนั้น
“ดี”