ก้าวทีละก้าวกับเท้าเปล่า ๆ
การวิ่งในโครงการ “ก้าวคนละก้าว”
เพื่อหาทุนบรรเทาทุกข์ที่เกิดจากการขาดแคลนทุนในโรงพยาบาล 11 แห่งทั่วประเทศไทย
ของคุณตูน บอดี้สแลม ระยะทาง 2,191 กิโลเมตร จากใต้สุดที่ อ. เบตง จ. ยะลา
ขึ้นมาจนถึงเหนือสุดที่ อ. แม่สาย จ. เชียงราย ที่ต้องใช้เวลาถึง 55 วัน
กำลังได้รับความสนใจและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ตามประสาคนของโลกยุคใหม่
ยุคแห่งความรวดเร็วที่ขอให้ได้แสดงความคิดเห็น เพื่อแสดงความต่างบ้าง
เพื่อแสดงความเก่งโชว์กร่างโชว์กากก็ว่ากันไป
แต่สิ่งหนึ่งที่มองเห็นและชื่นชมผู้ชายคนนี้คือเลือกที่จะนิ่งและวิ่งตามอุดมการณ์ของตัวเอง
ไม่ออกมาตอบโต้ตีโพยตีพาย ไม่ได้วิ่งไล่ตามกระแส แต่ทำตามภารกิจที่ตั้งมั่นเอาไว้ คนเรามีสองขาเหมือนกัน
ต่างกันตรงที่ขาของเรามีไว้ก้าวไปข้างหน้ามิใช่เอาไว้ขัดขาคนอื่น
ความมุ่งมั่นที่จะทำเพื่อคนอื่นในสังคมยุคนี้นั้นหาได้น้อยเต็มที
บางครั้งชีวิตเราเดินทางสู่ความสำเร็จได้โดยอาศัยเพียงขาสองขา เท้าสองข้างที่เรามี…
และด้วยความกระทันหันญาติที่มาจากต่างประเทศออกปากชวนให้เดินทางไปเป็นเพื่อน
ที่เกาะมัลดีฟส์ เป็นการเดินทางที่รู้รายละเอียดไม่มากนัก
รู้แต่ว่ามีที่พักและจะมีคนมารับ
เป็นการเดินทางที่ต้องเตรียมตัวเตรียมใจรับทุกสถานการณ์
ในวันเดินทางเมื่อมาถึงสนามบินจึงรู้ว่าตารางการบินของเราจะล่าช้าประมาณหนึ่งชั่วโมง
และมีความกังวลนิด ๆ เพราะต้องต่อเครื่องเพื่อไปยังที่พัก
เวลาเพียงครึ่งชั่วโมงจะทันหรือเปล่า!!!ในใจก็คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างน่าจะผ่านไปได้ด้วยดี
ทุกอย่างฝากความไว้วางใจในพระเจ้า แล้วก็เป็นเช่นนั้น มีคนมารอรับที่ท่าอากาศยานนานาชาติเวลานาหรือมักเรียกว่า ท่าอากาศยานนานาชาติมาเล เป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศมัลดีฟส์ ตั้งอยู่บนเกาะฮุลฮูเลล
ทางตอนเหนือของเกาะมาเล ใกล้กับเมืองหลวงกรุงมาเล จากนั้นก็พาไปต่อเครื่องเพื่อไปยังสนามบินเกาะดาราวานดู
หรือท่าอากาศยานเกาะดาราวานดู ใช้เวลาบินอีกประมาณ
25 นาที เช่นเคยเมื่อมาถึงเราก็ยังงง ๆ ว่าจะทำอย่างไรต่อ!!!แต่…เพียงเดินพ้นประตูก็มีชายหนุ่มเดินมาทักและแนะนำตัว
แล้วก็พาเราเดินออกมา ในใจก็คิดว่าดีจริงเชียวที่พักอยู่ใกล้สนามบิน
ที่ไหนได้เขาพาเรามาลงเรือเพื่อต่อไปยังอีกเกาะหนึ่ง ใช้เวลาอีก 10 นาที
แม้แต่ชื่อเกาะเรายังไม่รู้เลย ยังพูดกันเล่น ๆ ว่าสงสัยจะถูกปล่อยเกาะ
มัลดีฟส์ (Maldivesหรือชื่อทางการคือ สาธารณรัฐมัลดีฟส์ ( Republic of Maldives )
เป็นประเทศที่มีพื้นที่ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการังจำนวนมากในมหาสมุทรอินเดีย และตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดียและประเทศศรีลังกา มีพื้นที่ความยาวจากเหนือจรดใต้
