วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2564

ล้ม ลุก เริ่ม

 

ล้ม ลุก เริ่ม


ล้มตอนเด็กไม่เจ็บเท่าล้มตอนโตเพราะตอนเป็นเด็กกับการล้มเป็นการเรียนรู้ที่จะยืนที่จะเดิน และร่างกายส่วนที่เป็นกระดูก เนื้อหนังจะประสานกันง่ายดายเมื่อเกิดบาดแผล ส่วนเวลาโตขึ้นคนเราก็เกิดจริต การล้มทางกายภาคนั้นนาน ๆ ครั้ง ส่วนมากจะเป็นการล้มที่เรียกว่าล้มเหลวเสียมากกว่า ผลลัพธ์ต่อมาคือการผิดหวัง และทำใจยอมรับไม่ได้  จึงเกิดการเจ็บปวดจากภายในที่รักษาหายได้ยากยิ่ง เราทุกคนจะมีบางช่วงเวลาของชีวิต เคยรู้สึกว่า เรากำลังประสบกับความล้มเหลวก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใดเพราะชีวิตเราจะมีคำว่า “ความสำเร็จ” ก็ต้องมีคำว่า “ล้มเหลว”เป็นของคู่กันเพียงแต่ว่าเราจะต้องรับกับสถานการณ์ความล้มเหลวแล้วลุกขึ้นสู้อีกครั้งได้อย่างไร?ชีวิตนับหนึ่งได้และเริ่มต้นใหม่ได้เสมอในยามวิกฤตที่ต้องพบกับความล้มเหลวนั้น “เวลา” สำคัญมาก ทบทวน แก้ไข ปรับปรุงจะทำให้เราบาดเจ็บน้อยที่สุดที่สุดแล้วเราต้องใช้ชีวิต มิใช่โชว์ชีวิต ให้คนอื่นมาชื่นชมยกย่อง


ในวันเวลาที่ผ่านมาวันแล้ววันเล่า ในหลายวงรอบที่ตกต่ำทุกข์ท้อ เมื่อเราลุกขึ้นได้เราก็พบกับความสุข มีความแข็งแกร่งขึ้น มีปัญหามาปัญญาแก้ไขก็เกิด ทุกข์นี้หมดทุกข์ใหม่ก็มา สุขวันนี้ก็เช่นกันย่อมมีวันพ้นผ่านสู่หวังในสุขครั้งหน้าในช่วงที่กำลังมีความสุขคงไม่อยากเริ่มอะไรใหม่ อยากจะเกาะกุมความสุขนั้นไว้ให้นานเท่านาน เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็คิดเช่นนี้ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ วันดีคืนร้ายชีวิตก็ต้องเผชิญเรื่องที่สุดจะคาดคิดได้ อยู่ ๆ ก็อาจจะพบกับการสูญเสีย การจากลา มีหลายคนอยู่ในภาวะที่รับไม่ได้ เพราะไม่เคยเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมพร้อมว่าต้องมีสักวันมวลทุกข์ก้อนใหญ่จะเข้ามา ยิ่งเราสร้างความผูกพันธ์กับบางสิ่งบางอย่างเอาไว้เหนียวแน่น จนถอยไม่ได้ แยกไม่ได้ บางเรื่องก็เป็นเรื่องที่เราประเมินเกินจริง ครั้งเกิดการไม่ได้ดังหวัง ก็เครียด คิดกังวล กลัวมากไปเอง จนยากลำบากจริง ๆ ในการที่จะไปลุกขึ้น ซึ่งไม่ว่าจะเป็น ธุรกิจ ชีวิต ความรัก ความสัมพันธ์ใด ๆ ก็ตาม ถ้าไม่พร้อมลุกขึ้นก็จะไม่มีการเริ่มต้น แต่มนุษย์ไม่ได้ถูสร้างมาให้พบกับความพ่ายแพ้


หากมองย้อนกลับไปเราก็คงมีประสบการณ์การเริ่มใหม่กันมาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว เริ่มโรงเรียนใหม่ ที่ทำงานใหม่ เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเพียงความตื่นเต้นในช่วงแรก ๆ แต่กับสิ่งที่ต้องเริ่มจากความล้มเหลวแล้วต้องเริ่มใหม่นี่สิ เราอาจจะยากยอมรับ และยากที่จะทำใจ มาวันนี้ที่ผ่านเรื่องราวเหล่านั้นมาได้ เราก็แค่ผิดหวัง เสียใจจมอยู่กับความเศร้าตรงนั้น เหมือนทุกอย่างพังทลายลงคิดว่าชีวิตมีแต่ถอยหลัง กว่าจะตั้งหลักได้ ก็ต้องใช้เวลาเยียวยากันสักพักการเริ่มใหม่จึงไม่ใช่เป็นการถอยหลัง แต่เป็นการเกิดใหม่ของพลังใจ เป็นความเข้มแข็ง และเป็นการต่อยอดต่อไป โดยที่ไม่ใช่ย้อนกลับไปที่จุดเริ่มต้น เพียงเริ่มตรงจุดที่เราอยู่จุดที่เราเป็น เริ่มก้าวต่อไป เป็นการเริ่มใหม่ด้วยหัวใจดวงเดิม เพิ่มเติมด้วยความแข็งแกร่ง


ทุกชีวิตเกิดมาล้วนต้องการความสุข แต่บางคนจมจ่อมอยู่กับความทุกข์หมดอาลัยตายอยากและสิ้นหวังกับชีวิต โดยหารู้ไม่ว่าความสุขนั้นมีอยู่รอบตัวเรา อีกทั้งชีวิตที่เป็นทุกข์นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงและเริ่มต้นใหม่ได้เสมอ ขอเพียงมีความกล้าที่จะเปลี่ยนวิธีคิด มีความหวังอยู่อย่างเต็มเปี่ยมว่า ชีวิตที่ดีของเราเริ่มต้นใหม่ได้ทุกวัน และสิ่งดี ๆ รออยู่ในทุกนาทีการมีทัศนคติที่ถูกต้องต่อทุกเรื่องที่เข้ามากระทบกระเทือน เพราะทัศนคติของเรานั้นมีองค์พระจิต ที่บันดาลดลวิธีคิด วิธีคิดของเรามีผลต่อการกระทำ และการกระทำของเรามีผลต่อทุกข์สุขในใจเรา การมองโลกในแง่ดียอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น จะช่วยทำให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น เมื่อใดที่เรามีความสุขจงแบ่งปันให้ผู้อื่นการมอบความเอื้ออาทร ความรักความเข้าใจเป็นการสร้างความสุขให้กับตนเองเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ความไม่กล้าแม้แต่จะยอมเปลี่ยนแปลงตนเองต่างหาก ที่ทำให้ยังคงมีชีวิตที่มีแต่ความทุกข์อยู่แบบเดิม ๆมาก้าวข้ามผ่านความกลัว ความล้มเหลว ลุกขึ้นให้เป็น เริ่มต้นใหม่ให้ได้ เพราะทุกวันเวลาคือ ปัสกา บนหนทางชีวิตจริง สุขสันต์วันปัสกา

ไม่มีความคิดเห็น: