อิ่มเกินไป
>>>บ่อยครั้งที่เรากินอาหารเพราะความยากหาใช่ความอดยาก
กินจนอิ่มล้น
กินเพื่อสนองปากหาใช่เพื่อบำรุงกาย
หลายอย่างเราก็เป็นเช่นนั้น
เสพจนล้น กอบโกยสะสมจนแน่ทะนาน>>>
หลังจากทานข้าวมื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นจนอิ่มแปร้ ก็รู้สึกคัน ๆ คอ จนไอออกมาอยู่หลายวัน วิตกจริตว่าจะติดโควิดหรือเปล่า!!! เฝ้าสังเกตอาการ ทั้งวันก็ไม่ไอไม่คันคอ จะเป็นเฉพาะหลังกินข้าวนี่แหละ ถามไถ่ผู้รู้ ก็ได้คำตอบว่า น่าจะเป็นกรดไหลย้อน ต้องกินให้น้อยลง แต่กินบ่อย ๆ เคี้ยวนาน ๆ จนละเอียด พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะสิ่งที่ลงไปนั้นมันกลายเป็นกรดไหลย้อนมาทำให้คันคอ ก็ต้องมาเริ่มฝึกนิสัยการกินกันใหม่ จากที่กินเร็ว กินเยอะ ก็เพลา ๆ ลงบ้าง เมื่อเกิดอาการแบบที่กล่าวมา ก็มานั่งคิดพินิจพิจารณาว่า ในชีวิตจริงหลายสิ่งก็เป็นเช่นนั้น อะไรที่มากไปก็มักล้นออกมา
ใช่หรือไม่ กินมากไปก็อ้วนออกมา
เสพมากไปก็ติดไม่คิดจะทำอะไร
คิดมากไปก็กลายเป็นคนวิตกจริตหรือถึงขั้นเป็นบ้าไปเลยก็มี
โลภมากไปก็กลายเป็นคนเห็นแก่ตัวโดนคนรังเกียจ กลัวมากไปก็เป็นโรคซึมเศร้า รักมากไปก็อันตรายเพราะต้องหึงต้องหวงโหยหาจนไร้ความสุข
ชีวิตต้องสมดุล ชีวิตที่แท้ต้องรู้ว่าสิ่งไหนพอดีกับตัวเอง
ชีวิตเราไม่ได้มีไว้โอ้อวด ชีวิตเรานั้นสั้นนัก เหมือนดังบทกวีรัสเซียกล่าวไว้ว่า
เวลาหนึ่งวันนั้นแสนสั้น ยังไม่ทันโอบกอดช่วงเช้า ก็ได้เวลาโบกมืออำลาช่วงเย็นแล้ว
เวลาหนึ่งปีนั้นแสนสั้น
ยังไม่ทันพินิจพิเคราะห์สีสันสดใสของฤดูใบไม้ผลิ ก็ได้เวลาสัมผัสสีขาวโพลนของหิมะแล้ว
เวลาหนึ่งชั่วอายุคนนั้นแสนสั้น
ยังไม่ทันรื่นเริงกับชีวิตวัยสดใส ก็ได้เวลาใกล้อาทิตย์อัสดงแล้ว มักจะรู้สึกเวลามันผ่านไปเร็วจนน่าใจหายกว่าจะรู้เดียงสา
ก็มักสายเสียแล้ว ทำให้เราต้องรู้จักหวงแหน หวงแหนความรักรูปแบบต่าง ๆ บนเส้นทางชีวิตที่เราประสพพบ ความรักจากเหล่าญาติสนิท
จากมิตรสหาย จากเพื่อนร่วมงาน จากเพื่อนร่วมเรียน เพราะถ้ามันผ่านไปแล้ว
มักไม่มีวันหวนกลับมาอีก
อายุ 20 ขึ้นไป “ถิ่นกำเนิด” หรือ “ต่างถิ่น” ก็คล้ายคลึงกัน ไปถึงไหนก็ปรับตัวได้
อายุ 30 ขึ้นไป “กลางคืน” หรือ “กลางวัน” ก็คล้ายคลึงกัน
ไม่ต้องหลับไม่ต้องนอนสักกี่วันกี่คืนก็ไม่เป็นไร
อายุ 40 ขึ้นไป “ระดับการศึกษาสูง” หรือ “ต่ำ” ก็คล้ายคลึงกัน เผลอๆ
คนมีการศึกษาน้อยกว่ายังสามารถหาเงินได้เก่งกว่า
อายุ 50 ขึ้นไป “สวย” หรือ “ขี้เหร่” ก็คล้ายคลึงกัน จะสวยแค่ไหน รอยย่น รอยตีนกา
ฝ้ากระก็เต็มใบหน้าเหมือนกัน
อายุ 60 ขึ้นไป “ตำแหน่งใหญ่” หรือ “เล็ก” ก็คล้ายคลึงกัน พอเกษียณแล้ว
ต่างก็ไร้ตำแหน่งเหมือนกัน
อายุ 70 ขึ้นไป “บ้านหลังใหญ่โต” หรือ “เล็ก” ก็คล้ายคลึงกัน ไขข้ออักเสบ
เดินเหินไม่สะดวก คงต้องการเนื้อที่ในบ้านแค่นิดเดียว
อายุ 80 ขึ้นไป “เงินมาก” หรือ “เงินน้อย” ก็คล้ายคลึงกัน โอกาสใช้จ่ายจะมีสักกี่มากน้อย
อายุ 90 ขึ้นไป “ผู้ชาย” หรือ “ผู้หญิง” ก็คล้ายคลึงกัน เพราะเรื่องนั้นมันจบไปนานแล้ว
อายุ 100 ขึ้นไป “นอน” หรือ “ลุก” ก็คล้ายคลึงกัน
เพราะลุกขึ้นมาก็ไม่รู้จะทำอะไร
ชั่วชีวิตหนึ่งของคุณหรือของใครก็ตาม
ก็คงไม่แตกต่างกันมากน้อยสักแค่ไหน ชีวิตมันก็แค่นี้จริง ๆ ปลงให้ตก มองให้เข้าใจ
เพ่งให้ทะลุ แล้วมีความสุข และหัวเร่าะทุก ๆ วันกับคนที่เรารัก
และคนที่รักเรา เฉลิมฉลองให้เหมือนว่า...ทุกๆวันเป็นวันปีใหม่ ทุกๆวันเป็นวันเกิดทุก
ๆ วันเป็นวันสำคัญ ทุก ๆๆ วัน คือ Happy New Year (ที่มา :
บทกลอนของรัสเซีย ชื่อว่า “สั้น” )
โลกวันนี้ที่กำลังถูกรุกราน ลุกลามด้วยโรคระบาด เราต้องหันกลับมามองชีวิตจริง ๆ จัง ๆ สิ่งที่เราเคยใช้ เคยกิน เคยเสพ ที่มากเกินไป เราต้องพยายามลดลงบ้าง อคติสูงก็บดบังสติ ยะโสเกินไปก็ด้อยค่าความอ่อนน้อม สะสมมากไปก็เสื่อมสุขมากเท่านั้น หาอาหารฝ่ายจิต เพิ่มพูนคุณค่าฝ่ายวิญญาณ แล้วเราจะพบกับหนทางแห่งความสุขอันแท้จริงนิรันดร์กาล….