สังคมโนบิตะ สังคมที่ไม่รู้จักโต
ไม่ว่าเด็กคนไหนลองได้ดูการ์ตูนเรื่อง โดเรมอน สักครั้ง รับรองเป็นต้องติดอกติดใจ อยากจะดูอยากจะชมตลอดเวลา จนทำให้การ์ตูนเรื่องนี้เป็นอมตะ ที่ไม่เคยตายไปจากใจของเด็กๆเกือบค่อนโลก ทั้งๆที่คนเขียนการ์ตูนชุดนี้ได้สิ้นชีวิตไปแล้ว เป็นการ์ตูนที่ดูสนุกๆและมีแอบลุ้นในทุกๆตอนว่า เจ้าโดเรมอนจะมีของวิเศษอะไรให้โนบิตะ
โนบิตะ ก็คือ ตัวละครการ์ตูนเอกในเรื่อง โดราเอมอน หรือ โดเรมอน ฮีโร่ตลอดกาลคนหนึ่งของเด็กชาวเอเชีย (โดเรมอนเป็นหุ่นยนต์แมวจากโลกอนาคต ในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 22) โนบิตะ มีนิสัยขี้แย เป็นคนไม่เอาถ่าน อ่อนแอ ไม่เคยพึ่งพาตนเอง เรียนหนังสือก็ไม่เก่ง สอบได้ 0 คะแนนอยู่บ่อยๆ มาโรงเรียนสายเป็นประจำ ถูกทำโทษบ่อยครั้ง กีฬาก็ไม่ถนัด งานอดิเรกก็คือนอนกลางวัน กับอ่านการ์ตูน ถือว่าเป็นตัวละครที่ไม่เอาไหน แต่ในอีกด้านหนึ่งเขาก็มีนิสัยที่ดีอยู่มากเช่นกัน เช่น รักสัตว์ ขี้สงสาร รักเพื่อน อารมณ์อ่อนไหว และรักความยุติธรรม ยอมนำตัวเองเข้าไปเสี่ยงอันตรายเพื่อช่วยเพื่อนมนุษย์ ด้วยลักษณะนิสัยที่มีมิติความเป็นมนุษย์อยู่มากเช่นนี้ จึงทำให้ตัวละครนี้สามารถเข้าไปอยู่ในใจของคนทั่วโลกได้ไม่ยาก
โนบิตะหลงรักชิซุกะ ซึ่งอยู่ในวัยเดียวกัน มีความหวังที่จะได้แต่งงานด้วยเมื่อเขาโตขึ้น แต่ก็มักจะมีอุปสรรค และมีคู่แข่งหลายคน จากการโดนกลั่นแกล้งของไจแอนท์ และซูเนโอะเสมอ โนบิตะได้เพื่อนรัก คือ โดเรมอน คอยช่วยเหลือ ทำให้เขามีความมั่นใจมากขึ้น เรื่องราวในการ์ตูนชุดนี้ในทุกตอน โนบิตะก็ต้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าแมวสีฟ้าที่มีของวิเศษอยู่ตลอด และไม่ว่าจะผ่านมากี่สิบปีโดเรมอนเจ้าแมววิเศษก็ไม่มีวันตายและโนบิตะก็ยังไม่ยอมโตสักที
นึกอะไรขึ้นจึงนำเอาการ์ตูนเรื่องนี้มาเขียน... ก็เนื่องด้วยเพราะว่าในสังคมไทยเรา มีคนจำนวนมากที่ยังทำตัวเหมือนโนบิตะที่ไม่รู้จักโต เกิดเรื่องราวอะไรนิดอะไรหน่อย มีอุปสรรค มีปัญหาอะไร ก็ได้แต่ร้องเรียกคนช่วย เหมือนโนบิตะเรียกหาโดเรมอนและโดเรมอนก็ไม่เคยสอนให้โนบิตะรู้จักช่วยเหลือตัวเองเลย มีแต่นำเอาของวิเศษให้ ให้จนเคยตัว ใช่หรือไม่ คนไทยวันนี้พอขอไม่ให้ก็พาลโกรธเคือง พาลตะโกนขู่ เรียกร้อง ประท้วงกันยกใหญ่
และเช่นเดียวกันคนที่เข้ามาบริหารประเทศ กำกับสังคมก็แปลก!!!ในทุกยุคทุกสมัยก็เป็นเช่นนี้ เที่ยวแต่แจก เที่ยวแต่ให้ แต่หาได้น้อยมากที่จะสอนให้ประชาชนรู้จักพึ่งพาตัวเอง ลองมองกลับมาดูสังคมวันนี้ให้ดีๆ คนจนที่มีจำนวนมากนั้นส่วนใหญ่จนเพราะจนใจ จนปัญญา จนสมอง ที่จะครองชีวิตต่อสู้บนหนทางแห่งโลกยุคใหม่ได้ เพราะถูกครอบงำด้วยการรอคอยคนอื่นมาช่วยเหลือกันเป็นหลายสิบปี คอยแต่รอความหวังจากก้อนเงินเพียงน้อยนิดจากฝ่ายบริหารส่วนบนจะหยิบโยนมาให้ ได้เงินได้ทุนมาก็บริหารเงิน บริหารทุนกันไม่เป็น กลายเป็นหนี้เป็นสิน และก็ตั้งความหวังว่าจะมีโดเรมอนคนใหม่มาปลดหนี้ปลดสินให้ ใครสัญญา ใครให้ เช่นนี้ก็เทิดทูนอยู่เหนือหัว เป็นผู้อุปถัมภ์อย่างถาวร
ในครอบครัวยุคใหม่ก็เช่นกัน หลายครั้งเราผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็ทำตัวเป็นโดเรมอน ที่คอยปกป้อง ช่วยเหลือลูก เข้าข้างลูก จนลูกโตแต่ตัวแต่ไร้วุฒิภาวะแห่งวัยวุฒิ เอะอะอะไรก็ร้องขอ พ่อแม่ก็ใจดีให้ทุกอย่าง แต่สิ่งหนึ่งกลับละเลยในการให้ นั่นคือ การให้จิตวิญญาณแห่งความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ พ่อแม่ตีค่าความรักความดูแลแปรเป็นรูปของเงินและอุปกรณ์เสริมที่จัดซื้อให้ จึงใช้เวลาหมดไปกับการแสวงหาเงินทอง เวลาที่มีอยู่กับลูกๆกลายเป็นเวลาที่นั่งดูนอนดูลูกขะมักเขม้นกับเครื่องอำนวยความสะดวก หมดแรงที่จะขยับปากเปิดใจ ให้คำสั่งสอน หรือแม้กระทั่งประวัติศาสตร์สืบสานของวงศ์ตระกูลก็ไม่ได้เล่าขานให้ลูกหลานรับรู้ ความภูมิใจในรกราก ความเชื่อมั่นในความศรัทธาต่อวิถีทางของบรรพบุรุษจึงหลุดหายไปอย่างน่าเสียดาย
เช่นนี้แล้ว คนส่วนใหญ่ที่ถูกเพาะบ่มด้วยคุณค่าแห่งอุปกรณ์นิยม ถูกหล่อเลี้ยงด้วยของวิเศษที่มีให้ตลอดกาล เมื่อร่างกายต้องเติบโตและไหลสู่กระแสของโลกแห่งความเป็นจริง สิ่งที่มุ่งหวังต้องได้มาโดยอาศัยคนอื่นหยิบยื่นให้ ใช่ แม้กระทั่งเข้าโรงเรียนก็ฝากกัน จะทำงานก็ฝากฝังให้ทำ ใช้ระบบเส้นสายและอุปถัมภ์นิยมจนเคยตัว
หากมองโดยภาพรวมไม่ว่าสังคมชนบท สังคมเมืองต่างก็ถูกกระแสที่ไม่รู้จักโตครอบครอง เป็นสังคมที่มีคนมอบปลาให้แต่เขาไม่ได้สอนวิธีการหาปลาและทำปลาให้เป็นอาหาร
ในด้านมิติแห่งความเชื่อในศาสนาก็เช่นกัน เราก็ตีความศรัทธากันที่ต้องได้รับผลตอบแทน ในหนทางชีวิตที่เจอวิกฤติ เจอปัญหาก็หันหน้าพึ่งพาพระเจ้า ส่วนหนึ่งก็เพื่อให้จิตใจสงบ แต่ส่วนใหญ่กลับเข้าไปวอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่จะดลบันดาลให้ปัญหาหมดไป ให้ทุกข์ถูกขจัด เมื่อไม่ได้ดังหวัง ดังที่สวดวอนขอ ก็หันหลังให้พระเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะมัวแต่ยึดโยงว่าพระเจ้าเป็นองค์แห่งความดี จะปราณีต่อคนทุกข์ยาก แต่หารู้ไม่ ทุกครั้ง ทุกวันพระองค์ได้ประทานพรวิเศษให้เราในขณะที่เราลืมตามองโลก นั่น คือ เวลา และพระองค์ก็สอนให้เรารู้จักใช้มันให้เกิดประโยชน์ ให้เรามีปรีชาญาณ มีสติปัญญาและสมองเพื่อพัฒนาสรรพสิ่งสร้างบนโลกสู่ความดีและความงดงาม แต่เราก็กลับกลายเป็นโนบิตะที่ไม่รู้จักโต ไม่รู้จักค่าของวันเวลา ศรัทธามิใช่มีไว้เพื่อขอนะครับพี่น้อง....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น