วันเสาร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2555

เด็กดีมีหน้าที่กี่อย่างด้วยกัน


เด็กดีมีหน้าที่กี่อย่างด้วยกัน
ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดีไม่น้อยเลยทีเดียว ที่เราให้ความสำคัญกับเด็กๆด้วยการให้มีวันเด็กแห่งชาติตั้งแต่ต้นๆปี เพื่อบอกเป็นนัยให้รู้ว่า เด็กคือผู้สร้างอนาคตสร้างโลก เราผู้ใหญ่ก็ควรสร้างและปลูกฝังเด็กตั้งแต่ต้นๆปี หรือตั้งแต่พวกเค้ายังเป็นหน่ออ่อนๆ ด้วยเช่นกัน  สอนให้เด็กๆพร้อมที่จะรับการเรียนรู้ ถ้าเราใส่ปุ๋ยผิดผลิตผลที่ได้ ย่อมเป็นพิษ ถ้าได้ปุ๋ยดีผลิตผลย่อมมีคุณภาพ แต่...หลายครั้งหลายคนก็ทำให้วันของเด็กๆเป็นเพียงพิธีกรรม จัดงานเพื่อให้มีผลงานเอาไปรายงาน มีคำขวัญที่สรรหาคำมาเพื่อให้ดูดีดูโก้เก๋ แล้วถ้าถามว่า คำขวัญเหล่านั้นได้แทรกซึมเข้าไปในเด็กด้วยวิธีการอันใดเล่า!!!!  แต่ละปีจะมีประจำผ่านมาแล้วก็ผ่านไป คำขวัญนั้นไม่สำคัญเท่ากับการน้อมรับว่า เด็กๆ คือของขวัญอันล้ำค่าของมวลมนุษยชาติ 