821 กิโลเมตร จากตะวันออกจรดตะวันตก 120 กิโลเมตร แต่เป็นพื้นที่ดินรวมเพียง 300
ตารางกิโลเมตรมีจุดสูงสุดเพียง 2.3 เมตร ประกอบด้วยหมู่เกาะปะการัง 26 กลุ่ม (atoll) รวม 1,190 เกาะ มีประชากรอาศัยอยู่เพียงประมาณ
200 เกาะ และได้รับการพัฒนาเป็นโรงแรมสำหรับนักท่องเที่ยว 74 เกาะ
เมื่อมาถึงที่บนเกาะ MAALHOS
ก็มีผู้จัดการผิวเข้มมายืนคอยแล้วก็พาเดินต่อไปยังที่พักอีกสัก 5 นาที
ต้อนรับด้วยมะพร้าวสด ๆ สีส้ม น้ำออกจะเปรี้ยวนิด ๆ ไม่หวานเหมือนบ้านเรา
และจากตรงนี้เป็นการเริ่มต้นของการเดินเท้าเปล่าตลอดเวลาที่อยู่บนเกาะนี้
เพราะเมื่อออกจากที่พักทุกอย่างก็เป็นพื้นทราย
และเพราะหลงลืมที่จะหยิบรองเท้าแตะมาจากบ้าน
ก็เลยคิดว่าจะลองใช้เท้าเปล่านี่แหละอยู่บนเกาะแห่งนี้สัก 2-3 วัน
เอาเข้าจริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเลย เพราะผู้คนที่นี่เดินเท้าเปล่าก็หลายคน
การเดินเล่นบนหาดทรายสวยขาวสะอาดด้วยเท้าเปล่าเป็นการหวนคืนสู่ธรรมชาติ มนุษย์เราพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายเพื่อร่างกายของเรา
แต่หลายครั้งก็กลับทำให้ร่างกายเราอ่อนแอลง
เราพัฒนาเครื่องยนต์กลไกมาแทนที่การเดิน การวิ่ง และเราก็สูญเสียชีวิตผู้คนด้วยอุบัติเหตุไปก็มิใช่น้อย
บนพื้นทรายขาว เห็นรอยเท้าเราที่เหยียบย่ำลงไป ไม่นานคลื่นก็สาดซัดพัดหายไป
ความสดสะอาดของน้ำทะเลที่มัลดีฟส์ยังคงงดงามเสมอ
ยิ่งกับชีวิตผู้คนบนเกาะแห่งนี้ที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ ไม่ต้องเร่งรีบ วุ่นวาย
การค้าการขายแทบไม่มีให้เห็น อยากกินปลาก็ออกเรือหาปลาด้วยการตกปลาทีละตัว
ไม่มีตลาดขายส่งอาหารทะเล
นี่จึงเป็นอีกช่วงเวลาหนึ่งที่ได้แอบอิงพิงธรรมชาติอย่างแท้จริง
ระหว่างที่เดินเท้าเปล่าทีละก้าว
ค่อย ๆ เดิน จึงมีเวลาสูดอากาศบริสุทธิ์ยามเช้า
มีเวลานั่งมองดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า และอิ่มเอมกับค่ำคืนพระจันทร์เต็มดวง
(ตรงกับลอยกระทง)
และเนื่องจากเป็นประเทศที่นับถืออิสลามจึงไม่มีการดื่มแอลกอฮอล์และการจัดเลี้ยงบันเทิงใด
ๆ ทั้งสิ้น มีเวลาที่จะนั่งรำพึงบนเปลแบบชาวบ้านใต้ต้นไม้ริมหาด
มองย้อนกลับมาในชีวิตเมืองที่เราใช้สิ่งอำนวยความสะดวกจนเกินไป เรามีขาสำหรับเดิน
แต่วันนี้เราแทบไม่ได้ใช้มันมากนัก มีเท้าเหยียบย่ำไปบนพื้นดิน
แต่วันนี้เรากลับเอาไว้ใช้เหยียบคันเร่งรถ เรามีพื้นดินพื้นทรายพื้นหญ้า
วันนี้เราไม่อาจจะเห็นสิ่งเหล่านี้ เพราะถูกปูทับด้วยถนนปูน ใช่หรือไม่ บางทีการที่เราใช้ขาก้าวเดินใช้เท้าเปล่าสัมผัสพื้น
มักจะทำให้เรารู้ตัว และพร้อมที่จะอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ได้อย่างมีความสุข
พร้อมที่จะออกไปเพื่อรับรู้ความรักของพระเจ้าผ่านทางธรรมชาติที่สวยงามและบริสุทธิ์ที่มีอยู่ทั่วไป…
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น