เด็กๆมักมีอะไรต่อมิอะไร ที่ทำให้เรารู้สึกฉงนและอมยิ้มได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นคำพูด ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกแบบบริสุทธิ์เดียงสา วิธีการออดอ้อน การเรียกร้องความสนใจ ความซุกซนที่ปนมากับการเรียนรู้ หากเราใส่ใจเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของพวกเด็กๆ เราจะมีความสุขที่เห็นเด็กๆสูงขึ้น ฉลาดขึ้น กล้ามากขึ้น ที่สุด..แล้วเราก็คาดหวังว่าเด็กต้องโตขึ้นเป็นคนดีรู้หน้าที่และเคารพต่อมโนธรรมเตือนตน ซึ่งแนวการสอนและปลูกฝังของผู้ใหญ่ ของพ่อแม่แต่ละคน ย่อมแตกต่างกัน ยิ่งในยุคสมัยนี้ด้วยแล้ว หลายคนถึงกลับบ่นว่ายากมากที่จะทำให้เด็กเดินบนทางแห่งคุณธรรมความดี ใช่หรือไม่...ยิ่งยากยิ่งท้าทายความเป็นผู้ใหญ่ของเรา...
ใช่..ในยุคสมัยที่มีอะไรมากมายมาทำให้เด็กโน้มตามและมีสิ่งน่าสนใจกว่าคำสอนพ่อแม่ หรือคนที่อยู่ร่วมกันในบ้าน โลกภายนอกน่าสนุกและบันเทิงกว่าการมาโรงเรียน มิต้องพูดถึงความเบื่อหน่ายในการต้องมาวัดฟังมิสซา ดังมีคำที่นิยามของเด็กๆที่โตเป็นวัยรุ่นไทยสมัยนี้ว่า    เล่น บีบีเพลิน เดินสยาม ตามกระแส ไม่แคร์สื่อ ซื้อบิ๊กอาย... มีบลายธ์เป็นของตัวเอง ครื้นเครงอยู่ในผับ นั่งหลับในห้องเรียน หมั่นเพียรเม้นท์เฟสบุ๊ค เผื่อฟลุ๊คจะได้แฟน ควงแขนเดินสยาม กินอาหารญี่ปุ่น ดูหนัง โยนโบ คาราโอเกะ อย่าเอะอะ บอกแม่ว่าไปไหว้พระใกล้ๆ ส่วนการบ้านนั้นไซร้ เอาไว้ทำที่โรงเรียน ตอนเรียนก้อนั่งหลับ ขากลับก้อแวะ หลั่นล้า ถึงบ้านช้า บอกแม่ว่าเรียนพิเศษ  อาบน้ำเสร็จ กินข้าวอย่างไว เพราะจะรีบไป คุยบีบี เขียนไดอารี่ คุยโทรศัพท์ อัพเฟส.. สถานการณ์จะไม่อัพเดท เพื่อนไม่รู้ กรูจะนอน เอาไว้ก่อน คืนศุกร์ - เสาร์ เราหลั่นล้า รัชดาด้วยกาน...
เมื่อเห็นสภาพนี้แล้วก็นึกย้อนไปถึงสมัยก่อนๆที่โรงเรียนมักให้ท่องจำหน้าที่ของเด็กดี เป็นเพลงที่ร้องกันติดปากว่า เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่ 10 อย่างด้วยกัน
1. นับถือศาสนา             2. รักษาธรรมเนียมมั่น
3. เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์       4. วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน
5. ยึดมั่นกตัญญู          6. เป็นผู้รู้รักการงาน
7. ต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ ต้องมานะบากบั่นไม่เกียจไม่คร้าน
8. รู้จักออมประหยัด
9. ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล น้ำใจนักกีฬากล้าหาญให้เหมาะกับกาลสมัยชาติพัฒนา
10. ทำตนให้เป็นประโยชน์รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติชาติต้องรักษา เด็กสมัยชาติพัฒนาจะเป็นเด็กที่พาชาติไทยเจริญ... (ประพันธ์คำร้องโดย ชอุ่ม ปัญจพรรค์) 
วันนี้อาจจะท่องไม่ได้ครบไม่จบ แต่เวลาที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าได้นำสิ่งเหล่านั้นมาเป็นแนวทางหนึ่งในการดำเนินชีวิต พอให้รู้ว่าหน้าที่การเป็นเด็กดีนั้นต้องทำดีอะไรบ้าง เพื่อจะได้ก้าวหน้าเป็นผู้ใหญ่ที่มีความพยายามจะเป็นคนดี เป็นผู้ใหญ่ที่มีสำนึกและรับฟังเสียงมโนธรรมเตือนตนว่าสิ่งไหนควรหรือไม่ควรจะกระทำ แม้จะมีบ้างบางครั้งที่พลาดพลั้งดื้อรั้นต่อเสียงภายใน สุดท้ายก็ต้องมานั่งสำนึกเสียใจต่อสิ่งที่ได้กระทำลงไป..
ปล่อยเด็กๆมาหาเราเถิด เราเป็นคนอย่างนี้หรือเปล่า หรือว่า ปล่อยเด็กๆไปจากเราเถิด เราไม่อยากรับผิดชอบ เมื่อมองแววตาของเด็กน้อยเหล่านั้น ใช่หรือไม่ พวกเขา คือ DNA ที่ถ่ายทอดจากพวกเรา หน้าที่ในวัยเด็กเราทำมาแล้วสมบูรณ์บ้างไม่สมบูรณ์บ้าง แต่วันนี้หน้าที่สำคัญอย่างหนึ่งคือสอนให้เด็กๆรู้จักหน้าที่ที่จะเดินไปสู่การจะเป็นคนดี ให้ได้ รู้ว่ายาก แต่เมื่อเราได้ของขวัญที่สวยงามน่ารักมาแล้ว ใยจะปล่อยให้ของขวัญอันล้ำค่านี้กลายเป็นสิ่งไร้ค่าไปล่ะ
แล้ววันนี้สำหรับเด็กๆ ยังจะยึดแนวทาง 10 ข้อนี้กันอีกหรือเปล่า มีการปลูกฝังในคุณค่าของเนื้อหาในเพลงนี้มากน้อยแค่ไหน แล้วถ้าถามกันจริงๆว่า เด็กเอ๋ย เด็กดีวันนี้หนูมีหน้าที่กี่อย่างด้วยกัน !!!! หน้าที่ของหนูๆก็คือ พยายามเป็นเด็กดี เชื่อฟังพ่อแม่ รักพวกท่านให้มากๆเพราะรู้หรือเปล่าว่า การเลี้ยงดูพวกหนูในยุคนี้มันลำบากมาก แต่พวกท่านก็พร้อมสู้ตาย เพราะท่านรักพวกหนูยิ่งกว่าชีวิต ทุกลมหายใจ ทุกช่วงของการหลับตามีภาพหนูอยู่เบื้องหน้าของพ่อและแม่เสมอ วันเด็กแห่งชาติมีปีละครั้ง แต่วันเด็กของพ่อแม่มีทั้งปีและทั้งชีวิต...
เมื่อหนูโตขึ้นหน้าที่ที่ควรยึดไว้เพียงแค่ไม่คิดร้ายเบียดเบียน ไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น มีมากก็แบ่งปัน เผื่อแผ่ต่อเพื่อนมนุษย์ ไม่พูดปดมดเท็จ ไม่คิดเอาทรัพย์สิ่งของผู้อื่นมาเป็นของตน ไม่ปรารถนารับในสิ่งอันตนไม่พึงได้ ฟังเสียงเตือนตนบ่อยๆ และไว้วางใจในพระเจ้าเสมอ นี่คือหน้าที่ของคนที่พยายามครองตนเป็นคนดีนะเด็กดี...

ไม่มีความคิดเห็น: